งานแก้จากที่อื่นมาเสริมจมูกใหม่กับคุณหมอสำรวย จรัญ 53

houngja

เสริมจมูกแก้ไบโอที่อื่น แล้วมาเสริมใหม่ กับคุณหมอสำรวย คลีนิกรัตนโกสินทร์ ซ. จรัญสนิทวงศ์ 53 คุณหมอใจดีมากคะ ตอนทำก็แอบกลัวว่า จะเจ็บมากไหมน้อ...แต่ก็ต้องเจ็บบ้างนิดหน่อยก็ต้องอดทน...ก็จะเจ็บตรงยาชาเข็มแรกน่ะแหละ...มากมายที่สุดแระ นอกนั้นก็จะรู้สึก กึดๆ ตลอดเวลาที่คุณหมอสำรวย ทั้งดึง ทึ้งซิลิโคนอันเก่าออก นับเวลาสัก 10 นาทีได้ และก็ทำความสะอาดโพรงจมูกอีกทีก่อนจะจัดการเหลาทรงซิลิโคนสไตล์คุณหมอสำรวย...รู้สึกได้ว่า น่าจะดึงเข้าออกประมาณ 2-3 ครั้ง กว่าจะปิดปากแผล ใช้เวลาเบ็ดเสร็จประมาณ 45 นาทีได้...คุณหมอคงไม่อยากให้แผลช้ำมากนัก ก็พยายามทั้งทำเวลา และตรวจสอบให้ละเอียด แต่จมูกเราจะยากกว่า จมูกแก้ซิลีโคนปกติชาวบ้านที่มาแล้วถอดออกแล้วใส่ใหม่เลย คุณหมอบอกเรายากกว่า...
กลับบ้านมารีบเลย รีบประคบเย็นทั่่วหน้า ก็ทำๆ หยุดๆ ไม่ได้ต่อเนื่อง แต่ยอมรับเลยว่า คุณหมอฝีมือจริงๆคร้าาา
ไม่ช้ำเลยอะ เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น...แต่ก็ไม่อยากชะล่าใจ พรุ่งนี้อีกวัน...รอพิสูจน์การบวมอลังการ...แต่มันก็อยู่แค่ตรงจมูกที่บวมเท่านั้น นอกนั้นไม่มีผลอะไรเลย ปลื้มปริ่ม

ชุดแรกนี้เป็นภาพก่อนจะนอน ประมาณ 4 ทุ่มกว่าๆ ควรจะเห็นรอยช้ำ เขียวๆ แดงม่วงๆ ไม่มีเลยจร้าาาา

เช้าวันใหม่


เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น


ปล. สามีตื่นมา อำว่า...เห้ยทำไมเขียวๆ ช้ำๆ จ้ำๆ จุดลายอย่างนี้ละคุณนาย...เราก็ตาลีตาเหลือกรีบหยิบกล้องมาเช็กหน้า...หลอกเราง่ะ....เพราะคราวก่อนตอนขูดสารไบโอ มันอย่างกะโดนรุมต่อยมาแบบหมัดไม่ยั้งอะนะ พอรอบนี้เหมือนแค่จมูกที่บวมตุ่ยๆ
อ้อ เราไม่ได้เสริมโด่งมากเกินธรรมชาติ แค่มีดั้ง ได้รูปทรงจมูก ไม่ค่อยซีเรียสเรื่องความโด่ง เพราะไม่งั้นคงอยู่กับทรงเดิมๆ ตัดๆ มาได้ไม่ถึง 2 ปีหรอกนะ แต่มั่นใจว่า คุณหมอสำรวยทำมาให้น่าจะสวยที่สุดสำหรับเราแล้วนะ  

นับจากนี้เราคงไม่ได้ทำอะไรเกี่ยวกับศัยกรรมแล้วหละ
คงจะแค่โบท็อกซ์ แต่ไม่ร้อยไหม ฉีดฟิลเล่อร์ เน้นบำรุงผิวสวยๆ
ส่วนรอยฝ้าจางๆ ที่เห็นก็เพราะคลินิกนึงที่ไปทำเลเซอร์ ดันลอกฝ้าให้แบ่บ ไม่น่าให้อภัย ไว้รีวิวต่อครั้งหน้านะคร้าาา ทีละเรื่องๆ

mkii

อยากเห็นรูปปัจจุบันจังเลย