ดู: 5177|ตอบกลับ: 7
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[เสริมหน้าอก] PSC clinic: รีวิวน้องนมทรงหยดน้ำ 295 ซีซี โดยคุณหมอพีระ

[คัดลอกลิงก์]
สวัสดีค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกข้อมูลส่วนตัวก่อน เราอายุ 40 ปี (แก่แล้วเน๊อะ 555) บ้านอยู่ต่างจังหวัด มีลูกแล้ว รอบอกก่อนทำประมาณ 30 นิ้ว ฐานอกเดิม 27 นิ้ว  สูง 149 ซม. น้ำหนัก 45.xx กก. บางคนอ่านแล้วอาจสงสัยว่ามาทำอะไรเอาตอนนี้ป้า คืองี้ค่ะ เมื่อก่อนหนัก 51.xx กก พอหันมาออกกำลังกายและคุมอาหารได้ 6 เดือน น้ำหนักก็ลดไป 6 กก. หน้าอกที่เคยตู้มถึงคัพ A ก็กลายเป็น...ไม่มีคัพไปเลย (***ตามรูป***) จะเลิกใส่เสื้อชั้นในหันไปใช้แค่ซิลิโคนปิดจุกนมก็จะกระไรอยู่ (เศร้าไปอีก...) จะแก่ทั้งทีก็ขอแก่แบบหุ่นดีหน่อยละกันเน๊อะ...

พอตัดสินใจว่าจะทำก็ถาม google เลยว่าจะทำที่ไหนดี ในที่สุดเราก็เลือกคุณหมอพีระเพราะชื่อเสียงของคุณหมอที่ว่า “จะทำขนาดที่คุณหมอคิดว่าเหมาะสมเท่านั้น” ไม่ตามใจคนไข้ ซึ่งเราคิดว่ามันใช่อ่ะ การเลือกขนาดซิลิโคนสำคัญ หมอเลือกให้ตามความรู้ที่ได้เรียนมาว่าเหมาะสมและปลอดภัยในระยะยาว  เราว่าขนาดหน้าอกเป็นศิลปะอย่างหนึ่งนะ นั่นคือ ทำออกมาต้องสวย พอดีตัว ความใหญ่ไม่ใช่เรื่องของศิลปะ มันเป็นเรื่องของความพึงพอใจ ถ้าใหญ่เกินตัว อาจมีปัญหาอื่นๆ ตามมาในระยะยาวได้  และบังเอิญเราไปสะดุดตรงบทสัมภาษณ์คุณหมอ พอเราอ่านแล้วเรารู้สึกว่าแนวคิดในการทำศัลยกรรมของคุณหมอดี อ่านแล้วประทับใจ อีกอย่างที่สำคัญมากๆ เลยก็คือ คุณหมอผ่าตัดที่โรงพยาบาลค่ะ มีวิสัญญีแพทย์และพยาบาลที่มีความเชี่ยวชาญช่วยดูแลความปลอดภัย ให้นอนพักฟื้น 1 คืนเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ซึ่งเราตั้งใจไว้ก่อนแล้วว่าต้องผ่าที่โรงพยาบาลเท่านั้น เพราะการผ่าตัดย่อมมีความเสี่ยง อาจเกิดเหตุไม่คาดคิดขึ้นมาเมื่อไหร่ก็ได้ หากผ่าตัดที่คลินิกแล้วเกิดปัญหาระหว่างการผ่าตัด เครื่องไม้เครื่องมือหรือบุคคลากรอาจไม่พร้อม เราไม่อยากรับความเสี่ยงแบบนั้น อยากมีหน้าอกสวยๆ ล่ะก็ใช่ แต่ความปลอดภัยต้องมาอันดับ 1 ค่ะ ทำเลคลินิกและโรงพยาบาลนนทเวชก็หาง่าย เดินทางสะดวก ใกล้หมอชิต ว่าแล้วก็ตัดสินใจเลยว่าคุณหมอพีระนี้แหละ ที่จะสร้างน้องนมใหม่ให้กับเรา

