เจ้าของ: jennydollita
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ศัลยกรรมเกาหลี] ศัลยกรรมเกาหลี กับ ID Hospital จมูก โหนก V3ลิฟติ้ง

[คัดลอกลิงก์]
26#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-16 19:29:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-16 19:32

ตอนที่เราคุยกับผู้ช่วยคุณหมอ ผู้ช่วยจะช่วยให้คำแนะนำเราได้เยอะทีเดียวค่ะ ไม่ต้องอายนะคะ อยากทราบอะไรถามเลย เค้าจะถามเราประมาณว่า ไม่ชอบส่วนไหน เพราะอะไร ผู้ช่วยจะอธิบายข้อสงสัยเบื้องต้นต่างๆ พร้อมกับทั้งให้ดูฟลิ์ม CT Scan ของเราประกอบ เจนคิดว่าเพื่อที่จะได้ทราบความต้องการเบื้องต้นของคนไข้ และทำตอบคำถามในสิ่งที่คนไข้สงสัย ทำให้มีความเข้าใจมากขึ้นก่อนพบคุณหมอค่ะ (พอก็คนไข้เข้าใจมากขึ้น อาจจะเป็นประหยัดเวลาในการซักถาม พูดคุยกับคุณหมอก็เป็นได้นะ อันนี้ คห.ส่วนตัวอีกแล้ว)

ผู้ช่วยคุณหมอคนนี้ น่ารัก อารมณ์ดีค่ะ  บรรยากาศการพูดคุยเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ^^ น้องล่ามเราแปลไปขำไป ผู้ช่วยหมอก็ขำ เรากับเพื่อนก็ขำ เอ๊ะ คุยอะไรก็ขำ …. ผู้ช่วยหมอบอกว่าเหมือนเราเข้าใจภาษาเกาหลีเลยเวลาเค้าอธิบาย เอ่อเปล่าหรอกค่ะ แต่หาข้อมูลมาล่วงหน้าแล้วบ้าง เวลาเค้าอธิบายฟลิ์มหรือเอากะโหลกหัวจำลองมาอธิบายเลยพอเข้าใจ อิอิ

เรานั่งคุยกันอยู่พักใหญ่มาก ซักพักคุณหมอก็เข้ามา คุณหมอจะไม่ได้เข้ามาทีเดียวพร้อมกันทั้ง 3  คนนะคะ มาทีละคนค่ะ ^^



เริ่มด้วยท่านแรก คุณหมอ Park Sang Hoon

คุณหมอจะรับผิดชอบการตัดโหนกแก้มค่ะ


ปัญหากับโหนกแก้ม



โหนกแก้มสูงคือ โหนกแก้มที่ยื่นออกมาจากแก้ม ซึ่งเป็นกระดูกที่อยู่ตรงส่วนด้านข้างและล่างตา และเป็นกระดูกโหนกแก้มที่มีขนาดใหญ่ และเจริญเติบดตเต้มที่ ทำให้หน้าดูแข็ง ถ้าแก้ไขในส่วนนี้ก็จะทำให้หน้าดูอ่อนหวานนุ่มนวลขึ้นค่ะ



เคสเจนจะเป็นประมาณลักษณะนี้ มีโหนกแก้มด้านข้าง และก็ไม่เท่ากันด้วยค่ะ อีกข้างเห็นชัด อีกข้างไม่ค่อยเห็น ส่วนโหนกแก้มด้านหน้ามีนิดหน่อย แต่เป็นคนเนื้อแก้มเยอะ เลยทำให้ดูหน้าบานใหญ่

ที่มา : http://th.idhospital.com/product/index.htm  ใครมีปัญหาโหนกแก้มแบบไหน ตาม Link เข้าไปดูได้เลย

เรามาดูวิธีการผ่าตัดกัน (ได้ยินหลายๆคนเรียกทุบโหนก อันนี้ไม่มีความรู้จริงๆค่ะ ตอนได้ยินว่าทุบก็แอบกลัว แล้วกะโหลกชั้นจะไม่พังเหรอ พอหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงได้ทราบว่าคุณหมอที่นี่จะใช้วิธีการตัดค่ะ >_< ที่อื่นมิทราบ)

รายละเอียดเพิ่มเติมตามไปอ่านกันได้เลยค่ะ
Link ของทาง ID Hospital http://eng.idhospital.com/face/face04.php

ข้อมูลภาษาไทย ทางเวปนี้เค้ารวบรวมข้อมูลและแปลไว้ค่ะ http://www.siliconeclub.com/index.php?option=com_content&view=article&id=537:-condee&catid=55

เพิ่มเติมจากข้อมูลใน Link นี้นิดนึงนะคะ ในส่วนของโหนกแก้ม จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คุณหมอปาร์คจะทำการตัดในส่วนที่ 2 และ 3 ในส่วนที่ 1 คุณหมอจะไม่ยุ่ง คุณหมอให้เหตุผลที่ว่า ส่วนที่ 1 มันมีเส้นประสาทเยอะ อาจจะเกิดความเสี่ยงค่ะ คุณหมอจะตัดแค่ส่วนที่ 2 และ 3 แล้วขยับเข้าไป โดยใช้ ไทเทเนียมยึดไว้ สำหรับเจ้าไทเทเนียมนี้สามารถอยู่ในร่างกายเราไปตลอดชีวิตค่ะ ถ้าใครอยากเอาออกต้องหลัง 6 เดือน – 1 ปี หลังจากกระดูกสมานกันดีแล้ว (ระยะเวลาเจนจำไม่ชัดเจน สอบถามทาง รพ. อีกครั้งนะคะ) แต่มีค่าใช้จ่ายค่ะ ปกติก็ไม่มีใครผ่าเอาออกกันนะ

Link ขบวนการผ่าตัดลดโหนกแก้มของทาง ID Hospital ค่ะ (มี V-Line ด้วยลองเข้าไปดูกัน)
http://www.youtube.com/watch?v=8HzXMXY0jQ8

27#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-16 19:33:30 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-16 19:37



คุณหมอท่านที่สอง คุณหมอ Kim Il Hwan คุณหมอผู้เชี่ยวชาญด้านการศัลยกรรมจมูกค่ะ
ปัญหาของเจนคือเป็นคนที่มีเนื้อจมูกน้อย และฐานกระดูกว้าง เคยผ่าตัดศัลยกรรมจมูกมาแล้วถึง 3 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 4 ค่ะ



จมูกที่เสริมมาครั้งแรกเมื่อประมาณปี คศ 1999 (14-15 ปีที่แล้ว) ในรูปถ่ายตอนปี 2009 (ประมาณ 5 ปีที่แล้ว) ในรูปคือ เสริมจมูกอย่างเดียว เป็นคนตัวเล็กค่ะ สูง 160 cm. หนักราวๆ 44-46 kg. แต่เป็นคนแก้มเยอะมาก คางตัด … ตอนทำใหม่ๆ สมัยนั้นมันก็โอเค ดูธรรมชาติ แล้วธรรมชาติก็ลงโทษ หึหึ เสริมที่ รพ.ยันฮี จำชื่อคุณหมอไม่ได้ค่ะ คุณแม่พาไป



จมูกรอบที่ 2 กลางปี 2010 แก้กับคุณหมอสอง คุณหมอนพรัตน์ รัตนะวรหะ ที่ รพ.สมิติเวช ศรีนครินทร์ค่ะ ราคาอยู่ที่ 35,000 - 40,000 บาท
เปลี่ยนซิลิโคนอันใหม่ โดยส่วนตัวแล้วชอบจมูกอันนี้มาก โด่ง คม พุ่งได้ใจ เสียเงินซื้อแว่นเยอะมาก  

