ดู: 7600|ตอบกลับ: 3
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ปากบาง] รีวิวยกมุมปาก หมดปัญหาปากเบะ กับ Masterpiece Clinic

[คัดลอกลิงก์]
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bestwell เมื่อ 2017-3-17 11:36



สวัสดีครับทุกคน เราชื่อเบสท์นะครับ ก่อนอื่นจะบอกว่าเป็นคนที่กลัวการศัลยกรรมมาก เพราะเคยเสริมจมูกที่คลินิกนึงแล้วมันเจ็บจนฝังใจ รู้สึกว่ากลัวการฉีดยาชา และคิดว่าจะไม่ทำศัลยกรรมอีกเด็ดขาด !! แต่... ด้วยความที่เพื่อนๆ รอบตัวหน้าเปลี่ยนกันทุกไตรมาส ทำหน้าใหม่จนลืมหน้าเดิมกันไปแล้ว เราก็คิดจะทำอีก จะดีมั้ย? ... เพราะมีจุดนึงที่เรายังรู้สึกไม่โอเค คือ ปาก อยากแค่ยกมุมปากเพราะเราเป็นคนมุมปากตก ปากจะดูเหมือนเบะๆ ถ้าคนรู้จักกันใหม่ๆ บางคนจะคิดว่าเราหยิ่ง เพราะหน้าดูเหวี่ยงๆ แต่จริงๆ ไม่ใช่งั้นเลย ปากมันบึ้งเอง



เพื่อนชอบบอกว่าเราชอบทำปากเบะ แต่จริงๆ มันเบะเอง ไม่ได้ทำ T^T


เคยลองไปปรึกษากับคลินิกศัลยกรรมหลายๆ ที่ ก็จะโดนยัดเยียดให้ตัดปาก ปากบางเอย ปากกระจับเอย แต่เรารู้สึกว่ามันไม่น่าจะแก้ปัญหาปากบึ้งของเราได้ อีกอย่างเลยคือชอบริมฝีปากตัวเอง ไม่อยากไปตัดออก กลัวจะบางเกินไป มันเอากลับมาไม่ได้ เลยพักไว้ก่อน
  




รู้สึกขัดใจกับปากตัวเองมากก อะไรมันจะบึ้งได้ขนาดนั้น!


สุดท้ายได้มาเจอ Masterpiece Clinic ที่นี่มีการผ่าตัดแก้ไขมุมปากตก หรือจะพูดให้เข้าใจง่ายๆ คือการศัลยกรรมยกมุมปาก ซึ่งมันตอบโจทย์กับความต้องการของเรา เลยนัดคิวปรึกษากับคุณหมอเพื่อเข้าไปพูดคุยว่า ไอ้การศัลยกรรมยกมุมปากเนี่ย มันใช่อย่างที่เราเข้าใจรึเปล่า
จะบอกว่าข้อดีของที่ Masterpiece Clinic คือ ปรึกษาฟรีและได้พูดคุยกับคุณหมอผ่าตัดตัวเป็นๆ !! ยิ่งการคุยกับคุณหมอ เราถามอะไรเค้าก็ตอบให้เราเข้าใจได้เคลียร์ ชัดเจน น่าเชื่อเถือ อย่างกรณีของเราแบบนี้คุณหมอก็แนะนำว่าให้ยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ไม่มากเกินไป และไม่แนะนำให้ตัดริมฝีปากเพราะริมฝีปากสวยอยู่แล้ว ตัดไปจะบางเกิน เวลายิ้มจะเห็นฟันแน่นอน (แอบเขินหมอ><) แต่สำหรับที่อื่นที่ไปปรึกษาจะแนะนำให้ไปตัดปากอย่างเดียว เราก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน



ให้ดูริมฝีปากชัดๆ ดูปากบึ้งมั้ยล่ะ 555



ถ่ายภาพบรรยาศตอนรอปรึกษากับคุณหมอมาฝากก^^


หลังจากที่ปรึกษาแล้วตัวเรารู้สึกว่าโอเค ก็จ่ายเงินมัดจำเพื่อนัดคิวผ่าตัดได้เลย สำหรับเรานัดคิวไปเป็นวันอาทิตย์ ไม่ได้เตรียมตัวจะพักฟื้น แอบกลัวว่าจะช้ำจะบวมเหมือนกันนะ แต่พอหลังทำไม่ใช่อย่างที่คิดเลย สำหรับเพื่อนๆ ที่อยากทำ ไม่ต้องกังวลเรื่องพักฟื้นนาน เพราะจริงๆ หลังผ่าตัดเราสามารถใช้ชีวิตได้ปกติได้ทันที ไม่มีอาการบวมช้ำหรืออะไรบนใบหน้า แนะนำว่าไม่ต้องลายาว
มาถึงช่วงเวลาระทึกที่ทุกคนอยากรู้ ตอนทำเจ็บมั้ย !? ใจเย็นๆ คือก่อนทำต้องผ่าขั้นตอนการทำความสะอาดใบหน้ากับช่องปากที่เยอะมว๊ากกก ล้างหน้าด้วยโฟม เจลล้างหน้า แปรงฟัน บ้วนปาก วนไป 2 รอบจ้า นึกตอนนั้นแล้วก็ขำ คือในใจก็แอบตื่นเต้น แต่มันรู้สึกเหมือนกลับไปอยู่ช่วงอนุบาล มีพนักงานมายืนรอมาย้ำว่าล้างหน้าแปรงฟันให้สะอาดนะค๊าา ที่นี่เค้าเป๊ะจริงๆ ยอมใจเลย !!



ภาพนี้ขอถ่ายตอนคุณหมอวาดริมฝีปากเสร็จครับ


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2017-3-17 11:35:19 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย bestwell เมื่อ 2017-3-17 11:37

หลังจากที่คลีนทั้งหน้าทั้งปากจนสะอาดเอี่ยมแล้ว ก็ตามรูปเลยครับ เข้าไปรอหมอในห้องผ่าตัดซักแป๊ปนึง คุณหมอก็จะเข้ามาใช้สีวาดลงที่มุมปากเรา คุณหมอจะให้ดูกระจกแล้วก็ถามความเห็นด้วยว่าประมาณนี้ สูงไปมั้ย ถ้าสูงกว่านี้ตอนยิ้มอาจจะเหมือนโจ๊กเกอร์นะ หรือถ้าต่ำหน่อยก็อาจจะไม่ค่อยเปลี่ยน ประมาณนี้คือกำลังพอดี เราชอบมั้ย ตอนนั้นเห็นรอยปากกาที่คุณหมอวาดตรงมุมปากแล้วแอบตกใจเลย เพราะวาดออกมาได้เนี๊ยบมากๆ เข้าใจว่าการศัลยกรรมคือการออกแบบ! มันคืองานศิลปิน! ก็เลยตกลงตามที่หมอประเมินไป
พอถึงเวลาเข้าสู่ช่วงการฉีดยาชา ที่เราแอบกลัวๆ เกร็งๆ มาตั้งแต่เช้า จนตัวสั่นแบบไม่รู้ตัว สั่นจนคุณหมอถามว่าเป็นอะไร เมื่อคืนพักผ่อนน้อยหรือเปล่า คือจริงๆเราตื่นเต้นจนตัวสั่นค้าบบหมอ บอกไปหมอก็ขำไปด้วย แล้วก็พูดปลอบใจ ไม่เจ็บนะ เจ็บนิดเดียว ปกติหมอฉีดยาชาก็ไม่มีใครบ่นเจ็บ คือรู้สึกเลยว่าหมอใจดีมากอ่ะครับ ฟังแล้วรู้สึกสบายใจจนลืมตัวไปว่า หมอจิ้มเข็มเข้ามาตอนไหนเพราะมัวแต่ฟังหมอ มารู้สึกแปล๊บ ๆ อีกทีตอนยาวิ่งผ่านเข็ม ฉีดทั้งหมด 5 จุดได้มั้งครับถ้าจำไม่ผิดแล้วก็รู้สึกเหมือนปากเราหายไปเลย เพราะมันชาไปหมดแล้วจ้า


   

       
หลังทำทันที แอบน่ากลัว แต่ไม่เจ็บเลยนะจ๊ะ!
!

