เจ้าของ: cutegril
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[เสริมหน้าอก] สุดยอดนม "หมอเทพ 410cc"

[คัดลอกลิงก์]
126#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-22 11:53:24 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย chutimonJpancz เมื่อ 2013-1-22 11:45
ขอบคุณค่าาา คุณหมอท่านเป็นแพทย์ศัลยกรรมโดยตรงเรยใ ...

ใช่ค่ะ แต่คุณหมอจะเทพเรื่องนมมากๆ 555+

แสดงความคิดเห็น

จัดไปเลยจ้า ^^  โพสต์ 2013-1-22 13:10
อยากเปนลูกสาวหมอเทพด้วยค่าา  โพสต์ 2013-1-22 13:01
127#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-23 08:24:07 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย sizzaazer เมื่อ 2013-1-22 16:35
สวยมว๊ากกกก อยากทำบ้าง >

ขอบคุณค่ะ ^^
128#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 08:14:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย Thongsin เมื่อ 2013-1-24 16:44
สวยมากกกกกกคะ กรี้ดมาก ได้คิววันที่ 7 กุมภา อยากได้เร ...

ขอบคุณค่ะ ^^
ถ้าชอบใหญ่ๆทำ 410 cc
ถ้าชอบพอดี พอดี กำลังสวย ทำ 380 cc
129#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 08:16:30 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย snoopy1234 เมื่อ 2013-1-24 19:59
อยากทราบว่า  ยาอึ๋มที่เค้าทานกันเยอะๆ  ได้ผลจริงมั้ย ...

ตรงนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันนะคะ แต่คิดว่าน่าจะได้ผลระดับหนึ่ง เพราะยาส่วนใหญ่จะมีฮอร์โมน แต่อันตรายหรือเปล่า ก็ตอบไม่ได้ แต่โดยส่วนตัว ไม่อยากแนะนำให้ทานค่ะ กลัวเสี่ยงต่อการสะสมในร่างกายค่ะ
130#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 08:16:47 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย khaibaan เมื่อ 2013-1-25 01:38
มาเจอกระทู้นี้ถูกใจมากกกกกกกกกกกกกเพราะลูกสองเหมือ ...

ขอบคุณค่ะ อิอิ (หัวอกเดียวกัน)
131#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 09:14:31 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย ซอซาย เมื่อ 2013-1-25 08:52
ทำนมเจ็บกว่านมคั้ดมากไหมค่ะ

ไม่เจ็บนมเท่าไหร่นะคะ แค่มีอาการคัด ตึง เพราะหน้าอกหลังผ่าจะบวมและอักเสบ คล้ายๆ เวลาเราเสริมจมูกค่ะ กินยาแก้ปวด กับประคบเย็น จะช่วยลดอาการบวมและปวดลงได้ค่ะ
132#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 11:59:02 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ขออนุญาตนำความรู้มาแชร์ สำหรับสาวๆ ที่ยังไม่เข้าใจเรื่องการเสริมหน้าอก

ก่อนอื่นเลยนะคะ ต้องขอบอกก่อนว่าเวลาที่เราอ่านกระทู้เจอว่า หลังผ่าเสริมอก ขับรถได้ใน 3 วัน หรือลุกขึ้นเองได้ใน 2 วัน เราอย่าเองตรงนี้มาเป็นบรรทัดฐานในการวัดว่าเราต้องเป็นแบบนั้นคะ เพราะสุขภาพ ร่างกาย โครงสร้างร่างกาย ความถึก ความบึกบึน แต่ละคนมีต่างกันนะคะ ตามปกติจะต้องเรียงลำดับความเจ็บจากมากไปหาน้อย

   

*** ผ้ารักแร้ ----> ผ่าฐานอก ----> ผ่าทางหัวนม และ
*** ผ่าใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด -----> ผ่าใต้กล้ามเนื้อบางส่วน ------> ผ่าเหนือกล้ามเนื้อ

แต่เอาเข้าจริง บางคนที่ผ่าทางรักแร้ ก้ออาจฟื้นตัว ยกแขนได้สุดเร็วกว่า บางคนที่ผ่าทางหัวนมได้นะคะ ปัจจัยมีหลายอย่าง บางทีก้อขึ้นกับอายุ และโครงสร้างร่างกายด้วยคะ ถ้าจะถามเรื่องการลางาน เผื่อไว้เลยที่ 10 วันดีกว่าคะ จะได้พักผ่อนด้วยนะคะ ในขณะที่คนบางคนไม่มีปัญหา ชิลล์ภายใน 3-4 วัน บางคนอาจอ้วก เจ็บปวด อยู่ 2 อาทิตย์ ให้หมั่นพบคุณหมอตามที่นัดคะ และเมื่อสงสัยอะไรให้ถาม สังเกตรูปร่างหน้าอก วันนี้อ่านเจออะไรดีๆก้ออยากเอามาแชร์คะ

  

ใต้.jpg (14.36 KB, ดาวน์โหลดแล้ว: 0)

ใต้.jpg
133#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 11:59:29 | ดูโพสต์ทั้งหมด
(เครดิต ขอบคุณ thebreaststory.com คะ)
1..เหนือกล้ามเนื้อ (SUBGLANDULAR PLACEMENT) เป็นการใส่ถุงเต้านมที่ระดับใต้เนื้อเต้านมโดยที่ถุงซิลิโคนวางอยู่เหนือกล้ามเนื้อ การผ่าตัดไม่ยุ่งยากจึงมีผลข้างเคียงน้อยกว่าและหายเร็วกว่าเหมาะสำหรับสาวนักกีฬาหรือสาวที่มีไขมันหรือเนื้อเหยื่อเต้านมเพียงพอจะเป็นกันชนระหว่างผิวเนื้อกับเต้านมเทียมทำให้ได้เต้านมที่สวยงามเป็นธรรมชาติ แต่มีข้อเสียคือ เสี่ยงต่อการเกิดพังพืดได้มากกว่าและยังตรวจแมมโมแกรมได้ยากกว่า การผ่าตัดเหนือกล้ามเนื้อจะทำให้รูปร่างของเต้านมมีรูปทรงหลังผ่าตัดเต้านมเป็นทรงกลม ซึ่งคนไข้บางคนก็จะเป็นลักษณะเต้านมแบบนี้สวยและดูเป็นธรรมชาติ แต่มีโอกาสจะเกิดพังพืดแข็งได้มากกว่า
ข้อดี
-ไม่มีการเคลื่อนตัวของถุงเต้านมเทียมขณะที่มีการขยับกล้ามเนื้อ
-เจ็บน้อยกว่า(ในระยะแรก)ระยะพักฟื้นสั้นกว่า
-มองดูเป็นธรรมชาติมากกว่าถ้ามีเนื้อนมมากพอ
-การผ่าตัดทำได้ง่าย
-กรณีที่เต้านมคล้อยไม่มากอาจช่วยแก้ปัญหาเต้านมคล้อยทำให้ไม่ต้องทำการผ่าตัดกระชับเต้านม
-สามารถใส่ถุงขนาดใหญ่มากๆได้
-การผ่าตัดแก้ไขทำได้ง่ายกว่าใต้กล้ามเนื้อ
ข้อเสีย
-ในรายที่ผิวหนังบางมีโอกาสคลำพบขอบเต้านมเทียมได้สูงกว่า
-มองเห็นขอบเต้านมเทียมได้มากกว่า
-ตัวเต้านมเทียมมีโอกาสคล้อยได้มากกว่า
-ทำให้เต้านมจริงถูกเบียดได้มากกว่าหรือหดแฟบได้มากกว่า
-ถ้าเกิดพังพืดรัดจะมองเห็นได้ชัดเจนโดยเฉพาะคนที่มีผิวหนังบาง
-อ่านแมมโมแกรมได้ยากแม้จะใช้เทคนิคพิเศษ
-ถ้ามีรอยพับของถุงเต้านมจะมองเห็นและคลำได้ชัดเจนกว่าโดยเฉพาะถุงที่เป็นผิวทราย
-โอกาสเกิดพังพืดหดรัดมีมากกว่า
มีโอกาสที่เต้านมจะเคลื่อนที่ลงล่างได้มากกว่า(Bottoming)ทำให้เกิดลักษณะเต้านมคล้อยมาก
134#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 11:59:56 | ดูโพสต์ทั้งหมด