… แต่ว่ามีปัญหาปลายจมูกค่ะ ถ้าอากาศเย็นๆ ปลายจมูกจะแดง แล้วเวลานอนเราชอบนอนมุด บางหมอนอยู่บนหัว หน้างี๊ไถไปกับที่นอน เอาน้องหมานอนด้วย ชอบเล่นกับหมา กลัวอุบัติเหตุปลายทะลุ
ในรูปจะเป็นปี 2010 – 2012
หน้า โบทอกซ์+ลิฟติ้ง 4-6 เดือน / ครั้ง  + ลด fat ที่แก้ม เดือนละครั้ง (ตัวนี้ไม่ค่อยเห็นผลนะ จ่ายครั้งละหมื่นค่าลดแก้ม เพราะปัญหาเราอยู่ไขมันชั้นใน )  กับคุณหมอณัฐ Medivisage Clinique ทองหล่อค่ะ
คางเติมฟิลเล่อร์ นิดนึงค่ะ เติมไป 2 รอบ จริงๆจะบอกว่า อย่าไปยุ่งกับฟิลเลอร์เลยนะคะ จะแพงจะดีขนาดไหนก็แล้วแต่ นานไปมันจะเปลี่ยนรูป เค้าบอกจะยุบหาย บอกเลยว่าไม่ เติมไป 2 ปียังเหลืออยู่ จนต้องไปเอาออก เอาออกได้หมดมั้ย … ตอบเลยว่าไม่



รูปเมื่อตอนช่วง เมษา 2014 ค่ะ หน้าไม่ได้ฉีดโบทอกซ์ มาประมาณ ปีกว่าๆ แล้ว ไม่ได้ทำอะไรเลย วิ่งจ็อกกิ๊งประขำ น้ำหนัก 42-43 สังเกตุดูแก้ม เยอะมาก เวลายิ้มเป็นร่องข้างจมูก จมูกไม่ค่อยโด่งแถมฐานยังกว้างอยู่ ทั้งๆที่คุณหมอเกลาช่วงฐานลงให้แล้ว นิดหน่อย ปลายจมูกมนและกลมไป ไม่ดทษคุณหมอนะคะ คือการผ่าแบบนี้ แผลข้างในจมูก ก็แต่งทรงจมูกไม่ได้มากไปกว่านี้ ทั้งข้อจำกัส เนื้อน้อย ฐานกว้าง ดั้งไม่มี >_<!! ตอนแรกก็ไม่ได้คิดจะเปลี่ยน แต่พอผ่านมาประมาณ 2 ปี บางวันปลายแดง บางวันมองเห็นเงาของกระดูกอ่อนที่ปลายจมูกค่ะ เลยตัดสินใจเปลี่ยนดีกว่า

*** ฝากนิดนึง เราเป็นคนเนื้อบาง ตอนที่เสริมจมูกรอบที่ 2 กับ 3 ช่วงแรกๆ ปลายจมูกแดง พอเวลาผ่านไปซักพักก็ดีขึ้น แต่พอเริ่มเข้าปีที่ 2 ก็แดง มองเห็นวัสดุที่เสริมลริเวณปลายจมูกค่ะ ใครทำแล้วเป็นแบบนี้บ้าง มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันค่ะ ***

ครั้งนี้เป็นการทำศัลยกรรมจมูกครั้งที่ 4 … เจนสนใจเทรนใหม่ ที่กำลังมาแรงในเกาหลี การเริมจมูกทรง " Barbie Line บาร์บี้ไลน์ " อ่านเจอในเวปฝรั่ง เค้าพูดคุยถึงจมูกทรงนี้ที่ รพ.ID กันเยอะเหมือนกันค่ะ

รายละเอียดจมูกแบบ บาร์บี้ ในเวปของ รพ. http://eng.idhospital.com/nose/nose0101.php  
ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าบาร์บี้ แน่นอน ก็ทรงเดียวกับตุ๊กตาบาร์บี้นั่นแหละค่ะ ปลายจมูกจะเชิดขึ้นเล็กน้อย โค้งเว้าดูเป็นธรรมชาติค่ะ ซึ่งการผ่าตัดศัลยกรรมนั้นคุณหมอจะดูจาก ไลน์หน้าผากและปากที่ยื่นออกมา ความกว้างของปีกจมูกและ ความเหมาะสมของใบหน้า โดยใช้เครื่อง CT Scan มาช่วยออกแบบความสูงของสันจมูกและ รูปทรงของปลายจมูก นอกจากจะใช้วัสดุเทียมหรือซิลิโคนแล้ว คุณหมอจะใช้กระดูดอ่อนหลังหูเสริมปลายจมูกให้เชิดขึ้นเล็กน้อยด้วยค่ะ
28#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-16 19:38:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-16 19:39



กลับมาคุยถึงตอนปรึกษาคุณหมอ Kim กันค่ะ คุณหมอดูประวัติ ฟลิ์มจากเครื่อง CT Scan … แล้วคุณหมอก็ถามว่า อยากได้จมูกแบบไหน เราก็ตอบ Barbie Line …

Dr.Kim : ถ้ามีตัวอย่างมา เอามาให้หมอดูได้นะ

Jenny : (เปิดรูปในโทรศัพท์ทันที) …  แบบนี้ …. (เว้นไป 3 วินาที) ไม่เอานะคะ ไม่ชอบอ่ะ

ทั้งหมอ เพื่อน ล่าม ผู้ช่วย ขำกันลั่นห้อง (ขำไรว๊า …  เราทำหน้าเขิน เหอๆๆๆ)

Dr.Kim : ไม่ชอบแล้วเอาให้หมอดูทำไม (แกก็ยังขำอยู่)

Jenny : ก็ …   แบบนี้ไม่เอา หมอจะทำแบบไหนก็ได้ (แบบจมูกหมูอ่ะค่ะ ^^!!)

Dr.Kim : เนื้อจมูกค่อนข้างบาง ตอนนี้หมอก็ยังมองเห็นเงากระดูกอ่อนอยู่นะ ฐานกระดูกกว้าง เอาแบบนี้ละกัน หมอจะใช้กระดูกอ่อนหลังหูอันเดิม ที่หมอคนก่อนเคยใช้ แต่ถ้าไม่พอหมอขออนุญาตตัดจากอีกข้างนะ ตรงฐานจมูกกว้าง หมอจะเคาะกระดูกให้แคบลง ผ่าตัดแบบเปิด แต่งกระดูกอ่อนตรงผนังกั้นรูจมูก แล้วก็หมอจะเอาเนื้อเยื่อใต้หนังศรีษะ มาปลูกถ่ายบนกระดูกอ่อนหนังหูอีกที เพื่อแก้ปัญหาเนื้อจมูกบาง  

เราก็พูดคุย ถามตอบ กับคุณหมออยู่ซักพักใหญ่ จนมาถึงคำถามนี้

Jenny : หมอคะ แล้วถ้ารอบนี้ ถ้าตัดเอากระดูกหลังหูอีกข้าง แล้วรอบหน้าจะเอาที่ไหนคะ

Dr.Kim : (หมอ ฮากร๊ากกกก แลก็ยื่นมือมาชี้หูเจน) ใช้ได้หมดเลย ตรงนี้ก็ได้ นี่ก็ได้ หมอตัดมาได้หมด ไม่ต้องห่วง
ฮากันไปอยู่ซักพักใหญ่กับคุณหมอ Kim (เรื่องฮาๆ ของคุณหมอ Park ก็มีนะคะ ไว้เล่าตอนท้าย ^^ เรื่องเยอะ ลืมไปบ้าง) ต่อไปก็คุณหมอท่านสุดท้าย
29#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-16 20:05:42 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-16 20:07