การทำใช้เวลาทั้งหมดประมาณ ครึ่งชั่วโมงเองได้มั้งถ้าจำไม่ผิดนะ ไม่เจ็บ ไม่ปวดอะไรเลย แต่วันแรกๆ จะทานอะไรค่อนข้างลำบากและที่สำคัญคือ ห้ามอ้าปากกว้าง ห้ามหัวเราะ ประมาณ 1 อาทิตย์จนกว่าจะตัดไหม เพราะถ้าหากอ้าปากกว้างหรือหัวเราะมากเกินไปจะทำให้ไหมหลุดแผลฉีกได้ อยากสวย อยากหล่อ ก็ต้องมีระเบียบวินัยกันนิดนึงนะครับ สำหรับวิธีของเราคือจะเน้นกินพวกอาหารที่เป็นน้ำๆ ข้าวต้ม ก๋วยเตี๋ยว ช่วงนั้นน้ำหนักลดลงพอสมควร ใครอยากลดน้ำหนักใช้เวลานี้ให้เป็นประโยชน์นะเอ้ออ





หลังทำ 1 วัน ไปเรียนแล้ว แอบทรมานตรงที่ขำแรงไม่ได้ 555555

  

               

วันที่ 5 อาการตึงๆ ตรงแผลเริ่มทุเลาลง สังเกตตรงรอยเย็บคือเนี๊ยบมาก



ถ่ายเต็มหน้าแล้วดูเนียนเนี๊ยบ ถ้าไม่สังเกตก็ดูไม่ออกนะจ๊ะ



7 วันเข้าไปตัดไหม ถ่ายก่อนหลังมาให้ดูความเปลี่ยนแปลง หน้าเป็นมิตรขึ้นเลยนะค้าบบ


ที่สำคัญเลยอีกอย่างหนึ่งคือหลังตัดไหมแล้วต้องขยันทายาที่คลินิกให้มาตรงแผลที่มุมปากให้สม่ำเสมอ เพราะจะช่วยให้แผลเข้าที่เข้าทางไวขึ้น ประมาณ 1 เดือนก็ไม่เห็นรอยแผลผ่าตัดแล้ว จางลงเร็วมากเพราะขยันทาครีมตลอด เช้ากับก่อนนอนนี่ขาดไม่ได้เลย



รูปนี้ 1 เดือนนะครับ รอยเย็บจางลง เหลือรอยแดงนิดๆ สามารถอ้าปากกว้างๆ เกือบ 100% แล้วครับ ค่อยๆ ฝึกไปอย่าฝืนเกิน เดี๋ยวปากฉีก ต้องใจเย็น



2 เดือน ยิ้มค่อยๆ ก็ดูมีสเน่ห์มากขึ้น รู้สึกว่าหน้าเด็กลงด้วยนะครับ



ประมาณ 3 เดือน ปากอ้ากว้างๆ เวลายิ้ม หรือหัวเราะได้ปกติแล้วครับ ส่วนรอยแผลมองไม่เห็นแล้วนาจา

ปัจจุบันตอนนี้ยกมุมปากมาได้ 6 เดือนแล้ว จากปากที่ดูบึ้งๆ เหมือนปากเบะตลอดเวลาตอนนี้กลายเป็นคนปากปีกนก เหมือนยิ้มตลอดเวลา มีแต่คนทักว่าไปตัดปากมาหรอ คือไม่ได้ตัด ไปยกมุมปากมาจ้า เป็นอีกตัวเลือกนึงเนอะสำหรับเพื่อนๆ ที่มีปัญหาปากคว่ำ มุมปากตก แนะนำเลย มาเป็นศิษย์ที่นี่กันซะเถอะ เพราะผลลัพธ์มันดีงามมาก ^^
ปล.ลืมบอกชื่อคุณหมอ คุณหมอชื่อคุณหมอสมูบรณ์ครับ
ปล2. ราคา 20,000 บาท (ไม่รวมค่ายาอีก 1 พันกว่าบาท) อยู่ได้ตลอดชีพ!



6 เดือนแล้ว เม้มปาก ยู่ปากได้ปกติเลยนะครับ



ปากได้รูป มีแต่คนทักว่าปากสวยขึ้น ไปทำอะไรมา ตัดปากมาหรอ ป่าวตัดนะค้าบบ ยกมุมปากมา^^

  

ยิ้มกว้างได้ปกติ ปากไม่เป็นตัวตลก ชอบเวลาตัวเองยิ้ม รู้สึกมั่นใจมากขึ้นด้วย



ปัจจุบันนะครับ 6 เดือนแล้ว
น่าสนใจราคาเท่าไหร่ค่ะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้