  

2.ใต้กล้ามเนื้อบางส่วน(Portialy Submuscular) เป็นการวางถุงเต้านมไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอกมัดใหญ่มัดเดียวโดยที่จะมีบางส่วนของถุงไม่ถูกปิดทับด้วยกล้ามเนื้อหน้าอกได้แก่บริเวณด้านล่างและด้านข้างของถุงเต้านมการผ่าตัดอาจทำโดยผ่านแผลหัวนมหรือใต้ราวนมโดยผ่าตัดผ่านกล้ามเนื้อและพังพืดบริเวณส่วนล่างของกล้ามเนื้อเพื่อเข้าไปเปิดช่องว่างใต้กล้ามเนื้อ

  การเสริมใต้กล้ามเนื้อมักไม่เหมาะกับผู้ที่มีเนื้อหน้าอกเล็กน้อยเพราะกล้ามเนื้อจะช่วยเป็นผนังด้านนอกอีกชั้นหนึ่งก่อนที่จะถึงถุงเต้านมช่วยให้มีโอกาสคลำขอบถุงได้น้อยลงแต่หลังผ่าตัดจะบวมและเจ็บปวดอยู่นานการอยู่ทรงของทรงหน้าอกหลังการผ่าตัดใช้เวลานานกว่าการผ่าตัดเหนือกล้ามเนื้อโดยที่อาจใช้เวลา 2-3 เดือน โดยกล้ามเนื้อหน้าอกจะค่อยๆยืดจนกระทั่งได้ทรงที่ต้องการ
ข้อดี
-มีโอกาสคลำพบถุงเต้านมเทียมได้น้อยกว่า
-มองเห็นขอบเต้านมเทียมได้น้อยกว่า
-พบรอยย่นน้อยกว่า
-ตัวเต้านมเทียมมีโอกาสคล้อยได้น้อยกว่า
-ทำให้เต้านมจริงถูกเบียดน้อยกว่าหรือหดแฟบได้น้อยกว่า
-ถ้ามีปัญหาเรื่องพังพืดรัดจะมองเห็นไม่ค่อยชัด
-ไม่มีผลต่อการทำ แมมโมแกรม
-ทรงเต้านมแม้จะดูไม่สวยเหมือนกับเหนือกล้ามเนื้อแต่ดูเป็นธรรมชาติเนื่องจากกล้ามขอบหน้าอกจะกดถุงซิลิโคนบริเวณด้านบนให้ดูแฟบลงขอบเขตที่ส่วนล่างกล้ามเนื้อจะหนาน้อยกว่าส่วนบนทำให้เห็นลักษณะของถุงชัดเจนขึ้นเฉพาะส่วนล่างทำให้ลักษณะของเต้านมดูเป็นธรรมชาติ
-มักคลำไม่ได้รอยพับของถุงเต้านม(ยกเว้นถุงผิวทราย)
-โอกาสเกิดพังพืดหดรัดน้อยกว่า
-โอกาสเกิดเต้านมยานลงในอนาคตน้อยกว่า
ข้อเสีย
-มีการเคลื่อนตัวของถุงเต้านมเทียมได้ขณะที่มีการขยับกล้ามเนื้อ
-เจ็บมากกว่า(ในระยะแรก)
-ใต้ราวนมมองเห็นขอบเต้านมไม่ชัด
-หน้าอกจะดูห่างกว่า
-มีโอกาสที่เต้านมจริงจะไม่คล้อยตัวทำให้ มองดูเป็นธรรมชาติ
-ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่าแบบเหนือกล้ามเนื้อ
-เทคนิคการผ่าตัดยากกว่าเหนือกล้ามเนื้อ(ทำโดยเปิดทางปานนมหรือราวนม)
-ส่วนล่างและด้านข้างไม่มีกล้ามเนื้อคลุมเพราะฉะนั้นส่วนล่างของถุงซิลิโคนจะอยู่ระดับเดียวกับการผ่าเหนือกล้ามเนื้อทำให้ด้านล่างของถุงซิลิโคนไม่มีการรองรับโดยกล้ามเนื้อทำให้ถุงมีโอกาสเลื่อนลงล่างได้และอาจคลำได้ขอบถุงบริเวณขอบล่างด้านข้างๆได้
-ใช้เวลานานกว่าจะเข้าที่แต่จากหลังที่เข้าที่แล้วจะดูเป็นธรรมชาติมาก   
135#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 12:00:08 | ดูโพสต์ทั้งหมด

  

3.ใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด(Completely Submuscular) การวางตำแหน่งถุงไว้ใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด เป็นการวางถุงเต้านมไว้ใต้กล้ามเนื้อสามมัดคือ ด้านบน และส่วนกลาง วางไว้ใต้กล้ามเนื้อหน้าอกมัดใหญ่ ด้านข้างของหน้าอกส่วนบนวางใต้กล้ามเนื้อด้านข้างของหน้าอก ส่วนด้านล่างวางไว้ใต้ส่วนบนของกล้ามเนื้อท้อง ดังนั้นถุงเต้านมจะถูกคลุมด้วยกล้ามเนื้อทุกด้าน (Rectus abdomininis และ Serratus anterior) กล้ามเนื้อทั้งสามมัดช่วยทำหน้าที่เป็นเปลที่รับถุงซิลิโคนป้องกันไม่ได้มีการเคลื่อนของถุงลงล่าง

                การผ่าตัดวางถุงใต้กล้ามเนื้อทั้งหมด อาจทำได้ทั้งทางปานนม,ราวนม หรือรักแร้แต่การทำผ่าตัดทางรักแร้มีข้อดีที่กล้ามเนื้อส่วนล่างไม่มีการฉีกขาด
ข้อดี