...................
อ่านแล้วสนุกมากเลยค่ะ ขอบคุณที่แชร์เรื่องราวดีๆนะคะ ตามอ่านต่อไป อยากไปทำที่เกาหลีมั่ง
ไม่ทราบว่าคุณเจนมีวิธีลดไขมันแก้มมั้ยคะ เพราะในรูปหน้าเรียวมากกก เราเป็นคนแก้มเยอะ แถมห้อย ทำมาทุกวิธียังไม่ยอมลงเลยค่ะ T_T
อ่านทุกข้อความเลยค่ะ ประทับใจโรงพยาบาลนี้ และก็คนสวยที่มาให้ข้อมูลเพิ่มเติม
มาอัพเดท เรื่องราวเรื่อยๆนะค่ะ เค้าเก็บตังค์อยู่อยากเอาโหนกแก้มออกมาก
และมั่นใจที่นี้ ถ้าทำโหนกแก้ม ไม่รวมจมูก ราคาประมาณกี่แสน ค่ะ
รอฟังๆๆๆๆๆ คิคิ
รอฟังด้วยคนค่ะ ตื่นเต้นแทนจัง^^
รอฟังต่อเรย
อยากรู้ราคาแก้จมูก ค่าใช้จ่ายอื่นๆทั้งหมด
สวยมากกกกกค๊าา
เข้ามาเก็บข้อมูลอย่างละเอียด
37#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-22 20:49:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-22 21:00

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-22 20:59

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-22 20:58

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-22 20:57



คุณหมอ Seo Young Tae คุณหมอผู้เชี่ยวชาญเรื่อง V3 Lifting ค่ะ ^^
V3 Lifting คืออะไร หลายๆ คนคงสงสัยกัน
V3 Lifting เป็นการยกกระชับผิวแบบใหม่ จะแตกต่างจากการยกกระชับแบบวิธีอื่นๆ เพราะวิธีนี้จะเป็นการดึงยกกระชับ ตั้งแต่กล้ามเนื้อ ชั้นไขมัน และผิวหนัง สามารถสร้างรูปหน้าให้เรียวเป็นวีไลน์ได้
การทำ V3 Lifting ไม่เพียงแค่เอาไขมันส่วนเกินออก แต่ยังช่วยกระชับในส่วนกล้ามเนื้อด้วย ซึ่งทำให้ใบหน้าเรียบเนียน และเรียวยิ่งขึ้น และวิธีการนี้จะเป็นการยกกระชับผิวให้เห็นเป็นลายเส้น โครงหน้าตัววี แยกออกจากโครงลายเส้นบริเวณคอ ได้อย่างชัดเจน และเป็นการแก้ไขให้กับคนที่มีแก้มเยอะ หรือคางสองชั้น (เหนียงใต้คาง) ให้เห็นใบหน้าที่เรียวขึ้นค่ะ
พูดให้เข้าใจง่ายๆ การทำ V3Lifting คือการทำรูปหน้า V-Line โดยการที่ไม่ได้ตัดกระดูกค่ะ



Lifting V3 จะแก้ไขในส่วนของ ผิว ไขมัน และกล้ามเนื้อ ให้ดีขึ้นพร้อมๆกันและทำให้มีใบหน้า V-Line ด้วยค่ะ





V3Lifting ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง มาดูกันค่ะ
V1. การใช้ไหมละลาย ยกกระช้บผิว
V.2 การใช้เลเซอร์ เอาไขมันออก
V.3 การทำให้กล้ามเนื้ออ่อนแอ









22.jpg (89.35 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 48)

22.jpg
38#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-22 21:00:27 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-22 21:04

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-22 21:03



การผ่าตัด 30 นาที – 1 ชม.
ใช้ยาชา และ ทำให้คนไข้หลับ ไม่ต้องนอนค้างที่โรงพยาบาล ไม่ต้องตัดไหม
และคนไข้ต้องอยู่ที่เกาหลีต่อ 2 วันหลังจากการทำค่ะ เพื่อกลับมา check up ที่โรงพยาบาล

ได้เวลาคุยกับคุณหมอ Seo Young Tae

คุณหมอท่านสุดท้าย ผู้เชี่ยวชาญด้าน V3Lifting

พอคุณหมอเดินเข้ามาปุ๊บ ก็ทักทายกันแป๊บนึง แล้วคุณหมอก็อธิบายถึงวิธีการขั้นตอนต่างๆ อย่างรวดเร็ว โดยมีน้องล่ามช่วยแปล

หมอ : แบบนี้น๊า อย่างงี๊น๊า …..

ล่าม : (แปลๆๆๆๆๆ)

เจน : (นั่งทำตาปริป ๆ ไม่มีใครเว้นช่องว่างให้ถาม)

พอหมออธิบายจบ หมอหันมาถามว่า สงสัยอะไรมั้ย

เจน : (ทำตาปริบๆ อีกรอบ ก่อนจะพูดกับคุณหมอ) … เอ่อ หมอพูดไวมากเลย อธิบายดีมาก
จนไม่รู้จะถามอะไร
คุณหมอขำ … พูดคุยกันต่อซักระยะ ก็ถ่ายรูปเป็นที่ระลึก ก่อนที่คุณหมอจะไปรับคนไข้คนอื่นต่อค่ะ

มาถึงขั้นตอนสุดท้าย สรุปค่าเสียหาย ^^!!

หลังจากนั้น ผู้ช่วยหมอแสนสวยคนเดิม ก็มาคุยกับเราอีกรอบ ถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ในแต่ละเคส
แล้วก็สรุปรวมยอดให้เรา ทาง รพ.จะหักเงินค่ามัดจำที่เราโอนมาก่อนหน้านี้ 1 ล้านวอน
แล้วเราก็จ่ายส่วนที่เหลือ แต่ละคน แต่ละเคส เทคนิค ความยากง่ายจะแตกต่างกันออกไป
ราคาของแต่ละคน อาจจะไม่เท่ากันนะคะ

ของเจน สรุปออกมาดังนี้ค่ะ

1.Checkbone Reduction ผ่าตัดลดโหนกแก้ม 7 ล้านวอน (ราคาเริ่มต้น 7 ล้านวอน)

2.Rhinoplasty แก้จมูก 7.5 ล้านวอน (ราคาเริ่มต้น 5 ล้านวอนสำหรับทำครั้งแรก
และ 6 ล้านวอนสำหรับการแก้ไขเคสที่เคยทำมาแล้ว)

3.V3Lifting 4.5 ล้านวอน (ราคาเริ่มต้น 4.5 ล้านวอน)

## รวม 19 ล้านวอน (X.032 ประมาณ 608,000 บาท)

เราจะจ่ายค่าศัลยกรรมวันปรึกษาเลย หรือว่าจ่ายวันผ่าตัดก็ได้นะคะ คือจ่ายก่อนเข้าผ่าตัด
สำหรับค่ายา ต้องจ่ายต่างหากค่ะ จ่ายตอนหลังจากผ่าตัดเสร็จ
จ่ายตามบิลจริง ทาง รพ.จะเป็นผู้ออกใบสั่งยา
แล้วน้องล่ามจะช่วยเราไปซื้อยาที่ร้านขายยาแถวๆโรงพยาบาลให้นะคะ

ส่วนบริการฟรีสำหรับคนไข้ของทาง รพ.มีดังนี้ค่ะ

- ค่าผ่าตัดเกิน 3 ล้านวอน มีบริการรถลีมูซีนไปรับที่สนามบินฟรีค่ะ
- บริการรถลีมูซีน รับส่งฟรี 3 รอบ (จำไม่ได้ว่าค่าผ่าตัดเกินเท่าไหร่เดี๋ยวสอบถามก่อนค่ะ
- บริการล่ามภาษาไทยฟรีค่ะ



