สวัสดีค่ะ นี่เป็นบล๊อกที่ 2 ในดั้งโด่งแล้วนะคะ บล็อกนี้ขอรีวิวที่ไปแก้จมูกที่เกาหลีมานะคะ ภาคต่อเลย หมอที่ปรับโครงสร้างให้เราได้ทำอะไรกับจมูกไว้บ้าง ซึ่งตัวเราเองทุกวันนี้ก็ยังไม่รู้เหมือนกันว่าทำอะไรบ้าง ปัญาหาของเราคือจมูกดูคดเอียง รู้จมูกไม่เท่ากัน มีปุ่มกระดูกยื่นในรูจมูก เวลายิ้มหรืออ้าปากกว้าง เช่นแปรงฟันกระดูกแกนกลางจมูกมีการเคลื่อนเหมือนไม่ลงล๊อค เวลายิ้มปลายตก หน้าดูมีอายุ เห็นรอยแผลเป็นจากการติดปีกจมูกด้านในอย่างชัดเจน และปัญหาอีกอย่างคือมีการเสริมกอร์เท็ค ซึ่งไม่มีหมอคนไหนอยากเสี่ยงแก้ และราคาแก้ก็แสนแพงพร้อมกับไม่มีการการันตีว่าจะออกมาเป็นอย่างไร เราเลยหันไปศึกษาหมอเกาหลีอยู่เกลือบปี โดยเฉพาะเลือกดูแพทย์ที่เก่งเรื่องงานแก้เป็นอันดับแรกเลย ซึ่งราคาแก้ก็ไม่ต่างกับแก้ที่ไทยเท่าไรค่ะ
เราได้พูดคุยกับศาสดาจารย์ท่านนึงจากเกาหลี และท่านได้รับประกันว่าจะออกมาดูดีกว่าเดิมแน่นอน ซึ่งเราก็ได้เตรียมรูปตัวเราเองซึ่งเป็นทรงจมูกทรงก่อนที่แก้แล้วเสียหายไปให้หมอดู ซึ่งเราอยากได้ใกล้เคียงแบบนั้น หมอก็บอกว่าสวย ทรงนั้นเป็นซิลิโคนล้วน ไม่มีการรองปลายด้วยกระดูกหลังหู แต่มันอยู่กับเรามา 8 ปี ก็เริ่มมีการรัดแกนจนเห็นเป็นซิลิโคนมากขึ้น ความเป็นธรรมชาติเริ่มน้อยลง เราเลยได้ไปแก้ครั้งที่ 2 จนมีปัญหาที่ทำให้เราต้องไปแก้ถึงเกาหลี ช่วงนั้นสภาพจิตใจย่ำแย่ อับอาย ไม่เจอคนรู้จักเป็นปี
การแก้จมูกที่เกาหลีของเราครั้งนี้เป็นการแก้ครั้งที่ 3 ซึ่งหมอประเมินออกมาว่าต้องลื้อแก้ใหม่หมด โอ้วแม่เจ้า! (จากที่ล่ามแปลมานะคะ) จมูกเอียงทั้งข้างนอกและข้างในก็เอียง ต้องตัดแก้ปีกจมูกใหม่ ตัดเย็บแก้รอยแผลเป็นจากการตัดปีกที่พังมา ตัดปุ๋มกระดูกที่ยื่นออก และเหลาแต่งสันใหม่ ฟังดูแล้วเยอะจริง ๆ นี่คุยวันที่คุณหมอมาให้คำปรึกษาที่ไทยนะคะ หลังจากที่คุยกันและเกิดการมันใจ เราเลยทำการจองและได้แต่รอกำหนดไปแก้ค่ะ เราได้เจอหมอก่อนผ่าตัดหนึ่งวัน เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจให้ตรงกันอีกครั้งก่อนวันผ่าตัดจริง มีการตรวจสุขภาพ ตรวจเลือด เอ็กซ์เรย์จมูก และวันผ่าตัดก็ต้องพูดคุยกันโดยละเอียดอีกครั้งก่อนเข้าห้องผ่าตัดคุณหมอก็ถามว่าเรามีคำถามจะถามหรือสงสัยอะไรไหม