-มีโอกาสคลำรอยพับของถุงเต้านมเทียมน้อยมาก

-มองเห็นขอบเต้านมเทียมได้น้อยกว่า

-พบรอยย่นน้อยกว่า

-ตัวเต้านมเทียมมีโอกาสคล้อยได้น้อยกว่า

-ทำให้เต้านมจริงถูกเบียดน้อยกว่าหรือหดแฟบได้น้อยกว่า

-ถ้ามีปัญหาเรื่องพังพืดรัดจะมองเห็นไม่ชัด

-เต้านมมีรูปทรงธรรมชาติเนื่องจากส่วนบนถูกกดโดยกล้ามเนื้อหนาๆขณะที่ส่วนล่างถูกกดโดยกล้ามเนื้อบางๆทำให้รูปทรงเต้านมเป็นธรรมชาติ

-ไม่มีรอยย่นของถุงเต้านม(ยกเว้นในผู้หญิงที่ผอมมากและใช้ถุงผิวทราย)

-โอกาสเกิดพังพืดหดรัดน้อยมาก

-ไม่มีผลต่อการอ่าน แมมโมแกรม

-โอกาสที่ถุงเต้านมจะเลื่อนลงลดน้อยลงมาก

-ใต้ราวนมมองเห็นขอบเต้านมไม่ชัด-ลดโอกาสที่จะคลำขอบถุงได้

ข้อเสีย

-มีการเคลื่อนตัวของถุงเต้านมเทียมได้ขณะที่มีการขยับกล้ามเนื้อ

-เจ็บมากกว่า(ในระยะแรก)

-ใช้เวลานานกว่าจะเข้าที่แต่ถ้าเข้าที่แล้วจะเป็นธรรมชาติ

-หน้าอกจะดูห่างกว่า-มีโอกาสที่เต้านมจริงจะไม่คล้อยตัวทำให้มองดูไม่เป็นธรรมชาติ

-ถ้าต้องการแก้ไขภายหลังทำได้ยาก

-เทคนิคค่อนข้างยาก(ถ้าลงแผลทางใต้ราวนมหรือหัวนม)

-ในกรณีที่เต้านมคล้อยมากและมีขนาดเต้านมใหญ่ไม่ควรเลือกการวางตำแหน่งนี้เพราะอาจทำเต้านมเป็นมีรูปร่างเป็นสองลอนโดยที่เต้านมคล้อยแต่มีขนาดใหญ่เฉพาะส่วนใต้กล้ามเนื้อ(Snoopybreast)

-ระยะเวลาพักฟื้นนานกว่าโดยในช่วงแรกต้องพยายามลดการขยับแขนเนื่องจากการขยับแขนจะทำให้ถุงเต้านมเคลื่อนไปมาได้มาก
136#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 12:02:12 | ดูโพสต์ทั้งหมด
อาการเจ็บปวดหลังผ่าตัดคะ (อ้างอิงจะ thebreaststory.com และ dungdong.com)

- จะรู้สึกชา ชั่วคราวบางรายนาน 1-2 เดือน
- อาการบวมจะหายภายใน 3-10 วัน ถ้าเป็นการผ่าตัดเหนือกล้ามเนื้อ ประมาณ 2-12 อาทิตย์ สำหรับการผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อ พยายามหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายในช่วง 2 อาทิตย์แรก และควรนอนหนุนหมอนสูง
- ต้องสวมสปอร์ตบราตลอด 1-4 อาทิตย์อย่าเพิ่งใส่บราเสริมโครงจนกว่าศัลยแพทย์จะบอกใส่ได
- ้เข้าที่ภายใน 1 เดือน สำหรับการผ่าตัดเหนือกล้ามเนื้อ และ 3 เดือนสำหรับการผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อ
- พังพืด สำหรับผู้ที่เลือกใช้เต้านมซิลิโคน จะมีโอกาสเกิดพังพืดสูงกว่าผู้ที่ใช้เต้านมบรรจุน้ำเกลือเล็กน้อยประมาณ 1-2 % หลังจากใส่
(** แต่แค่ 1-2% อย่าเอาเป็นประเด็นมากังวลนะคะ ก้อเหมือนกับข้อมูลที่หมอบางท่านให้ว่า ผ่าทางฐานอกโอกาสเป็นพังผืดน้อยกว่าผ่าทางรักแร้ 2-3% เพราะเอาเข้าจริงๆมันแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์ ไม่ว่าคุณจะผ่าทางไหนสุดท้าย ท้ายสุด ไม่นวด ไม่ดูแล แม้จะผ่ามาแพงแค่ไหน รพ ที่ดีที่สุด แพงที่สุด ถ้าไม่นวด ไม่ดูแลก้อเป็นพังผืดเหมือนกันหมดหละคะ)

- เต้านมเทียมแล้ว ร่างกายจะสร้างเนื้อเยื่อห่อหุ้มเต้านมตามปกติ แต่ถ้าเนื้อเยื่อเกิดรัดเต้านมเทียมแน่นจนเกินไปจะเกิดเป็นพังพืดเต้านมเทียมไม่ก่อให้เกิดมะเร็งเพียงแต่ทำให้ ตรวจหามะเร็งด้วย แมมโมแกรมยากกว่าปกติถ้ามีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งเต้านมก็ขอให้คิดใหม่แต่ถ้าอยากทำจริงๆสามารถใส่ใต้กล้ามเนื้อและต้องขอรับการตรวจแมมโมแกรม แบบพิเศษ
- หัวนมชาหรือไวต่อความรู้สึก 15 % ของผู้หญิงที่เสริมอกจะมีอาการหัวนมชาและจะเป็นแบบชั่วคราวและมักเกิดกับการเสริมเหนือกล้ามเนื้อ
- ถ้าคุณทานแอสไพริน อินโฟรเฟน หรือ รีบร้อนออกกำลังกายไป อาจเกิดอาการเลือดคั่งได้ ซึ่งจะต้องผ่าตัดเอาเลือดคั่งออก
- ให้ใส่สปอร์ตบราเพื่อให้เต้านมอยู่ในตำแหน่งที่ดี พยายามจัดยกทรงให้พอดีและเท่ากันทั้งสองข้าง
        อาทิตย์แรก -- ใส่สปอร์ตบราตลอดเวลา
        อาทิตย์ที่สอง – ใส่บราเฉพาะกลางวันได้
(*** ในส่วนนี้ คุณหมอแต่ละท่าน เว็บแต่ละที่จะแจ้งต่างกันนะคะ ที่แน่ๆส่วนใหญ่จะห้ามใส่บราที่มีโครงในระยะแรกเพราะ มันจะไปกดซิลิโคนที่ยังไม่เข้าที่ เดี๋ยวทรงเสียนะคะ ให้ถามคุณหมอที่ทำให้เรา บางราย คุณหมอให้ โนบราคะจนกว่าจะคล้อย อันนี้คือสำหรับคนที่ทำทรงสูงนะคะ ส่วนตัวคิดว่า สปอร์ตบรายัง แน่นเกินไปด้วยซ้ำ อันนี้อยากให้แต่ละท่านปรึกษาคุณหมอที่ทำให้คะ)