เดี๋ยวมาต่อนะคะ Line:jennydollita
FB/jennydollita
เห็นราคาแล้วแทบเข่าอ่อน แต่มันสมราคามากค่ะ ชาตินี้จะได้ไปยกหน้าที่เกาหลีบ้างมั้ย
40#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 13:59:57 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 14:07

### ช่วงที่ 2 วันผ่าตัด



วันที่ 17  June 2014
07:20  … รถลีมูซีนของโรงพยาบาลมารับที่หน้าคอนโดค่ะ



สำหรับการผ่าตัดใหญ่ ใช้ท่อวางยาสลบ เจนต้องงดน้ำ และอาหารล่วงหน้า 7 ชม.นะคะ
น้องๆล่ามคอยส่งข้อความมาเตือน เจนงดตั้งแต่ตี 1 ก่อนหน้าวันผ่า ก็ตะบี้ตับันกินมาก
มีนัด ต้องถึงโรงพยาบาลไม่เกิน 8:20 ค่ะ



เจนพักที่คอนโดใหม่ ย่านกังนัม สะดวก สะอาด ปลอดภัย และทันสมัยมาก
อยู่สถานี Gangnam ทางออก 10 และสถานี Shinohyoen ทางออก 6 ผับ
ร้านอาหาร บาร์ ช็อปปิ้ง โรงหนัง รวมอยู่ที่นี่ ^^!! ตอนเย็นๆ ชอบเดินเล่น
ส่วนใหญ่ร้านอาหารแถวนี้จะเป็นที่นัดพบของคนวัยทำงาน ที่อายุยังไม่เยอะ
คนหน้าตาดีๆ อยู่แถวนี้เพียบ ไม่ค่อยเจอนักท่องเที่ยวในระแวกนี้นะคะ
คนไทยเดินสวนกันไม่กี่คน
เจนเช่ารายเดือนค่ะ ได้ราคาพิเศษหน่อย ปกติที่คอนโดนี้ราคาค่าเช่าจะค่อนข้างสูง
เดี๋ยวจะลงรายละเอียดที่พักให้เป็นอีกหัวข้อนะคะ ^^ เค้าให้เช่าเป็นรายวันด้วยแต่ห้องไม่ค่อยว่าง
ต้องจองล่วงหน้ากันนานหน่อย





ไปถึง รพ. 8 โมงนิดๆ เมื่อคืนนอนไป 5-6 ชั่วโมงเอง จริงๆแล้วก่อนผ่าตัดควรพักผ่อนให้เพียงพอนะคะ >_<
อันนี้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดี
… อาบน้ำล้างหน้าให้สะอาดไม่ต้องทาครีม สระผมให้เรียบร้อย เพราะจะไม่ได้สระอีกหลายวัน
เครื่องประดับต่างๆ ไม่ต้องใส่มานะคะ  ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ด้วยค่ะ
สวมเสื้อผ้าสบายๆ เสื้อควรมีกระดุมผ่าหน้า
41#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 14:08:16 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 14:14



สาเหตุของการนอนน้อย เพื่อนสนิทบินตามมาจากกรุงเทพ
จะมาเฝ้าวันผ่าตัดพรุ่งนี้ค่ะ เราเลยช็อปปิ้ง ปาร์ตี้แบบสาวๆ กันจนดึกดื่น
พร้อมฉลองวันเกิดให้เพื่อนล่วงหน้าด้วย



นั่งรอซักพัก น้องล่ามก็มาค่ะ พาเราขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ชั้นบน



เค้าจะมีกระเป๋าให้เราใส่เสื้อผ้า สัมภาาระทุกอย่างไว้ในนั้นค่ะ
แล้วเค้าจะเอาไปไว้ในตู้ล็อคกุญแจ ที่ห้องพักฟื้นของเรา



รพ.นี้ค่อนข้างละเอียดนะคะ มีการ Check List ก่อนเข้าผ่าตัดอีกรอบ



หลังนั้นก็มารอพบคุณหมอก่อนเข้าผ่าตัดค่ะ

42#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 14:15:13 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 14:21



เริ่มด้วยคุณหมอปาร์ค  … หมอเข้ามาพูดคุย แล้วก็มาร์คที่หน้า
ตรงข้างหูคือ จะเป็นส่วนที่หมอจะเปิดแผลตรงนี้นะคะ ตัดโหนก
คุณหมอจะเปิดแผลตรงไรผมข้างหู และ ในปากตรงช่วงแก้มทั้ง 2 ข้าง
ตามเทคนิคของคุณหมอ คุณหมอบอกว่า การที่เปิดแผลทั้งไรผมข้างหู และในปาก
จะช่วยให้เนื้อเยื่อเสียหายน้อยที่สุด หมอจะตัด แล้วก็ร่นกระดูกไปข้างหลัง
แล้วก็ใช้ไทเทเนียมยึดไว้



ตามด้วยคุณหมอคิม … จมูก หมอบอกความยาวจะได้เท่าเดิมนะ
แต่หมอจะทำให้เรียว โด่ง และปลายเชิดขึ้นไปอีกนิดนึง
ส่วนความยาวได้เท่านี้ หมอจะเปิดแผลตรงหนังศรีษะด้านข้าง
เพื่อที่จะเอาเนื้อเยื่อมาปลูกถ่ายบนกระดูกอ่อนนะ ถ้าเกิดว่ากระดูกอ่อนอันเก่าไม่พอ
หมอถึงจะตัดจากหลังหูอีกข้าง  



คุณหมอโซ ท่ายสุดท้าย …. หมอจะเปิดแผลเล็กๆใต้คาง ทั้งสองข้างเพื่อที่จะสอดท่อเข้าไปเลเซอร์ ไขมันที่แก้มออก
หมอจะเอาออกให้พอดี ถ้ามากเกินไป จะทำให้ผิวหน้าไม่เนียนเรียบ
แล้วหมอจะทำให้กล้ามเนื้ออ่อนตัว จึงจะใช้ไหมละลายเย็บ ร้อยยกกระชับขึ้นไป
เจน : หมอคะ เอาตรงนี้ออกด้วย ไม่ชอบเลย (ตรงวงกลมแดงๆ เล็กๆข้างแก้ม)
หมอ : หมอเอาออกไปนิดเดียวนะ หมอว่าเอาออกเยอะไม่สวย
เจน : โอเคค่ะ ^^

*** ดูที่รูปนะคะ หน้างี๊ ลายไปหมด ไหนตอนวันปรึกษา คุณหมอบอกว่า
เจนลุคเลิฟลี่แล้วไงคะ ไหงมาเต็มหน้าเลย 555555

*** วันที่เข้าไปปรึกษา คุณหมอปาร์คบอกว่า หลังจากทำจมูก
ตัดลดขนาดโหนกแก้ม แล้วก็ลิฟติ้งแล้ว โดยรวมแล้วจะไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบ make over
เพราะเราปรับโครงหน้านิดหน่อย รูปหน้าโครงหน้าจะชัดขึ้น เพราะโหนกก็ไม่ได้มีเยอะมาก
กรามก็ไม่ได้เยอะมาก แต่จะทำให้ดูอ่อนหวาน นุ่มนวลขึ้น … นั่นแหละค่ะคุณหมอที่ต้องการเลย
โหนกแก้มทำให้ดูหน้าดุ แก้มก็เยอะ ตุ้นนุ้ยไป
  
