ลักษณะจมูกแบบไหนที่นิยมเสริมจมูก

• จมูกแบน
• จมูกบาน
• จมูกเบี้ยว
• จมูกมีฮัมพ์

รวมถึงผู้ที่อยากแก้ไขปัญหาปลายจมูกแหลมเกินไปและปัญหาจมูกสั้นที่ดึงรั้งจากการอักเสบ หรือเคยเสริมซิลิโคนมาก่อน เป็นต้น

รูปแบบในการเสริมจมูก

การผ่าตัดศัลยกรรมจมูก แบ่งเป็น 2 ประเภท

• การผ่าตัดจมูกแบบปิด (Closed Rhinoplasty)

เป็นการ เสริมจมูก แบบเปิดแผลข้างในจมูก โดยแพทย์จะใส่ซิลิโคนตั้งแต่สันจมูกไปจนถึงปลายจมูก ข้อดี คือ รบกวนโครงสร้างจมูกน้อย แผลเล็ก การดูแลหลังผ่าตัดไม่ยุ่งยาก ค่าใช้จ่ายไม่แพง  ข้อเสีย คือ การตกแต่งอาจไม่เรียบเนียนเท่าการผ่าตัดแบบเปิด

• การผ่าตัดจมูกแบบเปิด  (Open Rhinoplasty)

เป็นวิธีผ่าตัดแบบเปิดแผลที่ฐานจมูก โดนจะกรีดผ่าจมูกเป็นแนวดิ่งจนเห็นแกนจมูกแล้วแยกเนื้อกับผิวหนังออกจากโครงสร้างจมูก ข้อดี วิธีนี้จะทำให้แพทย์เห็นโครงสร้างของจมูกได้อย่างชัดเจน ทำให้สามารถวิเคราะห์และแก้ปัญหาอื่นๆของจมูกได้อย่างชัดเจน และตรงจุด  ข้อเสีย ใช้เวลานาน และอาจเกิดอาการบวมช้ำนานกว่าแบบปิด มีราคาสูง

วัสดุที่ใช้ในการเสริมจมูก

• • Silicone

เป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เนื่องจากได้รูปทรงที่เเน่นอน ไม่เอียง ทั้งยังสามารถเลือกความอ่อนเเข็งได้ตามต้องการ มีโอกาสเปลี่ยนแปลงรูปน้อย  โดยเเบ่งได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่

1. แบบสำเร็จรูป มีให้เลือกหลายทรง เช่น l-shape และ i-shape มีความนิ่มปานกลาง สามารถปรับทรงได้ มีความยืดหยุนสูง ทำให้ silicone ไม่ยุบตัวส่งผลให้จมูกโด่งเป็นทรง เหมาะสำหรับคนที่มีเนื้อจมูกมาก
2. แบบเหลา จะเริ่มมาจากบล็อก 4 เหลี่ยม โดยจะต้องใช้ความชำนาญในการเหลาให้เป็นทรงที่ต้องการและเรียบเนียน ไม่คมเกินไป โดยมีข้อเสียคือ หากมีปลายจมูกสั้นหรือเนื้อจมูกน้อย มักจะเกิดเเผลที่ปลายจมูกจึงมักเสริมที่บริเวณสันจมูกเท่านั้น

• • กระดูกอ่อน / ซี่โครง

จะเป็นการนำกระดูกอ่อนของผู้ใช้บริการมาเสริมเป็นจมูก การที่จะใช้กระดูกซี่โครงได้นั้น จะใช้ในกรณีที่กระดูกหูอ่อนหรือด้านในจมูกไม่สามารถใช้ได้หรือเกิดการอักเสบจึงนำกระดูกซี่โครงมาใช้แทน ซึ่งมีข้อดีคือจะเข้ากับร่างกายได้อย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นของเนื้อเยื่อที่มาจากร่างกายของผู้ใช้บริการเอง เเละมีความเสี่ยงที่จะเกิดความอักเสบน้อยกว่าจุดอื่น    นอกจากนี้ยังทำให้จมูกออกมาสวยกว่า เหมาะสำหรับคนที่ปลายจมูกสั้น เเละเนื้อจมูกบางเเต่ต้องการทรงที่ยาวเเล้วพุ่ง ทั้งนี้การเสริมจมูกวิธีนี้ เหมาะสำหรับคนที่เสริมเพียงบางส่วนเท่านั้นเนื่องจากกระดูกอ่อนมีอยู่จำกัด  มีข้อเสียคือ มีความยุ่งยากในการทำ เนื่องจากต้องมีการผ่าตัดใหญ่เเละต้องนอนโรงพยาบาล 1 คืน

• • เนื้อเยื่อเทียม

เป็นวัสดุสังเคราะห์ ที่ทำมาจากคอลลาเจน มีลักษณะเป็นโครงข่ายทับซ้อนกัน คล้ายกับฟองน้ำ ซึ่งมีลักษณะใกล้เคียงกับเนื้อเยื้อของเรามากที่สุด โดยเนื้อเยื้อเทียมกำลังเป็นที่นิยมมาก เนื่องจากเป็นนวัตกรรมใหม่  เหมาะกับคนที่ต้องการเเก้ทรงจมูกได้ เช่น ผู้ที่เคยทำการเสริมจมูกมาแล้วปลายจมูกทะลุ หรืออยากเเก้ปลายให้ยาวขึ้น วัสดุประเภทนี้มีผลดีต่อเซลล์ผิวหนัง เพราะคอลลาเจนสามารถเจริญเติบโตได้ดีบนเนื้อเยื้อเทียม รวมถึงลดโอกาศในการปลายจมูกทะลุได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ การเเพ้และไม่ทำให้จมูกบางลง  แต่ก็มีข้อควรระวังคือ ต้องเเต่งปลายจมูกหรือเสริมในขนาดที่พอดี เพราะอาจจะทำให้ดูแปลกตา และปลายจมูกไม่เป็นธรรมชาติได้