ดู: 8179|ตอบกลับ: 17
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ดูแลผิว] ปัญหาผิวแตกลายนี่ แก้ยังไงค่ะ เรเซอร์หรือทำไรถึงจะหายค่ะ

[คัดลอกลิงก์]
พอดี พอดีพี่สาวพึ่งคลอดลูก แล้วมันมีรอยแตกลายที่นมนิดหน่อยอ่าค่ะ


อยากรู้อ่าอ่าค่ะ ว่าจะหายได้ไง   หรือว่าเรเซอร์


หรือมียาอะไรดีๆ ที่ทาแล้วจางลงได้ผลดีมั่งค่ะ ช่วยบอกกันทีนะค่ะ
2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-3-10 04:40:55 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เรเซอร์กี่ครั้งจาหายเนอะ คงเจ็บอ่านะ ขนาดหน้ายังเจ็บเลย
Carboxyคะ ผลดีมาก
Carboxy ทำที่นมไม่ได้คับเดียวนมเล็กนะครับ

อย่าดีเรเซอร์คับ 5-6 ครั่งก็เห็นผมแล้วแต่ไม่ 100%
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-3-11 03:12:42 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ราคาครั้งละเท่าไหร่คร่า  แพงป่ะ
6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-3-11 03:20:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
คือรายหรอค่ะ Carboxy
Carboxytherapy เป็นเครื่องมือที่นำมาทำการรักษาและขจัดไขมันส่วนเกิน หรือเซลลูไลท์แบบใหม่ โดยการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ เข้าไปที่ชั้นไขมัน ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าเป็นเทคนิคที่ง่าย สะดวกสบายและมีประสิทธิภาพสูงในการลดไขมันเฉพาะที่ ขจัดเซลลูไลท์ รอยแตกลาย และความหย่อนคล้อยของผิวหนังได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ ยังพบว่า การทำ Carcoxy therapy โดยการฉีดกาซ CO2 ปริมาณไม่มาก ประมาณ 2-4 ซีซีที่ขอบตาล่าง จะลดรอยคล้ำรอบดวงตา จากปัญหาขาดออกซิเจน และเพิ่มการไหลเวียนโลหิตรอบดวงตาให้เพิ่มขึ้น จึงลดรอยดำคล้ำได้เช่นกัน เทคโนโลยีนี้ แพทย์จากประเทศฝรั่งเศส คือกลุ่มแรกที่มีการนำมาใช้เมื่อประมาณปี ค.ศ. 1932 และขยายความนิยมสู่อิตาลี ในปี ค.ศ.1990 จากนั้น ก็ได้รับการยอมรับและนิยมใช้อย่างแพร่หลายทั้ง ในเอเชียและยุโรป
หลักการทำงานของ Carboxytherapy
- ก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ที่ฉีดเข้าไป ( โดยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ที่ใช้เป็นก๊าซบริสุทธิ์ ในวงการแพทย์ใช้อยู่แล้วในการฉีดเข้าช่องท้อง ในขณะส่องกล้องตรวจอวัยวะภายใน จึงไม่มีอันตรายแต่อย่างใด เพราะละลายน้ำได้ดีและสลายตัวอย่างรวดเร็ว) ก๊าซจะละลายกับน้ำอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดเป็นกรดคาร์บอนิค แล้วมีการปล่อยออกซิเจนจาก Hemoglomin mark ทำให้แคลเซียมไปจับกับกรดคาร์บอนิค ทำให้เกิดการขยายตัวของหลอดเลือด แล้วเข้าไปทำลายเซลล์ไขมันให้แตกออก จึงกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน และเกิดเส้นเลือดใหม่ขึ้นมา ก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ จะทำงานแบ่งเป็น 2 ส่วน ดังนี้
1. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ จะทำหน้าที่กำจัดและทำลายเซลล์ไขมันได้เป็นอย่างดี
2. ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ จะทำหน้าที่เพิ่มการไหลเวียนของเลือดได้ดียิ่งขึ้น จึงทำให้เกิดการเผาผลาญของเสียออกจากร่างกายอย่างมีประสิทธิภาพ มากขึ้น พร้อม ๆ กัน และ การเกิดขบวนการ LYPOLYSIS หรือการกระตุ้นการนำพาไขมันส่วนเกินออกไป ก็จะเพิ่มขึ้น สอดคล้องกัน