เอาล่ะค่ะ เราไปเตรียมตัวเข้าห้องผ่าตัดกันเลย

http://www.youtube.com/watch?v=8HzXMXY0jQ8

นาทีที่ 1:04 เป็นห้องแอร์เชาเวอร์​ เราเดินเข้าไปกับพยาบาลแล้วก็ล่าม
พอเดินเข้าไปเค้าก็ให้เอามือปิดที่หู เพราะจะมีลมค่อนข้างแรงพ่นออกมา ซักพัก ประตูอีกฝั่งก็เปิดออก

ก่อนหน้าไม่มีอาการตื่นเต้น หรือกลัวเลย รู้สึกปกติ เพราะเชื่อมั่นในฝีมือของคุณหมอและเทคนิคทางการแพทย์
แต่พอประตูเปิดออก เราก็มองออกไป ตรงหน้าเหมือนห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ
หรืออาจจะเป็นลิฟท์ ก็ไม่แน่ใจ ตอนนั้นรู้สึกงงๆ เห็นเตียงคนไข้ กับทีมแพทย์
พยาบาล ประมาณ 4-5 คนอยู่ข้างๆเตียง เค้าให้เรานอนลงบนเตียง แล้วพยาบาลก็หาเส้นเลือด
…พร้อมกับเปิดเพลง 2NE1 จำได้ว่าเป็ฯเพลงใหม่ come back home
(เอ้ะ ตกลงงงจริงป่าว จำเพลงได้แม่น 5555)

พยาบาลหาเส้นเลือดอยู่นาน กว่าจะได้ ก่อนที่จะเจาะลงไป
ใจเราเต้น ตุ๊บ ๆๆๆๆๆ รัวเลย ตื่นเต้นมว๊ากกกกกกก  เราบอกเค้า
잠깐만요 잠깐만요 ชัม กัน มาน โย ~ ชัม กัน มาน โย >> เดี๋ยวก่อน เดี๋ยวก่อน
ซักพัก พยาบาลก็ฉีดอะไรซักอย่างเข้าไปในท่อน้ำเกลือ เรารู้สึกแสบๆนิดๆ แล้วก็หลับไป


43#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 14:23:26 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 14:27



ออกมาจากห้องผ่าตัด มาห้องพักประมาณ 4 pm.
จำไม่ได้ว่าเข้าห้องผ่าตัดกี่โมง แต่เจนเป็นคิวแรกค่ะ
ตามที่คุณหมอบอกไว้ ผ่าตัดโหนกแก้ม 1 ชม. จมูก 2 ชม. และ V3lifting 1 ชม.
ยังไม่รวมเวลาที่ทีมผ่าตัดต้องเตรียมเครื่องมือ สำหรับการผ่าตัดในแต่ละช่วงอีกนะคะ
เจนรู้สึกตัวตอนที่มาถึงห้องพัก คือนอนอยู่บนเตียงเข็น
แล้วก็ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อ หลังจากนั้นเค้าก็พยุงเรามานั่งที่เตียงนี้  
ตอนนั้นรู้สึกงงๆ แขน ขา ไม่มีแรงเลยค่ะ เพื่อนก็แกล้ง ถ่ายรูปสนุกสนาน
…  หลายๆคนบอกว่าเราเก่งจัง ไม่กลัว จะบอกว่าไม่เก่งเลย
แต่ก็ไม่กลัวเพราะมั่นใจว่าต้องปลอดภัย และออกมาดีกว่าเดิม
… หลังผ่าตัดไม่มีอาการเจ็บปวดใดๆเลยค่ะ แต่ว่า มันจะทรมานตรงที่

### ในกรณีที่ผ่าตัดใหญ่ ใช้ยาสลบ หลังผ่าตัด 6 ชม.
ห้ามหลับงดน้ำ อาหาร และต้องพยายามหายใจทางปาก เข้า – ออก ลึกๆ นะคะ
ก๊าชยาสลบจะได้ไม่ตกค้างที่ปอด และเพื่อเป็นการป้องกันการอาเจียน
และสำลักเลือดด้วยค่ะ พยาบาลบอกว่าจะทำให้ยุบบวมได้ไวด้วย …
… ไม่มีอาการเจ็บปวดหลังผ่าตัดจากแผลก็จริง แต่ในระหว่าง 1-2 ชม. แรก
เราง่วงมาก ลืมตาแทบไม่ขึ้น หิวน้ำ คอแห้ง รู้สึกระคายเคืองคอ เจ็บคอ
จากการสอดท่อเครื่องช่วยหายใจ ช่วงแรกปรับตัวยังไม่ค่อยได้
พอตาปิดเพื่อนต้องคอยเรียก ช่วงหลังๆ เพื่อนแทบจะตะคอก 555555  
มันง่วงจริงๆ ก่อนเข้าผ่าตัดดันนอนน้อยอีก เฮ้อออออ



ช่วงแรกๆ แขนขายังชาๆ เหมือนไม่มีแรง พอผ่านไปได้ซัก 3 ชม.
ก็หยิบมือถือขึ้นมาเก็บรูปไว้ ตานี่แทบจะลืมไม่ขึ้น
4-5 ชม. หลังผ่า หน้าเริ่มตึงขึ้นแล้วค่ะ
ปากเริ่มเจ่อ สีม่วงๆที่แก้มเป็นรอยเมจิกที่คุณหมอเขียน
ประมาณ 4 ทุ่ม พยาบาลก็มาบอกให้นอนได้ ดีใจมากกกกก แถมเอาน้ำอุ่นมาให้ดื่มด้วย
หลังจากออกมาจากห้องผ่าตัด พยบาลจะคอยเปลี่ยนประคบเย็นให้เราตลอดทั้งคืน
พอหายเย็นปุ๊บ ก็จะมาเปลี่ยนทันที การประคบเย็นในช่วงแรก จะช่วยบรรเทาอาการบวม
และช้ำ หลังผ่าตัดได้ดี จะบอกว่าจำเป็นมากนะคะ
รู้สึกตัวอีกที ราวๆ ตี 2 เข็นเสาน้ำเกลือไปเข้าห้องน้ำเองได้แล้วค่ะ ไม่ต้องกดปุ่มเรียกพยาบาล
ช่วงประมาณ 6 โมงเช้า เจนมีอาการไอ สำลักเลือดออกมานิดหน่อย
ไม่เป็นอันตรายอะไร ออกมานิดเดียว ช่วงแรกมีแอบงีบไปบ้างเพื่อนไม่เห็น
… อ่อลืมบอกไปว่าญาตจะอยู่เฝ้าได้ถึง 4 ทุ่มนะคะ



ประมาณ 8 โมง พยาบาลก็จะพาเราลงไปชั้นล่าง เพื่อไปทำความสะผาดแผล
หลังจากนั้นก็ขึ้นไปถ่ายรูป และ CT Scan หลังผ่าตัดอีกรอบนึงค่ะ เมื่อเรียบร้อยแล้วก็กลับไปที่ห้อง
ในระหว่างที่รอคุณหมอมาตรวจ พยาบาลจะเข้ามาทำ skin care ลดบวมให้เราด้วยค่ะ

… รพ.จะออกใบสั่งยาให้ ต้องเอาใบสั่งยาไปซื้อที่ร้านขายยาอีกทีค่ะ
น้องล่ามก็น่ารักมากเป็นธุระให้ ค่ายาประมาณ 1 แสนวอน มีทอนนิดหน่อย พอได้ยาแล้ว
น้องเค้าก็จะอธิบายวิธีกิน ใช้ ต่างๆ ให้เราทราบ แล้วก็จะมีเอกสาร
ข้อควรปฎิบัติหลังผ่าตัด ทั้ง 3 อย่าง (ภาษาไทยและอังกฤษ) ให้กลับบ้านด้วยค่ะ  หลังจากนั้นก็กลับบ้านได้ ….
รถลีมูซีนของโรงพยบาลมาส่งที่ห้องประมาณเที่ยง