หลังจากตัดสินใจได้ ก็โทรไปถามรายละเอียดกับทางคลินิก เจ้าหน้าที่แนะนำและให้บริการดีมาก จากนั้นนัดวันพบหมอเพื่อเลือกขนาดซิลิโคน และปรึกษาเกี่ยวกับโรคประจำตัวที่มีว่าจะมีผลต่อการผ่าตัดหรือไม่ น้องผู้ช่วยที่คลินิกให้เราส่งผลตรวจเลือด ผลตรวจร่างกาย และผลตรวจแมมโมแกรมให้ทางไลน์ก่อนถึงวันนัด และพอถึงวันที่ไปพบคุณหมอที่คลินิก คุณหมอบอกว่าโรคประจำตัวที่เรามีไม่มีผลต่อการผ่าตัดหน้าอก สามารถทำได้ ด้วยน้ำหนักตัว ความสูง และความต้องการของเรา คุณหมอเลือกซิลิโคนทรงหยดน้ำของ mentor ผิวทราย (ถ้าทำทรงหยดน้ำต้องใช้ผิวทรายเพื่อป้องกันการเคลื่อนของซิลิโคน) ขนาด 295 ซีซี และผ่าใต้ราวนมให้ ตอนแรกที่ฟังรู้สึกใจหาย ทำไมน้อยจัง อกจะห่างมั้ยนะ แต่พอน้องผู้ช่วยเอาซิลิโคนมาให้ลองใส่ในสปอร์ตบราของคลินิกเราก็ว่ามันใหญ่อยู่นะ เลยตัดสินใจว่าไงว่ากัน เชื่อใจและมั่นใจในตัวคุณหมอ ก็เลยไม่ได้แย้งอะไร เท่านี้ก็เท่านี้ค่ะ  และพอตกลงทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เราก็นัดวันผ่าตัดเป็นวันพรุ่งนี้เลย (โทรมาจองล่วงหน้าไว้ก่อนแล้ว)





2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-5-22 11:18:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
หน้าอกเดิมก่อนทำศัลยกรรม