- การอาบแดด ถ้าอาบแดดควรทาครีมกันแดด บริเวณแผลโดยเฉพาะใช้ SPF มากกว่า 15 งดการอาบแดดหน้าอก 1 เดือน
- อาการบวมจะเป็นประมาณ 4 อาทิตย์ โดยจะบวมมากใน 2 อาทิตย์แรกและจะลดลง จะปกติ ไม่เปลี่ยนแปลงประมาณ 6 อาทิตย์
- การออกกำลังกาย
          งดทำงานบ้าน 3 วัน ในช่วง 3 วันไม่ควรอุ้มเด็ก
          งดออกกำลังกาย ภายหลัง 3 อาทิตย์
          หลังจาก 3 อาทิตย์เวลาออกกำลังกาย ควรใส่สปอร์ตบราเสมอ
- การขับรถ ขับได้เมื่อไม่ปวดแล้ว โดยทั่วไป 4 – 6 วัน สามารถขับได้ ถ้าเป็นพวงมาลัย พาวเวอร์
- การออกกำลังกายและนวดเต้านม 2-3 วัน หลังผ่าตัด การนวดมีเทคนิคหลายอย่างนี้เป็นตัวอย่างตำแหน่งที่สามารถนำไปใช้ได้
- สำหรับถุงผิวเรียบให้เริ่มนวดเร็วกว่าปกติ โดยเริ่มนวดตั้งแต่วันที่ 2 หลังผ่าตัด ถ้าทำได้
- การใช้ยาระงับกลิ่นกาย เริ่มใช้ได้หลังจากแผลหายแล้ว 5-7 วัน
- ยาแก้ปวดบางชนิดอาจทำให้คลื่นไส้อาเจียนได้เช่นกลุ่มยามอร์ฟีน เฟนตานิล จึงควรทานอาหารว่างร่วมด้วย เช่นขนมปังหรือแซนวิชหรือของขบเคี้ยว
137#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 12:02:26 | ดูโพสต์ทั้งหมด
- แพทย์อาจใช้สีวาดรูปไว้ตั้งแต่ก่อนผ่าตัดถ้าสียังลบออกไม่หมดสามารถใช้แอลกอฮอล์หรือน้ำยาล้างเล็บลบหรือทาออยล์โลชั่นแล้วเช็ดออกได้ อย่าไปเอานิ้วถูๆ เหมือนเรา เดี๋ยวได้แผลถลอกมาอีก เพราะตอนที่เราเพิ่งทำหน้าอกใหม่ๆ มันจะชาไปหมดคะ ชาแล้วเวลาถูๆ ผิวหรือขัดผิว เอาอะไรออก พวกคราบพลาสเตอร์ที่เป็นรอยติดมา มันหนึบ ตอนเราพยายามขูดๆเอาออก เราจะไม่รู้สึกว่าเล็บเรา นิ้วเราทำให้ผิวหนังระคายเคืองไปแค่ไหน ใช้ที่แนะนำไปข้างต้นช่วยดีกว่าคะ


- ถ้ามีอาการคลื่นไส้อาเจียนให้ขอยาคลื่นไส้อาเจียนจากแพทย์ก่อนกลับบ้าน บางทียาของหมอเนี่ยหละคะที่ทำให้เราแพ้ ทานอะไรไม่ได้ เพราะร่างกายแต่ละคนแพ้ยาแก้อักเสบต่างกันไปคะ ส่วนตัวตอนทานยาหมอนี่ เราแพ้ง่ายอยู่แล้ว ทานน้อยมากไปเลย 3 อทิตย์ เพราะยาทำให้ท้องอืด เบื่ออาหาร สรุป นน ลดไป 4 โลคะ และยังติดทานน้อยลงมาจนถึงวันนี้เพราะถือโอกาสคุมน้ำหนักไปเลย แต่ช่วงที่ทานไม่ได้นี่ทรมานนะคะ เพราะเราผะอืดผะอมมาก ต้องทานข้าวเพื่อทานยา แต่ก้อผ่านมาแล้วคะ สู้ๆ


- หลังผ่าตัดจะโกนขนรักแร้ได้ยาก อาจต้องเตรียมเครื่องมือโกนขนอย่างอื่นไว้ใช้แทน ถ้าแผลยังไม่หายอย่าเพิ่งไปโกนนะคะ เดี๋ยวระคายแผลคะ
- ถ้ามีอาการบวมผิดปกติหรือมีไข้บวมแดงรอบบริเวณหน้าอกให้กลับมาพบแพทย์ทันที
- งดแอสไพริน , บลูเฟน อาหารบางชนิดเช่น กระเทียม 2 อาทิตย์หลังผ่าตัดเพราะสารเหล่านี้ทำให้เลือดออกง่ายถ้าจะกินยาอะไรเพิ่มในช่วง

2  อาทิตย์หลังผ่าตัด ควรปรึกษาแพทย์ก่อน
- หลังผ่าตัดควรพักผ่อนมากๆ
- ถ้าหัวนมมีความรู้สึกไวมากกว่าปกติจนมีปัญหาถ้ากิจวัตรประจำวันอาจใช้ยาชาหรือ แผ่นปิดหัวนมปิดไว้ไม่ให้เสียดสีกับเสื้อผ้าได้
- โดยทั่วไปจะรู้สึกไม่สบายตัวมากใน 3 วันแรก หลังจากนั้นจะดีขึ้นอาการปวดมักมีมากขึ้นตอนเช้าหลังจากนั้น แต่บางรายก้อปวดมากไปสองอาทิตย์ก้อมีคะ ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน ยังไงให้ไปพบหมอ ตามนัด ถ้ารู้สึกผิดปกติ ควรปรึกษาแพทย์ทันทีคะ ที่เจอคือบางรายมีน้ำเหลืองบวมคั่ง อันเกิดจากการนวดที่รุนแรงก้อมีนะคะ  
- ถ้าเริ่มยืนขึ้นและขยับเคลื่อนไหวในตอนบ่ายๆกล้ามเนื้อก็จะยืดขึ้นจะทำให้รู้สึกดีขึ้น
- หลังผ่าตัด 2 วันสามารถอายนํ้าได้ โดยใช้ฝักบัวหรือการตักอาบ ห้ามแช่ตัวในอ่างอาบน้ำเนื่องจากแผลที่ผ่าตัดอาจมีเชื้อโรคผ่านแผลเข้าไปแล้วเกิดการติดเชื้อได้
- ในวันแรกใช้น้ำเย็นประคบบริเวณเต้านม
- ไม่นั่งงอตัวหรือนอนคว่ำในช่วงอาทิตย์แรก
- มีเพศสัมพันธ์ได้ ถ้าใน 1 อาทิตย์แรก (ระมัดระวังการสัมผัสหน้าอก)
- ผ้าพันหน้าอกจะเอาออกได้ในวันที่ 2 และอาบน้ำได้
- ออกกำลังกายเบาๆได้ในวันที่ 5 หลังผ่าตัด
- ตัดไหม เมื่อครบ 7 วัน
- 3 อาทิตย์สามารถออกกำลังกายหนักๆได้
- 1 อาทิตย์แรกให้นอนหงายเพื่อให้ถุงเต้านมในตำแหน่งที่เหมาะสมแนะนำให้หนุนหมอนประมาณ 2 ใบ เพื่อให้อาการบวมยุบลงเร็ว
               2 อาทิตย์ให้นอนคว่ำให้หน้าอกราบกับพื้น จนรู้สึกตึงประมาณ 5 นาที หลังจากนั้น 1 อาทิตย์ ให้เริ่มถ่ายน้ำหนักไปที่หน้าอก สลับกันเพื่อให้ถุงหน้าอกเลื่อนไปมา
               2 อาทิตย์หลังผ่าตัด ใช้มือขวากดทับด้านล่าง ของเต้านม มือซ้ายกดให้ถุงเคลื่อนลงล่าง เริ่มตามปกติหลังผ่าตัด 2 วัน โดยใช้มือขวากดกลางหัวนม และลงน้ำหนักให้ซิลิโคนเคลื่อนได้ในมือ ถ้ามีเวลาให้นวด 5-6 ครั้ง / วัน (เรื่องการนวดคุณหมอแต่ละที่แนะนำต่างกัน ก้อลองดูแล้วกันนะคะ เพราะแต่ละทรง ทรงกลม หยดน้ำ ทรงสูง กลาง ต่ำ มีวิธีการนวดเน้นต่างกันไปให้ปรึกษาหมอที่ทำให้นะคะ)
138#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 12:02:42 | ดูโพสต์ทั้งหมด
รายละเอียดในการดูแลหลังผ่าตัดในแต่ละเรื่องอาจแยกเป็นข้อๆได้ดังนี้