… พอถึงห้องก็รีบถ่ายรูปไว้ วันที่ 1 หลังการผ่าตัด … ไม่มีอาการเจ็บปวด แค่รู้สึก ตึงๆ หน้า

44#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 14:28:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 14:34



สะเก็ดแผลจากการผ่าตัด รูปแรกจะมองเห็นรอยเย็บจากการเอาเนื้อเยื่อใต้หนังศรีษะ
ไปปลูกถ่ายบนปลายจมูกค่ะ แก้มแดงตุ่ยหลังจากทำสกินแคร์ที่ รพ.เมื่อเช้า



ใบนัด check up มีตัดไหม แล้วก็ทำสกินแคร์ ลดบวมด้วยค่ะ ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม


นอกจากหมอนรองคอสีแดงแล้ว ทาง รพ. ก็จะให้ที่สำหรับประคบอุ่น เย็น มาด้วยนะคะ

- มีน้ำยาทำความสะอาดจมูก แล้วก็จะมีขี้ผึ้งใ
ห้ทาหลังจากเราเช็ดแผลและข้างในเรียบร้อยแล้ว วันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
- ยาแก้ปวดขั้นรุนแรง ทานได้วันละ 1 เม็ดเท่านั้นค่ะ (เจนไม่ได้ทานเพราะไม่ปวดเลย)
- หน้ากากอนามัย เวลาออกไปข้างนอกค่ะ
- ขวดสีดำๆ น้ำยา เอามาผสมกับน้ำขวดใสๆ ไว้บ้วนปาก
ทุกๆ 2 ชั่วโมง แล้วก็บ้วนหลังทานอาหารทุกครั้ง ตื่นนอน และก่อนนอนด้วยค่ ^^!!



ตอนลงรถ คนขับจะให้น้ำฟักทองเรามากล่องนึงค่ะ ดื่มระหว่างวัน ช่วยลดบวม
เอาแช่เย็นจะช่วยให้ทานง่ายขึ้น รสชาติ มันๆ เปรี้ยวนิดๆ บอกไม่ถูก 5555
ส่วนยาก็จะมาเป็นชุดเลย เขียนกำกับ เช้า – กลางวัน – เย็น
*** ซองที่มีดาวคือต้องทานให้หมดก่อน ค่อยไปทานซองอื่นๆค่ะ
เอาโจ๊กซองของไทยมาด้วย กะว่าทำทานหลังผ่าง่ายๆ
…. ไม่แนะนำนะคะ เค็มมาก จะทำให้หน้าบวม ช่วงนี้งด อาหารเผ็ด เค็ม มัน รสจัด >_<!!



เพื่อนชาวเกาหลีแนะนำให้ดืมชาอันนี้ค่ะ ซื้อได้ในซุปเปอร์มาเก็ตทั่วไป ดื่มงายกว่าน้ำฟักทอง
หอมๆ รสชาตินุ่มดี เจนชอบดื่มอันนี้มากกว่าน้ำฟักทอง
45#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 14:34:54 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 14:39



ช่วงค่ำ หน้าเริ่มจะระเบิด 5555 ย้ำว่าไม่ปวด แต่จะรู้สึกตึงๆหน้า
อ้าปากพูดไม่ค่อยได้ ช่วงนี้เป็นใบ้เลย
ผมกว่าจะสางได้ ต้องมาถักเปียไว้ อยากสระแต่สระไม่ได้ ยังไม่ได้ตัดไหมค่ะ T____T


ข้อควรระวังหลังศัลยกรรมกระดูกใบหน้า  

1.ให้นอนโดยยกหัวสูงกว่าหัวใจประมาณ 30 องศา
เพื่อช่วยให้อาการบวมของใบหน้าลดลงเร็วขึ้น
2.คนไข้ที่มีเทปติดปลายคาง สามารถเอาออกเองได้
โดยใช้น้ำแตะๆที่เทป แล้วค่อยๆ แกะออก สามารถเอาออกได้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันที่ 3 หลังผ่าตัด
3.ให้ประคบเย็น ในช่วง 3-4 วันแรกหลังการผ่าตัด
จะช่วยไม่ให้มีอาการบวมเพิ่มขึ้น หลังจากนั้นเปลี่ยนเป็นประคบอุ่น
อีกประมาณ 2 weeks เป็นการช่วยลดอาการบวม
ในการประคบอุ่นห้ามอุ่นแพ็คประคบด้วยการเข้าไมโครเวฟ
หรือต้มในน้ำเดือด แต่ให้แช้แพ็คประคบในน้ำอุ่น
4.การรับประทานอาหาร
- วันแรกให้ทานอาหารอ่อนๆ เช่นโจ๊ก หรือขนมปังนิ่มๆ เต้าหู้ ไข่ต้ม ไข่ตุ๋น เป็นต้น
- งดอาหารที่ช่วยในการขับถ่าย : อาหารที่มีไฟเบอร์มาก
เช่น โจ๊กฟักทอง โจ๊กเมล็ดสน โจ๊กงาขาวน้ำนม น้ำเต้าหู้ นมถั่วเหลือง โยเกริ์ต เป็นต้น
- งดอาหารเหล่านี้ 2 อาทิตย์หลังผ่าตัด (จนกว่าจะตัดไหมค่ะ) อาหารมัน เผ็ด เค็ม
- งดอาหารเหล่านี้ 2 เดือน หลังการผ่าตัด
(สำหรับคนไข้ที่ผ่าตัดโหนกแก้มต้องระวังเป็นพิเศษ)
อาหารที่แข็ง เหนียว (เช่น ขนมต๊อก ข้าวเหนียว ลูกอม หมากฝรั่ง
ปลาหมึกแห้ง เนื้อแห้ง หัวผักกาด กิมจิ อัลมอนด์)
- ดื่มน้ำอุ่นวันละ 1 ลิตรขึ้นไป จะช่วยบรรเทาอาการบวมลดลง
และทำให้ช่องปากสะอาด รวมถึงช่วยละลายเสมหะออกไป
5.อาจจะยังมีเลือด ที่ติดค้างในคอ หรือจมูก ให้บ้วนทิ้งเบาๆ
หลังจากผ่าตัดไปแล้ว 2 สัปดาห์ หากยังมีความรู้สึกว่าเลือดยังออกมามาก
หรือมีตกค้าง ในคอมากเกินไป ให้มาติดต่อที่ รพ.
ควรหลีกเลี่ยงการใช้กล้ามเนื้อบนใบหน้าในระยะนี้
เช่น การขากเสมหะแรงๆ ให้กลืน หรือคายออกมาเบาๆ ในระยะเวลา 1 เดือน
หากต้องการสั่งน้ำมูกให้ใช้วิธีการเช็ดน้ำมูกแทน
6.รับประทานยา ตามเวลา เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
หลังจากรับประมานยาแล้ว หากมีอาการแพ้ หรืออาการผิดปกติใดๆ เช่น ลมพิษษ
ให้มาติดต่อที่ รพ.  ยา Tarasyn (ทาราซิน) ที่จัดให้เป็นยาแก้ปวด
หากมีอาการปวดในตอนเช้า ให้ทานยา 1 เม็ดเท่านั้น
7.วิธีบ้วนปาก เพื่อล้างภายในช่องปาก
(ให้บ้วนทุกวันอย่างน้อย 2 สัปดาห์ ไปจนถึงวันตัดไหม)
*** วิธีผสมน้ำบ้วน : น้ำเกลือ 1 ลิตร ผสมกับน้ำยา Hexamedin 20 cc
- ให้บ้วนหลังตื่นนอน ก่อนทานอาหาร บ้วน 10 ครั้งขึ้นไป
- หลังจากทานอาหาร ให้บ้วน 10 ครั้งขึ้นไป จนน้ำที่บ้วนออกมาเป็นสีใสๆ
ดื่มน้ำ ทานอาหาร หลังบ้วนปาก 10 นาทีขึ้นไป
- บ้วนปากทุกๆ 2 ชม. แม้ว่าจะไม่ได้ทานอาการก็ตาม
- ก่อนเข้านอน บ้วน 10 ครั้งขึ้นไป
8.การใส่ที่รัดใบหน้า (Apply Facial Bandage)
ใส่ที่รัดหน้าทุกวัน 1-2 สัปดาห์หลังผ่าตัด และทุกๆ 1 ชม.
ถอดออกพักได้ 20-30 นาที
ขณะบ้วนปาก รับประทานอาหาร และนอนหลับ ใ
ห้ถอดที่รัดใบหน้าออก หากจู่ๆ บวมขึ้นมาก ให้เอาผ้าก็อตวางรองระหว่างสัวนที่รัดใบหน้า
และส่วนที่มีอาการบวม แล้วรีบติดต่อ รพ.
(ให้เก็บผ้าก็อต ที่ รพ. ให้ไว้ประมาณ 1 เดือน)
9.หลังจากติดพลาสเตอร็กันน้ำที่แผล สามารถ อาบน้ำ สระผมได้ แต่ห้ามก้มหน้า
ให้เอนนอนไปด้านหลัง แล้วจึงสระผม หากพลาสเตอร์ที่ รพ.ติดให้ หลุดออกหลังจากอาบน้ำ ให้ใช้ไดร์เป่าแผลให้แห้ง
10.การออกกำลังกายเบาๆ ช่วงกลางวัน จะช่วยลดอาการบวมลงได้
เช่น เดินเล่น และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ เช่น ว่ายน้ำ ฟิตเนส ปีนเขา
สิ่งที่ควรงด หลังผ่าตัด 4 สัปดาห์ การทำซาวน่า
หรือ สปาที่ต้องอยู่ในที่ร้อนๆ งดสูบบุหรี่ และเครื่องดื่มมึนเมา การทำเลเซอร์ IPL
11.กรณีที่ทำโหนกแก้มในลักษณะสภาพร่างกายที่แตกต่างกัน
อาจจะทำให้เกิดรอยช้ำ ที่ต่างกันไป แต่จะค่อยๆหายไปเองภายใน 2 สัปดาห์
ควรระวังไม่ให้ผิวบริเวณที่ช้ำ โดนแดด เพราะอาจจะทำให้สีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยนไปได้ค่ะ
ควรทาครีมกันแดด หรือใส่หมวก จนกว่ารอยช้ำจะหายไป

