ลงทะเบียน ลงชื่อเข้าใช้
ดั้งโด่งดอทคอม หน้าแรก

โปรไฟล์ของ joy234 http://www.dungdong.com/?121172 [บุ๊คมาร์ก] [คัดลอก] [แชร์] [RSS]

บล็อก

น่ารู้! กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion)

เข้าชม/อ่าน 753 ครั้ง2011-4-30 20:55

น่ารู้! กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion)
วันนี้ พาคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามมารู้จักกับกับนวัตกรรมกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion) ด้วยวิธี กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี นี้สามารถช่วยลดรอยสิว จุดด่างดำ และแผลต่าง รวมถึงรอยแตกลายให้เรียบขึ้นได้ ฮันแน่...รู้ขนาดนี้ก็ดูน่าสนใจสำหรับเรื่อง กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี กันแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ นั้นเรามทำการรู้จักกันแบบเจาะลึกไปกับกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion) กันเลยดีกว่า เพื่อว่ามีคุณผู้หญิงคนไหนที่กำลังหาความรู้ถึงเรื่องกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี หรือกำลังคิดที่จะวิธีการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีอยู่ค่ะ

 
กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion)

MD หรือ ไมโครเดอร์มาเบรชั่น (Microdermabrasion) ก็คือการกรอผิวหนังในส่วนของหนังกำพร้าออกไปบางส่วนโดยไม่ถึงระดับที่จะทำ ให้เกิดแผล ซึ่งต่างจากการกรอผิวหนังด้วยเครื่องกรอหรือเลเซอร์ที่กรอลงไปจนถึงชั้นหนัง แท้ทำให้หลังทำจะต้องเป็นแผลอยู่ระยะหนึ่ง


ความแตกต่างนี้ทำให้ การดูแลหลังการทำ MD ค่อนข้างง่ายไม่ยุ่งยากอีกทั้งไม่จำเป็นต้องหยุดงานและก็ได้ผลการรักษาที่ดี ในระดับหนึ่ง เพียงแต่ต้องอาศัยการทำอย่างต่อเนื่อง


ปัจจุบันมี เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นอยู่หลายชนิด แต่ที่ใช้กันแพร่หลายเป็นเครื่องที่ใช้หลักการพ่นผงคริสตัลทำด้วยผลึกอลูมิ เนียมออกไซด์ที่มีขนาดเล็กเท่ากับทรายละเอียดและผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้วลงบน ผิวหนัง โดยอาศัยระบบการทำงานด้วยสูญญากาศ


คริสตัลเหล่านี้จะ ค่อย ๆ ลอกผิวทีละชั้น ๆ ของผิวหนังชั้นหนังกำพร้า โดยสามารถควบคุมระดับของความลึกให้เหมาะสมกับสภาพผิวช่วยให้มีการฟื้นฟูสภาพ ผิวและกระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้น


สำหรับวิธีการทำ นั้นเริ่มจากล้างหน้าให้สะอาดจากนั้นทายา 2-3 ชนิดเพื่อเป็นการเตรียมผิวประมาณ 5-10 นาที ต่อไปก็เป็นการกรอโดยการพ่นผงคริสตัลลงบนผิวหนังอีกประมาณ 15-30 นาที ขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและพื้นที่ที่ทำ หลังจากนั้นก็จะเป็นการทายาอีกประมาณ 3-4 ครั้ง เพื่อช่วยให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้นรวมขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 40-60 นาที

โดยทั่วไปหลังการทำ MD ผิวหนังบริเวณที่ทำอาจมีรอยแดงเกิดขึ้น แต่ไม่มีแผลเป็นรอยแดงจะหายไปได้เองภายในเวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมงหรือเต็มที่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง การทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นนั้นโดยทั่วไปควรทำทุก ๆ 1-2 สัปดาห์ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 6-10 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของผิว

ประโยชน์ของการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion)

- ช่วยลดรอยดำหลังการหายของสิว ลดรอยดำจากฝ้า และรอยดำจากแผลต่าง ๆ

- ช่วยให้แผลเป็นหลุมที่เกิดจากสิวหรืออีสุกอีใสตื้นขึ้นทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น

- ช่วยให้แผลเป็นต่าง ๆ จากการผ่าตัดหรือจากอุบัติเหตุนิ่มลงและเรียบขึ้นได้บ้าง

- ช่วยลดรอยแตกลายตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้รอยแตกเรียบขึ้นและดูจางลงได้ในระดับหนึ่ง

- ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้นลดริ้วรอยที่เกิดจากวัย และสิ่งแวดล้อม


ข้อควรระวัง ในการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion)

หลัง การทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นคือ ควรหลีกเลี่ยงการทายาแสงแดดจัด ๆ และเครื่องสำอางบางประเภท เช่น AHA หรือกรดวิตามินเอในวันแรก ๆ หลังทำ MD ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ร่วมด้วย

ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารสวยด้วยแพทย์
จอย234
  • *
  • ออนไลน์ ออนไลน์
  • กระทู้: 191
  • เงินที่มีอยู่: 149 beauty
  • ยินดีให้คำปรึกษาค่ะ thanchanokwong@ymail.com
    • Yahoo Instant Messenger - thanchanokwong@ymail.com
    • ดูรายละเอียด
    • ข้อความส่วนตัว (ออนไลน์)
Re: น่ารู้! เรื่อง เลเซอร์ Fraxel Laser "แก้ริ้วรอย"
« ตอบกลับ #2 เมื่อ: เมษายน 24, 2011, 12:26:16 PM »
วิธีรักษารอยแผลเป็น "บนใบหน้า"
เพื่อ ให้ใบหน้าของคุณทุกคนสวยใสหากไกลรอยแผลเป็นอันไม่พึงประสงค์ยิ่งโดยเฉพาะใบ หน้าด้วยแล้วคงไม่มีใคร อยากให้มีด้วยกันทั้งนั้น วันนี้เราจึงนำวิธีรักษารอยแผลเป็นมาฝากคนที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจที่ต้องมี แผลเป็นบนใบหน้าให้ได้สวยใสกันทุกคนเลยค่ะ ว่าแล้วเราก็มาเริ่ม วิธีรักษารอยแผลเป็น เพื่อหน้าสวยกันเถอะค่ะ
 
วิธีรักษารอยแผลเป็น

 
1. การใช้ยาทา แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาทาในกรณีที่เป็นไม่มากนักหรือใช้ร่วมกับวิธีอื่น ๆ ยาที่ใช้มักเป็นยาในกลุ่มวิตามิน A โดยตัวยาจะไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ทำให้รอยแผลตื้นขึ้น

2. การจี้ด้วยน้ำยา TCA เพื่อกระตุ้นในรอยแผลมีการสร้างเซลล์หลังการจี้จะเกิดสะเก็ดดำ ๆ อยู่ประมาณสัปดาห์แล้วจึงหลุดไปเองแต่ว่าห้ามแกะเด็ดขาด

3. การรักษาด้วยไอออนโต (IONTO) เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าขับตัวยาซึ่งนิยมใช้ คือกลุ่มวิตามิน A เข้าไปในผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างใยคอลลาเจนในชั้นหนังแท้เพื่อให้รอย บุ๋มตื้นขึ้น

4. การรักษาด้วย โฟโน (PHONO) เป็นการใช้คลื่นเสียงขับยาเข้าไปในผิวหนังโดยใช้ยาในกลุ่มวิตามิน A บำรุงและสร้างใยคอลลาเจน

5. การรักษาด้วยวิธี MD (MICRODERMABRASION) เป็นการผลัดผิวใหม่โดยใช้เครื่องมือพ่นผงคริสตัลลงไปยังผิวหน้า เพื่อขัดผิว ส่วนคราบไคล และหนังกำพร้าชั้นบนออกไป แล้วจึงใช้ตัวยาเร่งการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนช่วยให้รอยบุ๋มตื้นขึ้น

6. การรักษาด้วยวิธีการกรอแผลโดยใช้เครื่องเลเซอร์ ช่วยให้รอยบุ๋มตื้นขึ้น แต่ต้องใช้เวลาในการรักษาแผลค่อยข้างนาน

7. การฉีดสารสังเคราะห์โดยแพทย์ จะฉีดสารสังเคราะห์ เช่น อาติคอล หรือสาร HA เข้าไปในรอยแผล เพื่อให้รอยแผลเต็มขึ้น


ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไอเอ็นเอ็น

อืม..ดีๆ ใช้ได้

อะไรก็ไม่รู้

เห็นด้วยๆ

ซึ้งจังเลย

ขำฮาตรึม

ความคิดเห็น (0 ความคิดเห็น)

facelist

คุณต้องลงชื่อเข้าใช้ก่อนจึงจะสามารถแสดงความคิดเห็นได้ ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ขึ้นไปด้านบน