น่ารู้! กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion)
วันนี้
พาคุณผู้หญิงที่รักสวยรักงามมารู้จักกับกับนวัตกรรมกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี
(MD : Microdermabrasion) ด้วยวิธี กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี
นี้สามารถช่วยลดรอยสิว จุดด่างดำ และแผลต่าง
รวมถึงรอยแตกลายให้เรียบขึ้นได้
ฮันแน่...รู้ขนาดนี้ก็ดูน่าสนใจสำหรับเรื่อง กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี
กันแล้วใช่ไหมล่ะค่ะ
นั้นเรามทำการรู้จักกันแบบเจาะลึกไปกับกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD :
Microdermabrasion) กันเลยดีกว่า
เพื่อว่ามีคุณผู้หญิงคนไหนที่กำลังหาความรู้ถึงเรื่องกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี
หรือกำลังคิดที่จะวิธีการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณีอยู่ค่ะ
กรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion)
MD
หรือ ไมโครเดอร์มาเบรชั่น (Microdermabrasion)
ก็คือการกรอผิวหนังในส่วนของหนังกำพร้าออกไปบางส่วนโดยไม่ถึงระดับที่จะทำ
ให้เกิดแผล
ซึ่งต่างจากการกรอผิวหนังด้วยเครื่องกรอหรือเลเซอร์ที่กรอลงไปจนถึงชั้นหนัง
แท้ทำให้หลังทำจะต้องเป็นแผลอยู่ระยะหนึ่ง
ความแตกต่างนี้ทำให้
การดูแลหลังการทำ MD
ค่อนข้างง่ายไม่ยุ่งยากอีกทั้งไม่จำเป็นต้องหยุดงานและก็ได้ผลการรักษาที่ดี
ในระดับหนึ่ง เพียงแต่ต้องอาศัยการทำอย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบันมี
เครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นอยู่หลายชนิด
แต่ที่ใช้กันแพร่หลายเป็นเครื่องที่ใช้หลักการพ่นผงคริสตัลทำด้วยผลึกอลูมิ
เนียมออกไซด์ที่มีขนาดเล็กเท่ากับทรายละเอียดและผ่านการฆ่าเชื้อโรคแล้วลงบน
ผิวหนัง โดยอาศัยระบบการทำงานด้วยสูญญากาศ
คริสตัลเหล่านี้จะ
ค่อย ๆ ลอกผิวทีละชั้น ๆ ของผิวหนังชั้นหนังกำพร้า
โดยสามารถควบคุมระดับของความลึกให้เหมาะสมกับสภาพผิวช่วยให้มีการฟื้นฟูสภาพ
ผิวและกระตุ้นให้มีการสร้างเซลล์ผิวใหม่ขึ้น
สำหรับวิธีการทำ
นั้นเริ่มจากล้างหน้าให้สะอาดจากนั้นทายา 2-3
ชนิดเพื่อเป็นการเตรียมผิวประมาณ 5-10 นาที
ต่อไปก็เป็นการกรอโดยการพ่นผงคริสตัลลงบนผิวหนังอีกประมาณ 15-30 นาที
ขั้นตอนนี้ขึ้นอยู่กับสภาพผิวและพื้นที่ที่ทำ
หลังจากนั้นก็จะเป็นการทายาอีกประมาณ 3-4 ครั้ง
เพื่อช่วยให้ผลการรักษาดียิ่งขึ้นรวมขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 40-60
นาที
โดยทั่วไปหลังการทำ MD ผิวหนังบริเวณที่ทำอาจมีรอยแดงเกิดขึ้น
แต่ไม่มีแผลเป็นรอยแดงจะหายไปได้เองภายในเวลาประมาณ 1-2
ชั่วโมงหรือเต็มที่ไม่เกิน 24 ชั่วโมง
การทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นนั้นโดยทั่วไปควรทำทุก ๆ 1-2
สัปดาห์ต่อเนื่องกันอย่างน้อย 6-10 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัญหาของผิว
ประโยชน์ของการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion)
- ช่วยลดรอยดำหลังการหายของสิว ลดรอยดำจากฝ้า และรอยดำจากแผลต่าง ๆ
- ช่วยให้แผลเป็นหลุมที่เกิดจากสิวหรืออีสุกอีใสตื้นขึ้นทำให้ผิวหน้าเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยให้แผลเป็นต่าง ๆ จากการผ่าตัดหรือจากอุบัติเหตุนิ่มลงและเรียบขึ้นได้บ้าง
- ช่วยลดรอยแตกลายตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ทำให้รอยแตกเรียบขึ้นและดูจางลงได้ในระดับหนึ่ง
- ช่วยให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้นลดริ้วรอยที่เกิดจากวัย และสิ่งแวดล้อม
ข้อควรระวัง ในการกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี (MD : Microdermabrasion)
หลัง
การทำไมโครเดอร์มาเบรชั่นคือ ควรหลีกเลี่ยงการทายาแสงแดดจัด ๆ
และเครื่องสำอางบางประเภท เช่น AHA หรือกรดวิตามินเอในวันแรก ๆ หลังทำ MD
ทั้งนี้ ควรปรึกษาแพทย์ร่วมด้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก นิตยสารสวยด้วยแพทย์
วิธีรักษารอยแผลเป็น "บนใบหน้า"
เพื่อ
ให้ใบหน้าของคุณทุกคนสวยใสหากไกลรอยแผลเป็นอันไม่พึงประสงค์ยิ่งโดยเฉพาะใบ
หน้าด้วยแล้วคงไม่มีใคร อยากให้มีด้วยกันทั้งนั้น
วันนี้เราจึงนำวิธีรักษารอยแผลเป็นมาฝากคนที่กำลังกลุ้มอกกลุ้มใจที่ต้องมี
แผลเป็นบนใบหน้าให้ได้สวยใสกันทุกคนเลยค่ะ ว่าแล้วเราก็มาเริ่ม
วิธีรักษารอยแผลเป็น เพื่อหน้าสวยกันเถอะค่ะ
วิธีรักษารอยแผลเป็น
1.
การใช้ยาทา
แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาทาในกรณีที่เป็นไม่มากนักหรือใช้ร่วมกับวิธีอื่น ๆ
ยาที่ใช้มักเป็นยาในกลุ่มวิตามิน A
โดยตัวยาจะไปกระตุ้นการสร้างเซลล์ใหม่ทำให้รอยแผลตื้นขึ้น
2.
การจี้ด้วยน้ำยา TCA
เพื่อกระตุ้นในรอยแผลมีการสร้างเซลล์หลังการจี้จะเกิดสะเก็ดดำ ๆ
อยู่ประมาณสัปดาห์แล้วจึงหลุดไปเองแต่ว่าห้ามแกะเด็ดขาด
3.
การรักษาด้วยไอออนโต (IONTO) เป็นการใช้กระแสไฟฟ้าขับตัวยาซึ่งนิยมใช้
คือกลุ่มวิตามิน A
เข้าไปในผิวหนังเพื่อกระตุ้นการสร้างใยคอลลาเจนในชั้นหนังแท้เพื่อให้รอย
บุ๋มตื้นขึ้น
4. การรักษาด้วย โฟโน (PHONO) เป็นการใช้คลื่นเสียงขับยาเข้าไปในผิวหนังโดยใช้ยาในกลุ่มวิตามิน A บำรุงและสร้างใยคอลลาเจน
5.
การรักษาด้วยวิธี MD (MICRODERMABRASION)
เป็นการผลัดผิวใหม่โดยใช้เครื่องมือพ่นผงคริสตัลลงไปยังผิวหน้า เพื่อขัดผิว
ส่วนคราบไคล และหนังกำพร้าชั้นบนออกไป
แล้วจึงใช้ตัวยาเร่งการสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาทดแทนช่วยให้รอยบุ๋มตื้นขึ้น
6. การรักษาด้วยวิธีการกรอแผลโดยใช้เครื่องเลเซอร์ ช่วยให้รอยบุ๋มตื้นขึ้น แต่ต้องใช้เวลาในการรักษาแผลค่อยข้างนาน
7. การฉีดสารสังเคราะห์โดยแพทย์ จะฉีดสารสังเคราะห์ เช่น อาติคอล หรือสาร HA เข้าไปในรอยแผล เพื่อให้รอยแผลเต็มขึ้น
ขอขอบคุณข้อมูลจาก ไอเอ็นเอ็น