46#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 14:39:40 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
ข้อควรระวังหลังการรับศัลกรรมจมูก

1.ให้นอนยกหัวสูงกว่าหัวใจประมาณ 30 องศา จะช่วยให้อาการบวมของใบหน้าลดลงเร็วขึ้น
2.ช่วง 72  ชม.แรก หลังการผ่าตัด จะเป็นช่วงที่มีอาการบวมมากที่สุด ในระยะนี้ให้ประคบเย็น
วันที่ 4 หลังการผ่าตัด ให้เปลี่ยนมาเป็นประคบอุ่น
3.อาการบวม อละ ระยะเวลาในการพักฟื้น จะแตกต่างกันออกไปในคนไข้แต่ละคน
อาการบวมรอบๆจมูก ทั้งซ้ายและขวา อาจจะยุบบวมไม่เท่ากัน
อาการบวมรุนแรงจะค่อยๆหายไปภายใน 5-7 วัน และ  
จะดูเป็นธรรมชาติมากขึ้นหลัง 1 เดือน
4.รอยช้ำที่เกิดขึ้น จะค่อยๆหาย  ภายใน 2 สัปดาห์ ในช่วงที่มีรอยช้ำให้หลีกเลี่ยงแดด
เพราะจะทำให้สีผิวบริเวณนั้นเปลี่ยน ให้ใส่หมวก หรือทาครีมกันแดด เพื่อป้องกัน หากจำเป็นต้องออกแดด
5.คนไข้บางราย อาจจะมีผ้าก็อตปิดที่รูจมูก หลังจากผ่าตัด  1-2 วัน
ทาง รพ.จะเป็นผู้เอาออกให้ แล้วแต่กรณีค่ะ
6.ตัดไหมหลังผ่าตัด 6-7 วัน คนไข้ที่มีเฝือกครอบจมูก
ห้ามเอาออกเองเด็ดขาด ทาง รพ.จะเอาออกให้ 7 วันหลังผ่าตัดค่ะ
7.การล้างหน้า หรือแต่งหน้าบริเวณจมูก ทำได้ในวันถัดไปหลังจากตัดไหม
8.หลังการผ่าตัด ให้ใช้คัตเติ้ลบัต ชุบน้ำยาล้างแผล เช็ดแผลในจมูก
วันละ 2 ครั้ง เช้า – เย็น แล้วจึงทาด้วยยา Fucidine (ขี้ผึ้ง) จะช่วยให้แผลหายไวขึ้น
9.ข้อควรระวังในช่วง 3 สัปดาห์แรก หลังการศัลยกรรม
- งดเครื่องดื่ม มึนเมา และการสูบบุหรี่
- งดซาวน่า และการอยู่ในที่ร้อยๆ
ระหว่าง 1 เดือน หลงัผ่าตัด งดใส่แว่น การออกกำลังกายหนักๆ
และงดการสั่งน้ำมูก (ให้เช็ดแทน)
ช่วง 1 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ห้ามสั่งน้ำมูกแรงๆ เด็ดขาด
10.หลังจากการทำศัลยกรรมแล้ว ให้คนไข้ปฎิบัติตามคำแนะนำโดยเคร่งครัด
มิฉะนั้น อาจจะทำให้รูปทรงที่จัดไว้ เกิดการเปลี่ยนแปลง หรืออาจจะเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาได้


V3 Lifting Post Surgery Care

1.You can return to daily activities after resting for 2 hours after surgery
2.Come to hospital on the 2nd/3nd day for stitching out.
You can receive high frequency type care after one week.
3.The swelling goes downwards as it fades, thus sitting up straight
and taking walks are beneficial for recovery (as opposed to lying down)
4.Touching/aggravating the area of surgery might lead to bacterial infection.
5.Do not drink/smoke for 2 weeks after sugery,
or it will lead to more swelling/infections and other symptoms. Do not do vigorous until 3 weeks has passed.
6.There might be bruiding after the surgery,
and the speed at which it fades depends on each person's constitution.
Serious swelling fades in the first week, it take at least 1-2 months before
the swelling fully fades away, results starts showing from 2nd month.
7.Do not lean on the side/press the face too much/open the mouth to wide in the first month.
8.Due to swelling, the face surface might look uneven,
and the side/cheekbones might look bigger than usual,
but it will improve in 2-3 weeks after the swelling subsides
47#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 15:08:02 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 15:35



ตื่นแต่เช้า ทานข้าว ทานยา …วิวจากห้องพักค่ะ อยู่ชั้นบนสุด



วันที่ 2 หลังผ่าตัด มีรอยช้ำนิดหน่อย แค่ตรงคอ แล้วก็ใต้ตาข้างขวาค่ะ



… ยากินทีละเป็นสิบเม็ด เช้า – เย็น ครั้งละ 10 กลางวัน 8 ในช่วงสัปดาห์แรก หลอนไปเลย
~ ออกไปเดินช็ปปิ้งกับเพื่อนค่ะ เดินเยอะๆ ช่วยลดบวม …
ใส่รองเท้าที่รองรับการกระแทกหน่อยก็ดีนะคะ ^^ ลงทุนถอยรองเท้าใหม่เลย