3#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-5-22 11:22:51 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
#Day 1 วันผ่าตัด
ไปรายงานตัวที่โรงพยาบาลนนทเวชตอน 7 โมงเช้า เจ้าหน้าที่ทุกคนให้บริการดีมาก โรงพยาบาลดูสะอาด และทันสมัย พอตรวจร่างกายเสร็จเจ้าหน้าที่พาเราไปนอนรอในห้องพักและให้ข้อมูลที่จำเป็น ก็ช่วยทำให้เราหายตื่นเต้นไปเยอะเลย เราเข้าห้องผ่าตัดประมาณ 10 โมงเช้า ก่อนเข้าห้องผ่าตัดคุณหมอจะมาขีดๆ เชียนๆ บนหน้าอกให้เราก่อนผ่าตัดจริง ผลคือหัวนมเราสูงต่ำไม่เท่ากัน ซึ่งคุณหมอแจ้งว่าการศัลยกรรมหน้าอกในครั้งนี้จะไม่สามารถแก้ไขตรงจุดนี้ได้ เราก็ยอมรับและเข้าใจ จากนั้นก็เข้าห้องผ่าตัด  แล้วเราก็ตื่นขึ้นมาอีกทีตอนเที่ยงครึ่งด้วยเสียงเรียกของคุณพยาบาล ความรู้สึกแรกเลยคือหนักอก รู้สึกอึดอัดเหมือนหายใจไม่ค่อยสะดวก แต่ไม่ปวดเลยนะ เราก็พยายามเรียกสติกลับคืนมาว่าที่เป็นแบบนี้เพราะเราเพิ่งผ่าตัดหน้าอกมานะ พยายามหายใจช้าๆ ลึกๆ  ไม่ตื่นเต้นตกใจ น่าจะเป็นหลังรู้สึกตัวประมาณไม่เกิน 10-15 นาทีก็ปกติ พอถึงห้องพักก็ยังรู้สึกงงๆ อยู่ รีบเปิดเสื้อมองนมตัวเองแล้วก็รีบถ่ายรูปเก็บไว้ (***ตามรูป***) ความรู้สึกแรกที่เห็นคือ อืมมม...ขนาดก็ดีนะ แต่ไหงมันห่างจัง ยังไงก็เหอะ ยังดูตอนนี้ไม่ได้หรอก เท่าที่หาความรู้มาว่ากว่าจะหายบวม กว่าจะคล้อยเป็นทรง ต้องรอเวลาหลายเดือนโน่น ของเราไม่มีผ้ารัดอกนะ ใส่แค่เสื้อคนไข้ จากนั้นเราก็นั่งหลับต่อ รู้สึกสบายอ่ะ เบาๆ ตัว เคลิ้ม 555 เราเดาว่าคงเป็นเพราะผลของยาแก้ปวด ตื่นขึ้นมาตอนเย็นๆ มีอ้วกไปครั้งนึงแต่เป็นอ้วกแบบเบาๆ ไม่ทรมาน รู้สึกแสบแผลบ้างเวลาขยับ แต่ถ้านั่งหรือนอนเฉยๆ ก็จะไม่ปวด กินข้าวไปนิดนึง ไม่ค่อยหิว ตอนลุกจากเตียงยังต้องใช้คนพยุงช่วย เพราะกล้ามเนื้อหน้าอกยังใช้งานไม่ได้มาก ทำให้เราไม่สามารถออกแรงที่แขนได้ปกติ แต่พอลุกได้ก็สามารถยืน เดิน เข้าห้องน้ำได้เอง เรารู้สึกว่าแขนข้างขวาเราขยับได้ดีกว่าแขนข้างซ้าย แผลก็ไมค่อยแสบเวลาขยัย แต่ก็ยังยกสูงเกินหัวไหล่ไม่ได้ ส่วนแขนข้างซ้ายยังมีแสบแผลเวลาขยับ ขยับมากไม่ค่อยได้ ดีที่เราเป็นคนถนัดขวา  คืนแรกผ่านไปแบบไม่มีอะไร รู้สึกค่อนข้างแปลกใจว่าเฮ้ย! มันเจ็บแค่นี้เองเหรอเนี่ย น้อยกว่าที่คิดไว้ตั้งเยอะ
4#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-5-22 11:24:41 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
#Day 2 วันออกจากโรงพยาบาล
ตอนลุกนั่งจากการนอนจะมีปวดตึงที่เต้าอาจเพราะการเกร็งของกล้ามเนื้อหน้าอก เป็นอยู่ประมาณ 5 นาที รู้สึกปวดเต้านมมากกว่าเมื่อวาน แต่ก็ทนได้ เต้านมตึงมากขึ้น เราว่านมดูบวมเป่งกว่าเมื่อวานนะ แข็งขึ้นด้วย โดยเฉพาะหัวนมนี่คือพุ่งเลยและก็รู้สึกชาทั่วทั้งหน้าอก  หมอมาราวด์ก่อนให้กลับบ้านตอนประมาณ 9 โมงเช้า ถอดท่อระบายเลือดออก ซึ่งอันนี้เรากลัวยิ่งกว่าการผ่าตัด เพราะตอนอ่านรีวิวมาเค้าว่าเจ็บมาก แต่...หมอพีระถอดออกไม่รู้สึกอะไรเลยจ้า ดึงจึ๊กๆ ออกสองข้าง ดึงไปคุยไปไม่รู้ตัวเลย เราว่าดึงเข็มน้ำเกลือออกยังเจ็บกว่าอีก จากนั้นพยาบาลก็เข้ามาแนะนำการปฏิบัติตัวและจ่ายยากลับบ้าน ก็จะมียาฆ่าเชื้อ และยาแก้ปวด และการ์ดรับประกันซิลิโคน 2