ประโยชน์ของการรักษาด้วยเทคนิค Carboxytherapy
ลดปัญหาเซลลูไลท์ สลายไขมันเฉพาะจุด ขจัดผิวส้ม ไม่ว่าจะเป็น น่อง ท้องแขน ต้นขา สะโพก หรือหน้าท้อง รอยแตกลายและ ความหย่อนคล้อยที่ไม่พึงปรารถนา อย่างง่ายดาย
การเตรียมตัวในการทำ Carboxytherapy
1. ควรสำรวจตัวเองว่ามีโรคประจำตัวหรือไม่ เพราะในผู้ป่วยปัญหาทางจิตเวช ผู้เป็นโรคความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ โรคเลือด หรือคนที่รับประทานยาที่มีผลต่อการแข็งตัวของเลือด เช่น Coumadin อาการแพ้ถุงมือ หรือผู้ที่มีปัญหาระบบทางเดินหายใจ เพราะอาจทำให้อาการดังกล่าวแย่ลงได้
2. ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะหลังทำอาจจะทำให้รู้สึกง่วงนอน หรือหายใจลึกขึ้น
3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ งดทานยาแก้หวัดหรือยาลดน้ำมูก เพราะทำให้ปริมาณน้ำในร่างกายลดลง อาจจะทำให้รู้สึกเพลียได้
ขั้นตอนและวิธีการในการทำ Carboxytherapy
- เมื่อทำความสะอาดผิวแล้ว ก็จะใช้เข้มขนาดเล็กมากเพียง 0.3 มิลลิเมตร ผ่านเข้าไปในชั้นไขมัน โดยไม่ต้องทายาชา เพราะไม่เจ็บมาก จากนั้นจะค่อยๆ ปล่อยก๊าซเข้าไปในบริเวณที่ต้องการ ด้วยปริมาณที่เหมาะสมต่อบริเวณนั้นๆ เช่น ใต้คาง 50 ซีซี หน้าท้อง 100-500ซีซี เป็นต้น ขณะที่เครื่องมือค่อยๆ ปล่อยก๊าซเข้าไปเรื่อยๆ ผู้รับบริการจะรู้สึกตึงๆ บริเวณที่ฉีด บริเวณที่ฉีดอาจรู้สึกอุ่นเล็กน้อยประมาณ 10-20 นาที เนื่องจากมีการเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ซึ่งในบางคนก็อาจจะรู้สึกเจ็บ ควรจะแจ้งกับแพทย์หรือพนักงานที่ทำให้ปรับระดับความเจ็บให้ลดลงได้ (ในเครื่องรุ่นใหม่จะมีปุ่มปรับดังกล่าว ที่เรียกว่า RPR = Ramp Pain Reduction เช่น ยี่ห้อ Carbonnique ) ซึ่งอาการดังกล่าวจะหายไปในไม่กี่นาที ในบางคนอาจจะสามารถคลำได้เสียงเหมือนมีก๊าซอยู่ใต้ผิว (cracking) แต่จะหายไปในเวลา 1ชั่วโมง และควรนวดเบาๆ หลังฉีดร่วมด้วย เพื่อให้ก๊าซกระจายอย่างสม่ำเสมอ หลังทำไม่จำเป็นต้องพักฟื้น สามารถทำกิจกรรมต่างๆ ได้ตามปกติ การทำต่อครั้งใช้เวลาประมาณ 5-30 นาที แล้วแต่บริเวณที่ทำ ควรทำสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ประมาณ 5-10 ครั้ง และเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลงเมื่อทำติดต่อกัน 5 ครั้งขึ้นไป โดยส่วนใหญ่จะพบว่าไขมันลดลงได้ประมาณ 30% แต่ส่วนใหญ่หลังทำประมาณ 10-15 ครั้งจึงจะสังเกตเห็นความแตกต่างลดลงได้ชัดเจน
ผลข้างเคียงและข้อแนะนำหลังทำ Carboxytherapy
หลังฉีด อาจจะรู้สึกเมื่อยหรือรู้สึกตึงๆ บริเวณที่ฉีด ในบางคนอาจจะพบรอยช้ำจากเข็มที่ฉีดได้ อาจจะอ่อนเพลีย ง่วงนอน หรือหายใจลึกกว่าปกติ จึงไม่ควรขับยวดยนต์กลับทันที ควรพักให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้นก่อน ในวันต่อมา ควรนวดด้วยครีมลดไขมันเฉพาะส่วนเป็นประจำ ควบคุมอาหาร และออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันมิให้เกิดจากสะสมของไขมันส่วนเกินขึ้นมาอีก