-ท่านอน ในช่วงอาทิตย์แรกหลังผ่าตัด ควรนอนหงายไม่ควรนอนตะแคงข้าง เพื่อให้ถุงเต้านมอยู่กับที่ในระหว่างการหายของแผลในหน้าอก

-กิจกรรมประจำวัน งดการทำงานบ้าน อุ้มเด็กหรือขยับแขนไปมา อย่างรวดเร็วในช่วง 3 วันแรก ในช่วงนี้สามารถออกแรงได้ ตามระยะที่ไม่เจ็บมาก หลัง 3 วันสามารถทำงานบ้านปกติได้ งดเว้นการยกของหนักหรือออกกำลัง
กายหนัก ประมาณ 2 อาทิตย์ โดยทั่วไป สามารถทำกิจกรรมตามปกติได้ถ้าไม่มีอาการปวดมาก ขณะที่ทำ สามารถออกกำลังกายตามปกติ ได้หลัง 3 อาทิตย์ ในการออกกำลังกายควรใส่ สปอร์ตบราไว้ด้วย

-การดูแลแผล หลังจากเปิดแผลได้ 1-2 วัน สามารถเอาผ้ายืดที่พันหน้าอกออกได้แล้วใส่ยกทรงยกทรงทำหน้าที่เหมือนเป็นผ้ายืดที่ประคองหน้าอกไว้ ช่วยลดอาการเจ็บปวดเวลาเคลื่อนไหว ยกทรงที่ใช้ควรใช้ยกทรงที่ไม่มีโครงหรือที่เรียกว่า สปอร์ตบรา เนื่องจากไม่มีการกดจากโครงเหล็ก ทำให้ไม่มีอาการเจ็บปวดมาก พยายามขยับตำแหน่งของยกทรงแต่ละข้างให้เท่าๆกันหลังจากใส่ถ้ายกทรงที่ใส่ ครั้งแรกมีขนาดเล็กเกินไปจะทำให้เจ็บมากและแน่นมากควรเปลี่ยนยกทรงโดยทันที ยกทรงที่เล็กและตึงเกินไป อาจทำให้เกิดแผลกดทับที่ขอบยกทรงได้ ซึ่งถ้าผิวหนังถูกกดมากอาจทำให้ผิวหนังบริเวณนั้นตายไป แล้วเกิดการอักเสบติดเชื้อที่ผิวหนังได้ ดังนั้นควรเลือกยกทรงที่หลวมๆนิดหน่อย ครั้งแรกหลังผ่าตัด อย่าซื้อเยอะ ซื้อประมาณ 2-3 ตัวมาใช้ก่อน เพราะเต้านมจะยุบบวมลงอีกและยกทรงที่ใช้จริงๆจะไซด์เล็กกว่าเดิมเล็กน้อย

-การอาบน้ำวันที่ 2 หลังผ่าตัดสามารถ อาบน้ำ ให้แผลถูกน้ำได้หลังจากถูกน้ำให้ใช้ผ้าเช็ดตัวที่สะอาดซับน้ำให้แห้งห้ามถูหรือขยี้ที่บริเวณแผลผ่าตัด
หมายเหตุ การอาบน้ำแผลจะถูกน้ำเป็นระยะเวลาสั้นๆ สามารถทำได้แต่ไม่แนะนำให้แช่ลงในอ่างอาบน้ำเพราะแผลจะแช่อยู่ในน้ำนาน มีโอกาสอักเสบได้

-การยกของ ไม่ควรยกของหนักเกิน 2 กิโล ในช่วง 2 อาทิตย์แรก
-แผลเป็น แผลเป็นระยะแรกจะเห็นชัดในช่วง 2-3 เดือนแรก โดยแผลเป็นจะมีสีเข้มขึ้นและหนาและจะค่อย ๆ จางลงและนิ่มลงจนเป็นปกติในเวลา 1 ปี ดังนั้นระยะแรกหลังผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงการอาบแดด ควรทาครีมกันแดดบริเวณแผลควรเลือกครีมกันแดดตั้งแต่ แฟกเตอร์ 15 ขึ้นไป ในตอนเช้าและเที่ยง ห้ามอาบแดด 2 อาทิตย์และห้ามอาบแดดบริเวณ หน้าอก 4 อาทิตย์

-การขับรถ สามารถขับรถได้ถ้าไม่มีอาการปวดและเคลื่อนไหวแขนโดย ทั่วๆไป ถ้าขับรถเกียร์อัตโนมัติและในพวงมาลัยพาวเวอร์ ในวันที่ 6-7 ก็สามารถขับรถได้แต่ไม่ควรขับรถทางไกลเพราะจะหมุนพวงมาลัยได้ช้า ในกรณีที่ใช้เกียร์กระปุกควรรอให้หายปวดจนปกติ โดยทั่วไปประมาณ 2 อาทิตย์ ถ้าผ่าตัดเสริมในระยะเหนือกล้ามเนื้อสามารถเริ่มขับรถได้เร็วกว่าผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อ (อันนี้ไม่ต้องรีบร้อนนะคะ แต่ละท่าน ฟื้นตัวเร็วต่างกัน)