#Day 3
พักฟื้นที่บ้านวันแรก

ใบ
5#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-5-22 11:31:28 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
#Day 7 นัดตัดไหม
พอตัดไหมอาการตึงที่แผลหายเป็นปลิดทิ้ง สามารถขยับได้เกือบเป็นปกติ แต่ก็หลีกเลี่ยงการยืดแขนขึ้นสุดเพราะแผลยังไม่ติดกันสนิทดี น้องผู้ช่วยแนะนำให้เริ่มใส่บราได้ แต่ขอให้เป็นสปอร์ตบราเพื่อพยุงหน้าอก เราตัดสินใจซื้อสปอร์ตบราจากคลินิกมา 1 ตัว เป็นสปอร์ตบราหลังผ่าตัดศัลยกรรมหน้าอกโดยเฉพาะ  น้องผู้ช่วยแนะนำว่าให้ใส่ไซส์ที่แน่นระดับหนึ่ง ไม่หลวม เพื่อช่วยพยุงหน้าอกให้เคลื่อนไหวน้อยที่สุด หลังตัดไหมเราสามารถตอนตะแคงได้อย่างสะดวกใจมากขึ้น โดยเราใช้หมอนข้างเล็กรองหลัง คราวนี้นอนสบายขึ้นเยอะเลย อาการปวดเมื่อยหลังก็ค่อยๆ ดีขึ้น น้องผู้ช่วยบอกว่าของเราเป็นทรงหยดน้ำ ไม่แนะนำให้นวดเพราะอาจทำให้รูปทรงเสียได้ (อีกอย่างเรารู้ข้อมูลมาว่าปัจจุบันการนวดหรือไม่นวดมีผลน้อยต่อการเกิดผังผืด เพราะหลักๆ ขึ้นอยู่กับเทคนิคการผ่าตัดของแพทย์)

แล้วก็ซื้อสปอร์ตบราแบบผ้ายืดของ sabina มาอีก 4 ตัว ปรากฎว่าเราใส่คัพ C34 (ว้าวววว!!  

6#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-5-22 11:33:47 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
#Day 38 นัดติดตามอาการ 1 เดือน
พอครบ 1 เดือน อาการโดยรวมดีขึ้นมาก ความพอใจในหน้าอกใหม่ 9/10 (***ตามรูป***) อีก 1 คะแนนรอความนิ่ม ชอบขนาดที่คุณหมอเลือกให้มากเลย แฟนบอกว่าเหมือนคนซ่อนรูปคือพอใส่เสื้อผ้าก็ดูปกติแต่ก็พอรู้ว่ามี ไม่แบน แต่พอถอดเสื้อผ้าออกมานี่คือดูอึ๋มไปเลย แบบนี้แหละ ที่เราต้องการ ต้องขอขอบคุณคุณหมอพีระอีกครั้งมาตรงนี้ค่ะ ไม่ผิดหวังจริงๆ  
ความสามารถในหารทำกิจกรรมหลังครบ 1 เดือน
- สามารถขับรถได้ปกติ ทั้งทางไกลและทางใกล้
- นอนหงายได้ นอนตะแคงได้ แต่ยังห้ามนอนคว่ำ (น้องผู้ช่วยแนะนำว่าควรรอหลัง 3 เดือนเป็นอย่างน้อย หรือถ้าจะให้ปลอดภัยจริงๆ คือ 6 เดือน
- มีเพศสัมพันธ์ได้ โดยห้ามกดทับหน้าอก
- ถือของที่มีน้ำหนักเกิน 2 กก.ได้ โดยไม่มีการเจ็บกล้ามเนื้อหน้าอก
- สามารถออกกำลังกายเบาๆ ในท่าที่ไม่ต้องใช้กล้ามเนื้อหน้าอกได้ (ของเราเล่นฮูล่าฮู้ปกับเดินบนลู่วิ่ง)


7#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-5-22 11:35:39 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
#นัดติดตามอาการ 6 เดือน
โดยรวมปกติดีค่ะ หน้าอกนิ่มประมาณ 80%  ไม่มีแผลเป็นคีลอยด์ แต่อาจจะมีรอยคล้ำรอบๆ แผลบ้าง คุณหมออธิบายว่าจริงๆ แล้วแผลเป็นคือเส้นสีขาวเล็กๆ ตรงกลาง แต่รอยคล้ำรอบๆ แผลเป็นการตอบสนองของแต่ละคน ซึ่งอาจต้องรอซักระยะจึงจะค่อยๆ จางลง ซึ่งเราก็เข้าใจดีเพราะเป็นคนเป็นแผลเป็นง่ายอยู่แล้วด้วย รูปทรงหน้าอกคล้อยสวยถูกใจเรามาก  สามารถทำกิจกรรมทั่วไปได้ปกติ รู้สึกพอใจมากๆ เลยค่ะ (***ตามรูป***)





8#
 เจ้าของ| โพสต์ 2018-5-22 11:45:34 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
พอหน้าอกสวย เราก็ใส่เสื้อชั้นในแบบลูกไม้สวยๆ ไม่ต้องสนฟองน้ำแล้ว





ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้