จนเราไม่รู้จะถามอะไรแล้ว เพราะเรารู้สึกว่าคุณหมอให้เวลาเราเยอะมากๆ ทั้ง 3 ครั้งที่ได้เจอ อันนี้เราอยากจะขอบคุณคุณหมอมาก ๆ จากใจจริง ๆ แน่นอนเราก็เอารูปตัวเราเอง เป็นทรงจมูกทรงที่ 1 ที่เราเคยทำให้หมอดูอีกรอบ หมอว่าจะทำให้สโลปกว่าเดิมเล็กน้อย และปลายพุ่งน้อย ๆ เพราะเราชอบแบบธรรมชาติมาก ๆ เราบอกหมอว่าเราไม่ชอบบาบี้ไลน์และปลายหยดน้ำ เราขอทรงเดิม แต่คุณหมอก็ยังบอกว่าต้องมีเคิร์ฟนิดหน่อย เราก็ไว้ใจคุณหมอตามนั้นที่คุณหมอเห็นสมควร การผ่าตัดเป็นไปด้วยดี อาการช้ำ บวมมีนอยมาก ๆ จนวันที่ 7 ตัดไหม ถอดเผือก เราลุ้นมาก ๆๆๆ ครั้งแรกที่ส่องกระจกเท่านั้นแหละค่ะ เหมือนตายแล้วเกิดใหม่จริง ๆ ผลที่ออกมาจนปัจจุบันนี้ตามรูปเลยค่ะ ลองดูกันนะคะ
ก่อนแก้พังยับเยิน
แก้แล้วค่ะ ตื่นจากยาสลบก็เดินกลับที่พักเองได้เลยค่ะ
วันที่ 3 อาการบวมน้อยมาก เนื่องจากดื่มน้ำฝักทองและซุปฝักทองแทนข้าวเลย รูจมูกสวยขึ้น พอใจมาก ๆ ค่ะ
ึึตัดไหมและถอดเผือกค่ะ อาการบวมน้อยมาก อาการช้ำไม่มีมีเลย
15 วันค่ะ
1 เดือนค่ะ ความมั่นใจกลับมามากเลย
2 เดือนมีแต่คนชม
4 เดือนค่ะ
ึ 7 เดือนค่ะ
บล๊อกนี้เราไม่ต้องการส่งเสริมให้คนไปศัลยกรรมที่เกาหลีนะคะ แต่กรณีเราหาหมอที่อยากจะแก้ให้ยากมาก ๆ ค่ะ เราต้องอยู่กับความทุกข์และอายกับจมูกเก่าที่ทำให้หน้าเราดูแก่ และประหลาดไปกว่าหนึ่งปี ความสุขที่เคยมี ความมั่นใจที่เคยมีหายไป จนวันนี้เราต้องขอบคุณคุณหมอท่านนี้ที่แก้ให้เรากลับมามีชีวิตใหม่ที่มีความมั่นใจอีกครั้งนึง
การศัลยกรรมก็เหมือนการเสี่ยงดวง ถ้าเราเจอหมอดีก็โชคดี ถ้าเจอหมอไม่ดีก็เหมือนตกนรกเลยค่ะขอให้ทุกคนหาข้อมูลก่อนการทำศัลยกรรมต่าง ๆ ให้ดี ๆนะคะ ศึกษาแพทย์ให้มาก ๆ อยากสวยปลอดภัยก็เลือกแพทย์ที่จบศัลยกรรมโดยตรงดีกว่านะคะ จะได้ช่วยลดความผิดพลาดได้ค่ะ อย่าเลือกดูแต่เคสรีวิวสวย ๆ นะคะ ด้วยความปรารถนาดีจากใจจริง ๆ ค่ะ ใครมีปัญหาอยากปรึกษา หรือใครมีคำถาม อยากพูดคุยแลกเปลี่ยนประสบการณ์ก็อินบ๊อกมาคุยกันได้นะจ๊ะ
ปล.ขอขอบคุณเอเย่นต์ที่ดูแลอย่างดีตลอดเวลาที่อยู่เกาหลีนะคะ ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