การศึกษาเรื่อง Carbon Dioxide Therapy in the Treatment of Localized Adiposities: Clinical Study and Histopathological Correlations(2) ในการศึกษานี้ใช้ carbon dioxide (CO2) therapy ในการรักษาผู้หญิง 48 คน ที่มีไขมันสะสมบริเวณต้นขา หัวเข่า และ/หรือหน้าท้อง โดยใช้ เครื่องมือ คือ Carbomed Programmable Automatic Carbon Dioxide Therapy ซึ่งคาดว่าการฉีดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นใต้ผิวหนัง ทำให้เกิดการสลายของไขมัน การศึกษานี้มุ่งหมายที่จะหาผลของการรักษาและผลข้างเคียงต่อการรักษาไขมันเฉพาะส่วน วัดผลการรักษาโดยดูการลดลงของเส้นรอบวงบริเวณดังกล่าว วัดผลของก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่มีผลต่อการไหลเวียนของเลือดโดยดูการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณเลเซอร์และวัดความดันของก๊าซออกซิเจน นอกจากนี้ยังทำการตัดชิ้นเนื้อของผู้หญิงจำนวน 7 คน ก่อนและหลังการรักษาเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงทั้งในเนื้อเยื่อไขมันและเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน ผลการศึกษา พบผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อย และทุกอาการสามารถหายไปในเวลาอันรวดเร็ว ซึ่งมีรายงาน ดังนี้
- พบว่ามีรอยแตกใต้ผิวหนังในผู้ป่วยทุกคน ซึ่งจะพบในชั่วโมงแรกของการรักษาเท่านั้น
- 30% ของผู้ป่วยพบก้อนเลือดขังเล็กน้อย จากการฉีดยาและจะค่อยๆหายไปเองโดยไม่ทำให้เกิดแผลเป็น
- 70% ของผู้ป่วยรู้สึกปวดบริเวณที่ฉีด ซึ่งจะเกิดในระยะเวลาสั้นๆและไม่รุนแรง ผลการรักษา
- พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงของสัญญาณเลเซอร์ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังการรักษา (บ่งชี้ว่าการรักษาช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณเส้นเลือดเส้นเล็ก ๆ)
- พบว่าความดันของก๊าซออกซิเจนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ หลังการรักษา
- จากการวัดเส้นรอบวงของต้นขา หัวเข่า และหน้าท้อง ก่อนและหลังการรักษา พบว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
- จากการดูชิ้นเนื้อที่ตัดออกมาด้วยกล้องจุลทรรศน์ พบว่าเนื้อเยื่อไขมันแตกออกและปลดปล่อย triglyceride ออกมา
- พบว่าผิวหนังชั้น dermis(ชั้นหนังแท้) หนาขึ้น เมื่อได้รับการรักษา และพบว่า collagen มีการกระจายตัวมากขึ้น
ผมแนะนำพวก IPL จะดีกว่าครับเพราะมีผลข้างเคียงน้อย
11#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-3-12 01:46:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
IPL คือไรค่ะ
วันนี้พาพี่ไป รพ ยันฮีมาพยาบาลเขาบอกว่าทำ CARBOXY ก็เจ็บพอสมควรอ่ะ (((เรากลัวแทน)))
IPL ดีกว่าไม่เจ็บ เหมือน  CARBOXY คับ
เคยอ่านรีวิวมา และก็กระทู้ที่คนไปตั้งถามคุณหมอผิวหนัง บอกว่า เลเซอร์ แฟคเซล จะได้ผล 50-90 % เลยอะครับ แต่ต้องทำหลายครั้งนะครับ เจ็บมากๆ ด้วยงะ ผมมีรอยแตกนิดหน่อยอยากลองทำดูแต่ ลองกับหน้าดูก่อน เจ็บอะ ทายาชายังเจ็บเลย ทำที่หน้ามาแล้วสองครั้ง ครั้งที่สองเจ็บกว่าครั้งแรก เดวอีกสองอาทิตจะไปทำครั้งที่ 3 แต่ว่าคงไม่ทำตรงลอยแตกแล้วหละครับ กลัว - - ตรงที่แตกอยู่แถวๆ ลักแล้ด้วยงะ เนื้ออ่อนๆ คิดแล้วเสียว อิอิ
14#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-3-16 04:11:46 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