-การออกกำลังกายหลังผ่าตัด 2-3 วัน สามารถออกเดินช้าๆได้งดการออกกำลังกายปกติ 2 อาทิตย์ ควรงดออกกำลังกายรุนแรงในช่วง 3 อาทิตย์แรกหลังการผ่าตัดเนื่องจากการออกกำลังกายหนักจะทำให้ความดันเลือดสูงขึ้นซึ่งอาจจะมีผลทำให้เลือดออกภายหลังได้ ถ้างานที่ทำเป็นงานที่ต้องใช้แรงหรือมีการเคลื่อนไหวร่างกายมาก ๆ ควรรอจนร่างกาย พร้อมที่จะทำงานโดยอาจจะต้องลาหยุดนานกว่าคนที่ทำงานออฟฟิต ที่ไม่ต้องมีกิจกรรมทางร่างกายวันแรกที่เริ่มออกกำลังกาย ควรเริ่มออกกำลังน้อยๆ ไม่หักโหมเกินไป
139#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 12:05:17 | ดูโพสต์ทั้งหมด
-เส้นประสาทรับความรู้สึก การเสริมหน้าอกอาจมีการกระทบกระเทือนเส้นประสาทรับความรู้สึกได้ หลังผ่าตัดอาจมีลักษณะอาการเจ็บแปลบๆในบางตำแหน่ง จากการที่เส้นประสาทรับความรู้สึกอาการเหล่านี้จะค่อยๆดีขึ้น อย่างไรก็ตามถ้ามีอาการปวดและมีการบวมแดงหรือเขียวมากควรกลับมาให้แพทย์ตรวจโดยทันที

-การไม่เท่ากัน โดยทั่วไป เต้านมข้างซ้ายและข้างขวาจะมีรูปร่างแตกต่างกันเสมอตั้งแต่ก่อนผ่าตัดโดยหน้าอกมีขนาดใหญ่กว่าอีกข้างหนึ่งระดับหัวนมและฐานนมจะมีความแตกต่างกัน หลังการผ่าตัด การหายของแผลแต่ละข้างก็จะแตกต่างกันโดยที่ข้างหนึ่งเจ็บแต่อีกข้างหนึ่งจะไม่รู้สึกเจ็บ หรือข้างหนึ่งอาจบวมกว่าอีกข้างหนึ่งลักษณะนี้มักพบใน คนไข้ส่วนใหญ่จะรู้สึก ถึงความแตกต่างของทั้งสองข้าง แต่หลังจากแผลหายสนิทแล้วทั้งสองข้างจะดูใกล้เคียงกันและเป็นธรรมชาติ

-เสียงการเคลื่อนไหวของถุง ระยะแรกเวลาขยับถุงหรือเคลื่อนไหวร่างกายในบางตำแหน่งจะได้ยินเสียงถุงเสียดสีกันเป็นภายในบางครั้งอาจได้ยินบ่อยมากจนน่ารำคาญเสียงเกิดจากอากาศที่ค้างอยู่เล็กน้อยหรืออาจมีน้ำเหลืองค้างอยู่เวลาขยับตัวจึงได้ยินเสียงโดยทั่วไปอากาศหรือน้ำเหลือง ที่ตกค้างจะถูกดูดซึมเข้าสู่ร่างกายได้เอง ภายใน 2-3 อาทิตย์เสียงเหล่านี้ก็จะหายไป

-การเข้าที่ การผ่าตัดเสริมหน้าอก ไม่ว่าจะใช้ถุงแบบใดใช้เวลาหนึ่งจึงจะเข้าที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผ่าตัดใส่ใต้กล้ามเนื้อจะใช้เวลาหลายอาทิตย์หรือหลายเดือนกว่าจะเข้าที่ไม่เปลี่ยนแปลงโดยที่หลังผ่าตัดกล้ามเนื้อและผิวหนังจะถูกยืดออกจนกระทั่งถุงเต้านมไม่ถูกกดทับโดยผิวหนังและกล้ามเนื้อ ในผู้หญิงที่มีรอบอกเล็กผิวหนังจะตึง และกล้ามเนื้อหน้าอก แข็งแรงอาจต้องใช้เวลา 3-6 เดือนกว่าจะเข้าที่ ฉะนั้นในระยะแรกๆ 1-2 อาทิตย์หลังผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อภาพที่เห็นอาจจะยังไม่ใช่ภาพหน้าอกที่แท้จริงต้องรอเวลาสักระยะหนึ่งก่อน เต้านมที่สูงเกินไปหรือทรงตั้งเกินไปในระยะแรกเมื่อเวลาผ่านไปจะดูดีขึ้นการเสริมหน้าอกตรงเหนือกล้ามเนื้อจะใช้เวลาเข้าที่เร็วกว่าใต้กล้ามเนื้อ อ่านแล้วสบายใจนะคะ

-ความรู้สึกของหัวนม หัวนมมีความรู้สึกเปลี่ยนไปได้หลายแบบบางครั้งมีความรู้สึกปกติบางครั้งอาจรู้สึกช้า หรือบางครั้งมีความรู้สึกไวกว่าปกติการที่มีความรู้สึกไวกว่าปกติเป็นปัญหามากที่สุดโดย ทั่วๆไปจะภายใน 10 วันหรือ 1 เดือน หรือหลายเดือน การชาที่หัวนมพบได้บ่อยแต่มักมีอาการดีขึ้นเรื่อยๆ การชาถาวรไม่ค่อยพบ เนื่องจากโดยทั่วไปแล้วเส้นประสาทที่หัวนมจะมีเส้นประสาทมาเลี้ยง 3 เส้นจากด้านนอกและ 3 เส้นจากด้านใน การกระทบกระเทือนเส้นประสาททั้งหมดเกิดได้ยาก

-การปวด อาการปวดจากการเสริมหน้าอก อาจจะมีระดับปานกลาง การผ่าตัดใต้กล้ามเนื้อปวดมากกว่าเหนือกล้ามเนื้อแผลที่อยู่ที่รักแร้ทำให้ปวดมากกว่าแผลที่อยู่ที่หัวนมหรือใต้ราวนมโดยทั่วไปอาการปวดจะแตกต่างกันตามวุฒิภาวะของแต่ละคนในช่วงระหว่างนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาลจะใช้ยากลุ่ม มอร์ฟีนและขณะที่กลับบ้านสามารถใช้ยาแก้ปวดกลุ่มพาราเซตามอล ร่วมกับยาแก้ปวดอื่นได้ โดยทั่วไปอาการปวดจะดีขึ้นในช่วง 2-3 วันในบางคนอาจมีอาการปวดร้าวไปที่แขนหรือหลังซึ่งแก้ไขได้โดยการประคบน้ำอุ่นและรับประทานยาแก้ปวดงดการเคลื่อนไหวที่รุนแรง