ก่อนเข้านอน … เหมือนแก้มจะระเบิด บวมมาก >_< แต่ไม่มีอาการปวดใดๆนะคะ



วันที่ 3 หลังผ่าตัด … วันนี้มี check up รถลีมูซีนมารับที่หน้าคอนโด ตรงเวลามาก



รูปแรก ถ่ายตอนเช้า เปล่งสุดๆ วันนี้เป็นวันที่บวมสุดเลยค่ะ รูปที่ 2 กับ 3 ถ่ายที่ รพ. กำลังนั่งรอล่ามค่ะ ^^
หน้าบวมมาก จากการทำ V3 lifting เพื่อนตัดโหนก ทำจมูก ไม่ค่อยบวมเลย



น้องบี ล่ามใจดีมาแล้ว ลงไปชั้นล่างเพื่อทำความสะอาดแผลก่อนค่ะ





ซักพักพยาบาลก็เข้ามาทำความสะอาดแผลตามจุดต่างๆ และ และ และ
…แกะพลาสเตอร์ที่หน้าออก (ตรงจมูกไม่ได้แกะนะคะ)
มาเจ็บก็ตอนแกะพลาสเตอร์นี่แหละค่ะ น้ำตาเล็ดเหมือนกัน >_<
พยาบาลให้บ้วนน้ำยาให้ดูด้วยนะคะ เพื่อที่จะเช็คว่าเราบ้วนถูกวิธีมั้ย
แล้วก็คอยทวนเรื่องการปฎิบัติตัวหลังการผ่าตัดด้วย
ที่นี่ค่อนข้างเข้มงวดหลังผ่ามาก …พรุ่งนี้พยาบาลบอกว่าประคบอุ่นได้ค่ะ ^^
48#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 15:37:33 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 16:10

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 16:06



หลังจากนั้นก็เดินมาที่แผนก Face Diet อยู่ใกล้ๆกับตึกใหญ่ค่ะ
เดินนิดเดียว 1-2 นาทีได้ มีน้องบี ล่ามไทย พาไปค่ะ







คุณหมอปาร์คกับเหล่าคนดัง



นั่งรอแป๊บนึง พนง.ก็เดินมาตามไปที่ห้อง skin care ค่ะ
ใช้เวลาประมาณ 45 นาที เค้าจะทำความสะอาดคราบกาวพลาสเตอร์
ที่แกะออกไปก่อนหน้านี้ที่ห้องทำความสะอาดแผล เค้าให้เรากลั้นหายใจ
เพราะกลิ่นน้ำยาเช็ดแรงมาก แรงจริงๆค่ะ ตอนที่เค้านวดหน้า จะรู้สึกเจ็บๆ ตึงๆ
ตรงข้างแก้มทั้ง 2 ข้าง เนื่องจากเราร้อยไหม ลิฟติ้ง >_< แต่ก็ทนได้
ช่วงท้ายเหมือนมีเครื่องอะไรซักอย่าง วนอยู่รอบๆหน้าเรา
รู้สึกอุ่นๆหน้า เค้าเอาผ้าปิดตาไว้มองไม่เห็น เผลอหลับไปเหมือนกัน …
พอเสร็จนะ มีทาครีมให้ด้วย รู้สึกสบายหน้ามากกกกกก





เสร็จแล้ว รถของ รพ.ก็ไปส่งที่คอนโดเหมือนเดิมค่ะ ^^



ช่วงดึก หน้าลดลงไปเยอะมากกกกก ไม่น่าเชื่อหลังทำสกินแคร์รอบที่ 2  … ขวามือ
บางครั้งรู้สึกเพลียๆ ทานอะไรไม่ค่อยได้ เจนก็จะทานไอศครีมค่ะ
รสโปรด Almond Bon Bon เสียดายเวลาทานต้อยคายอัลมอนด์ทิ้ง เพราะมันแข็ง ห้ามทาน >_<



วันที่ 4 หลังผ่า ช่วงเช้า ด้านข้างเต่งมาก แต่ก็ยุบลงไปเยอะแล้วค่ะ
พลาสเตอร์ปิดแผลข่างหู บน เป็นแผลจากการผ่าตัดโหนกแก้ม
อันเล็กๆถัดมาแผลเย็บจากการร้อยไหม ส่วนใต้คางจะมี 2 จุด
เป็นแผลจากการสอดท่อเลเซอร์เข้าไปสลายไขมันกระพุ้งแก้มค่ะ  
วันนี้อาการเจ็บคอจากการสอดท่อช่วยหายใจ ดีขึ้นมากเลย แทบจะไม่ระคายเคืองแล้ว
รูปขวามือสุด แผลจากการผ่าตัดจมูก ข้างนอกเป็นไหมธรรมดานะคะ ครบ 7 วัน
ก็ไปถอดเฝือดตัดไป ส่วนข้างในหมอใช้ไหมละลายเย็บค่ะ



ช่วงกลางวันก็ออกไป supermarket มาค่ะ ซื้อเสบียง …
อ้าปากได้นิดหน่อยเอง แตงโมก็ต้องหั่นชิ้นเล็กๆ เวลาทานข้าวก็ใช้ช้อนชาตักทาน >_<



ก่อนนอน หน้ายุบลงไปอีก … แผลที่แขนเกิดจากวันผ่า พยาบาลจิ้มหาเส้นเลือด 555
ช้ำมากกว่าแผลผ่าตัดอีก เจนเป็นคนช้ำง่าย
49#
 เจ้าของ| โพสต์ 2014-7-23 16:12:18 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 16:21

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย jennydollita เมื่อ 2014-7-23 16:20



วันที่ 5 ออกมาทานหมูนุ่มๆ ซุปเต้าหู้ แถวที่พักค่ะ เค้าว่าร้านนี้ขึ้นชื่อ …
อร่อยมากกกก ทานแต่โจ๊ก ขนมปัง มาหลายวัน ตักน้ำจิ้มใส่ซุปเต้าหู้นิดๆ กลมกล่อม
… จริงๆซุปจะเผ็ดนะคะ แต่บอกเค้าเอาแบบไม่ใส่พริกเลย หน้าตาเลยเป็นแบบนี้แต่อร่อย



วันที่ 6 หลังผ่าตัด ..



พลาสเตอร์หลุด เห็นรอยผลมั้ยคะเล็กมาก



วันที่ 7 หลังผ่าตัด … วันนี้มีนัดตัดไหมบางบางส่วนค่ะ
แล้วก็จะได้ถอดเฝือกจมูกแล้วเย้ๆ ตื่นเต้นมาก ^^
รถของ รพ.มารับเช่นเคย รูปสุดท้ายคือตัดไหมแล้ว รอทำสกินแคร์ ลดบวม …
วันนี้ตัดไหมที่จมูกที่เดียว แล้วก็ถอดเฝือกด้วยค่ะ ^^
เหมือนเคย พยาบาลทำความสะอาดแผล เช็คแผล คุณหมอคิมมาตรวจดูจมูก
โอเคดี หมอบอกยังบวมเยอะอยู่นะ เดี๋ยวก็ยุบ ทุกอย่างเรียบร้อยดี ^^
ไม่ต้องใช้นำ้ยาเช็ดแผลแล้ว ให้ทาเฉพาะขี้ผึ้ง ^^



หลังถอดเฝือกค่ะ นั่งถ่ายรูปที่ร้านกาแฟ กล้าเนอะ >_<



รอชมค่ะ หายไว ๆ นะคะ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้