อ่าค่ะ  ต้องรองไปถามดูก่อนนะค่ะ แต่ว่าส้มก็เคยนะค่ะ เลเซอร์แผลรอยสิวอ่าค่ะที่น่า ทำมา เกือบ 10 ครั้งและอ่าค่ะ ก็เจ็บนะค่ะ
แต่ก็ทนได้อ่าค่ะ
ผิวแตกลาย เกิดจากการยืดขยายต่อเนื่องของ ผิวหนัง และเนื้อเยื่อในเวลาอันรวดเร็วไม่กี่เดือน ทำให้เกิดการทำลายโครงสร้าง คอลลาเจน พบได้บ่อยที่สุดในคนตั้งครรภ์ มักเป็นบริเวณท้อง หรือหน้าอก ยังพบได้ในคนที่อ้วนอย่างรวดเร็ว หรือในวัยรุ่นที่กำลังสูงอย่างรวดเร็ว โดยพบผิวแตกลายได้ที่ ต้นขาด้านนอก หลังด้านล่าง หรือสะโพก ก็ไม่ใช่เรื่องผิดปกติอะไร คนที่กินยาสเตียรอยด์นาน ๆ มักมีรอยแตกลายใหญ่และเป็นหลายที่รวมถึงบนใบหน้าหรือการทาครีมที่มี สเตียรอยด์ ความเข้มข้นสูง นานเกินไปก็ทำให้เกิดรอยแตกลายได้ ถ้าสาเหตุดังกล่าวหายไป เช่น หลังคลอด, ลดน้ำหนักลงจากที่เคยอ้วนมาก่อน หรือ เมื่อพ้นช่วงวัยรุ่นแล้ว รอยแตกลายที่เป็นน้อย ๆ อาจค่อย ๆ จางลงได้สามารถป้องกันได้โดยการระมัดระวังสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้ผิวหนังมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว เช่น การเพิ่มน้ำหนักอย่างรวดเร็ว สำหรับกรณีที่ไม่สามารถควบคุมการขยายตัวของผิวหนังได้ อย่างการเปลี่ยนแปลงทางสรีรวิทยาของวัยรุ่น หรือขณะตั้งครรภ์ ควรบำรุงผิวหนังบริเวณที่มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดรอยแตกสูงให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ หากปล่อยให้ผิวแห้งก็จะยิ่งทำให้เกิดรอยแตกได้ง่ายขึ้นการรักษารอยแตกลายการ กรอผิว (Skin Peeling) เป็นวิธีหนึ่งในปัจจุบันที่ แพทย์ ผิวหนัง หลาย ๆ แห่งใช้ในการแก้ ปัญหา และ ฟื้นฟู สภาพผิว ที่เรียกว่า “ Microdermabrasion” ซึ่ง ไม่มีผลข้างเคียงและให้ประสิทธิภาพสูง เป็นที่นิยมแพร่หลายทั้งในยุโรปและอเมริกา ซึ่งเครื่องมือนี้ที่ใช้หลักการ Microdermabrasion โดยอาศัย คริสตัล บริสุทธิ์ ขนาดเล็ก (Pure Microcrystal) ขจัดเซลล์ผิวหนัง ชั้นบนที่ตายแล้วอย่างนุ่มนวล สามารถควบคุมระดับความลึกได้ 100% ผลที่ได้ก็คือมีการกระตุ้นให้ สร้างเซลล์ ผิวหนัง ใหม่มาทดแทนจำนวนมาก และจะเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังจากการรักษาโดยเฉลี่ย 6 – 10 ครั้ง การรักษาด้วยคาร์บ็อกซี่ (Carboxy) การทำคาร์บ็อกซี่คือการอัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าไปบริเวณเส้นผิวหนังที่แตกลาย จะทำให้จางลงอย่างเห็นได้ชัด ควรทำทุก 1 -2 ครั้ง / สัปดาห์ จนรอยแตกดีขึ้น วิธีนี้ได้ผล 60-70 เปอร์เซ็นต์สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เอส.พี. คลินิก สาขา อเวนิวเมเจอร์รัชโยธิน 02-9394851-2 เปิดบริการทุกวัน 10.00-20.00 น.
Carboxy เจ็บมาก ๆ อ่าค่ะ
17#
 เจ้าของ| โพสต์ 2010-3-21 02:47:49 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
เคยไปทำมาหรอค่ะ

Bust Boost

เจลบำรุงทรวงอก ช่วยยกกระชับ ลดเลือนรอยแตกลายให้ทรวงอกเต่งตึง ด้วยสูตรทรี-ดี ลิฟติ้ง คอมเพล็กซ์ที่จะช่วยให้ทรวงอกมีทรงสวยขึ้น (บริเวณสามเหลี่ยมตั้งแต่บริเวณฐานหน้าอกไปจนถึงคาง) และช่วยให้ทรวงอกกระชับเต่งตึงยิ่งขึ้น ช่วยต่อต้านสัญญาณแห่งริ้วรอยอย่างได้ผล และยังช่วยผลัดเซลล์ผิวให้บริเวณเนินอกขาวเนียนใส

ลองเข้าไปดูได้ที่ www.dcare.co.cc
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้