-การคัน การคันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ที่มีแผลโดยอาจจะคันรอบเต้านมหรือบริเวณแผลผ่าตัดเกิดจากการกระทบกระเทือนของเส้นประสาทรับความรู้สึก โดยทั่วไปจะเกิด อาทิตย์ที่ 2 มักจะดีขึ้นเองภายใน 1-2 อาทิตย์อาการคันของบริเวณเต้านมเกิดจากการที่ผิวหนัง ตึงหลังการเสริมหน้าอกสามารถ บรรเทาอาการโดยใช้โลชั่นทาที่เต้านมแต่อย่าให้ถูกแผลและประคบเย็นก็ช่วยให้ดีขึ้นได้
140#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 12:05:28 | ดูโพสต์ทั้งหมด
-แผลเป็น ยาหลายชนิดช่วยลดปัญหาแผลเป็น เช่น วิตามิน E ,ฮีลูดอยด์ ,สเตียรอยด์ ขึ้นอยู่กับแพทย์แต่ละคนจะเลือกใช้ยาได้ การนวดบริเวณแผลเป็น จะช่วยให้แผลแบนลงและนิ่มลงได้ และช่วยป้องกันไม่ให้แผลเป็นนูน

-นอนในท่าศรีษะสูงประมาณ 2 อาทิตย์ โดยหนุนหมอนประมาณ 2 ใบ จะช่วยลดอาการบวมลงได้
-ผิวหนังตึงหลังจากการเสริมหน้าอกไป ผิวหนังบริเวณหน้าอกก็จะตึงใสจากการบวมและจากยาชาที่ฉีดขณะที่ทำผ่าตัด โดยทั่วไป อาการบวมตึงจะลดลงใน 2-3 อาทิตย์ผิวหนังบริเวณนั้นจะดูปกติและเป็นธรรมชาติ

-ความรู้สึกในระยะที่มีการหายของแผลบริเวณหัวนมจะมีความรู้สึกไวมากต่อการสัมผัสเกิดจากการที่เส้นประสาทที่ได้รับการกระทบกระเทือนกำลังหายอาการเหล่านี้จะดีขึ้นเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 2-3 อาทิตย์การนวดที่บริเวณเต้านมสามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้

-อาการเขียว หลังผ่าตัดอาทิตย์แรกจะเขียวหรือบวมที่แผลผ่าตัดมาก โดย 1-2 วันแรกจะแดง ในวันที่ 3-4 จะเริ่มเขียว ในคนที่ผ่าตัดที่รักแร้จะมีอาการเขียวที่รักแร้ ในวันที่ 3-4 อาการเขียวจะลดลงมาที่แขนในอาทิตย์ที่ 1-2 โดยทั่วไปอาการเขียวที่หน้าอกจะหายไปในวันที่ 7 -10 สำหรับบริเวณหน้าอกระยะแรกๆจะบวมอย่างเดียวอาการเขียวจะเริ่มที่ฐานนม ในอาทิตย์ที่ 2 และอาทิตย์ที่ 3อาการเขียวจะลดลงมาที่หน้าท้องส่วนบนตามแรงโน้มถ่วงของโลกอาการเขียวปกติ จะมีบ้างแต่ไม่มากแต่ถ้าเขียวมากๆควรติดต่อแพทย์โดยทันทีเพราะอาจมีเลือดค้างข้างในมากผิดปกติ โดยทั่วไปการดูแลทำโดยใช้น้ำอุ่นประคบบริเวณที่เขียวจะช่วยให้อาการที่เขียวหายเร็วขึ้น หรือถ้าไม่ประคบอาการเขียวก็มักดีขึ้นได้เองแต่ใช้เวลานานกว่า

-คลื่นไส้อาเจียน เกิดจากการดมยาสลบ โดยทั่วไปยาลดอาการอาเจียนสามารถช่วยลดอาการดังกล่าวได้
-การคันบริเวณผิวหนังเกิดจากการหายของแผลภายในและแผลเส้นประสาทอาการดังกล่าวจะดีขึ้นเรื่อยๆ
-อาการบวม 4 อาทิตย์แรกหน้าอกจะรู้สึกบวมและมีอาการตึง อาการเหล่านี้จะดีขึ้นได้แต่ในช่วง 2 อาทิตย์ ยากลุ่ม Arnicaสามารถช่วยลดอาการบวมได้

-การนวด เริ่มต้นตั้งแต่อาทิตย์แรกใช้มือ 2 ข้างดันเต้านมเข้าหากันใช้ฝ่ามือกดบริเวณฐานนมใต้ถุงเต้านมเคลื่อนที่ขึ้นบนใช้มือด้านตรงข้ามกับหน้าอกข้างนั้นๆกดบริเวณหัวนมให้ถุงซิลิโคนเลื่อนไปมาในอาทิตย์ที่ 2 ทำแบบอาทิตย์ที่ 1 แต่ให้ออกแรงมากขึ้น
141#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 14:03:49 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย khaibaan เมื่อ 2013-1-25 14:02
ข้อมูลแน่นมาก ขอบคุณมากๆเลยค่ะ ลางานได้เมื่อไหร่ทำท ...

ยินดีค่ะ  
142#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-25 16:04:46 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย janyyyy เมื่อ 2013-1-25 15:55
ของคุนคิวตี้เวลาให้คนอื่นจับเค้าบอกว่าแข็งหรือจับโ ...

หน้าอกเนิ่มเหมือนของจริงค่ะ ไม่ต่างกันเท่าไหร่ค่ะ คริคริ
143#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-26 09:14:50 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย abudabee เมื่อ 2013-1-25 23:19
ใส่บราแล้วยิ่งสวย หน้าอกดูอิ่มแล้วก็ชิด สวยจัง  ...

ขอบคุณค่ะ ^^
144#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-26 09:16:55 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย Supannahong เมื่อ 2013-1-25 23:19
แล้วไม่กลัวเจอข้อเสียของการทำเหนือกล้ามเนื้อเหรอ ? ...

ข้อเสียทุกอย่าง อยู่ที่การปฏิบัติตัว และการดูแลรักษาด้วยตนเองค่ะ
เลยไม่ค่อยห่วงอะไร ถ้าเราปฏิบัติตัวดี หมั่นดูแลรักษา ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงค่ะ
145#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-26 09:17:13 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย abudabee เมื่อ 2013-1-25 22:49
สวยมากเลยคะทั้งทรงและขนาด อยากทำมั่งแล้วว >, ...

ขอบคุณค่ะ ^^
146#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-26 09:19:48 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย tellyou เมื่อ 2013-1-25 22:09
สวยจุง ธรรมชาติมาก บอกว่าไมทำก็เชื่อนะ Oo เอ่อ ทำเท่า ...

ขอบคุณค่ะ หลายคนก็บอกแบบนี้ ว่าดูแล้วเป็นธรรมชาติมาก แทบดูไม่ออกเลยว่าทำมา
พี่ทำมา 410 cc ค่ะ ราคา 45,000 บาท จ่ายครั้งเดียวค่ะ
คุณน้องอายุยังน้อยอยู่เลย ยังไงถ้าจะทำ ต้องรอให้อายุประมาณ 20 ค่อยทำดีกว่าค่ะ
เพราะตอนนี้ร่างกายยังเติบโตไม่เต็มที่นะคะ อีกอย่างถ้าทำศัลยกรรมต้องแต่อายุยังน้อย
อาจต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ปกครองด้วยค่ะ
147#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-26 11:49:25 | ดูโพสต์ทั้งหมด
สิริโคนเสริมหน้าอกที่หมอในเมืองไทยใช้กันเป็นส่วนใหญ่ ก็จะมียี่ห้อดังนี้
Allergan และ Mentor จากอเมริกา และsilemed จากยุโรป (บราซิล)

เรียงลำดำความนุ่ม หรือนิ่มของสิริโคน  ถ้าให้เรียงลำดับความนิ่ม นิ่มสุดคือ

-allergan(อเมริกา)
-silimed  (บราซิล)
-mentor

ถุงซิลิโคนเจล(Silicone gel implant)

ถุงซิลิโคนเจล(Silicone gel implant) มีความนิยมใช้กันมากทั้งในประเทศไทย, ยุโรป ลักษณะของถุงภายนอกจะเป็นแบบซิลิโคนแข็ง ภายในบรรจุสารที่เป็นซิลิโคนเหลว ซึ่งทำให้มีความรู้สึกเป็นธรรมชาติมาก

มารู้จักกับซิลิโคน

ซิลิโคนเป็นสารเคมี ส่วนผสม คือ หินและทรายเมื่อนำมาทำปฏิกิริยากับออกซิเจนและคาร์บอนจะกลาย เป็นซิลิโคน โดยที่สามารถผลิตเป็นทั้งซิลิโคนเหลว(โมเลกุลต่ำ) ซิลิโคนเจล(โมเลกุลปานกลาง) และซิลิโคนแข็ง(โมเลกุลสูง) ซึ่งนำมาใช้ผลิตส่วนต่างๆมากมายที่ใช้ร่างกาย เช่น ลิ้นหัวใจ ข้อเข่าเทียม

ในปัจจุบันผู้ผลิต(mentor ) ถุงซิลิโคนได้พัฒนาเปลือกถุงให้มีความหนาขึ้นเป็น 3 ชั้นทำให้ช่วยลดปัญหาการรั่วซึมของเจลที่อยู่ภายใน

ซิลิโคนปลอดภัยไหมในปัจจุบัน ? คือ ซิลิโคนเสริมหน้าอก ได้ใช้อยู่ในวงการแพทย์ มานาน กว่าที่พวกเราจะรู้กันซะอีกคะ เพียงแต่ แพทย์ นำมาใช้สำหรับผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเต้านมที่ต้องเปลียน หรือปลูกถ่ายเต้านมเทียมในคนไข้ที่เป็นมะเร็งเต้านมนั้นเอง ในต่างประเทศ ใช้มานานมากกว่า 50 ปี และซิลิโคนได้พัฒนาขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของคนไข้ ถามว่าซิลิโคนปลอดภัยไหม ในปัจจุบันปลอดภัยมาก และไม่พบว่า ซิลิโคน(ที่ไม่ใช่แบบน้ำเกลือ หรือเจล)รั้วไหลในร่างกายและเป็นอันตรายแต่อย่างใด

แผลผ่าตัดเสริมหน้าอก จะเลือกได้สามแห่ง แล้วแต่เคส
-ใต้รักแร้
-รอบปานนม
-ใต้ราวนม

ขอบคุณ เครดิตความรู้จาก http://www.doom-doom.com/forum.php?mod=viewthread&tid=3&extra=page%3D1 ค่ะ
148#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-26 11:51:52 | ดูโพสต์ทั้งหมด
ต้นฉบับโพสต์โดย tellyou เมื่อ 2013-1-25 22:09
สวยจุง ธรรมชาติมาก บอกว่าไมทำก็เชื่อนะ Oo เอ่อ ทำเท่า ...

การเสริมทรวงอกหรือหน้าอก ที่มีช่วงอายุตั้งแต่ 25 - 28 ปี นั้นจะเข้ารับการเสริมหน้าอก แต่หากว่าเป็น  เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปแล้วจะไม่ให้เสริมหน้าอกเนื่องจากว่า หน้าอกนั้นยังมีการพัฒนาอย่างไม่เต็มที่ และยังไม่หยุดการเจริญเติบโตค่ะ
149#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-26 11:53:53 | ดูโพสต์ทั้งหมด
การเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอก
สาวๆหลายคน คงคิดว่าการเลือกซิลิโคนเสริมห้าอก ยกให้เป็นหน้าที่หมอศัลยกรรมเสียทั้งหมด หมอหรือแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญกับการศัลยกรรมมานาน จะเลือกทรงของซิลิโคนเสริมหน้าอกให้คนไข้ได้แม่นยำกว่าแพทย์หน้าใหม่ๆ ทั้งนี้และทั้งนั้น การเลือกทรงของซิลิโคนเสริมหน้าอก ก็ควรให้โอกาส คนไข้ ได้เลือกและออกความเห็นในการตัดสินร่วมกับคำแนะนำของแพทย์

ซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงกลม round shape
ผู้ที่มีหน้าอกเดิม ทุนเดิม เจ้าเนื้อเยอะ หรือเนื้อหน้าอกเยอะอยู่แล้ว ควรเลือกซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงกลม round shape เนื่องจากซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงกลมจะมีความใกล้เคียงธรรมชาติมาก หน้าอกเดิม เนื้อ หนัง ที่พอมีอยู่จะปกคลุมซิลิโคนทรงกลมในภายหลังคล้อยในระยะเวลาต่อไป

สำหรับผู้ที่มีเนื้อหน้าน้อย หรือแบน แฟบเลยนั้น ถ้าใส่ซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงกลมเข้าไป จะดูกลมและนูนเกินไปซึ่งจะผิดแปลกธรรมชาติไป

ซิลิโคนเสริมหน้าอกทรงหยดน้ำ Teardrop shape
ซิลิโคนมีลักษณะคล้ายหยดน้ำ โดยเนื้อส่วนบนจะเรียบแบนราบ ไล่ระดับลงมาเต็มเต้าที่ด่านล่างซึ่งทำให้ดูเหมือนธรรมชาติ ซึ่งเหมาะกับคนที่มีเนื้อหน้าอกน้อย หรือไม่มีเลย แบนแฟน ไปเลย

ไซส์ ไหน กี่ซีซี ที่ควรจะได้
ส่วนใหญ่ ขนาดของซิลิโคนเสริมหน้าอก หมอจะเลือกให้โดยการวัดจาก ระดับความกว้างของใหล่ รวมไปถึงฐานและหน้าอกเดิมก่อน จึงจะคำนวนไซส์ที่เหมาะสมแนะนำให้ได้

คนที่ไหล่กว้าง จะมีโอกาสเสริมได้เยอะหรือใหญ่ แต่คนที่ไกล่แคบ ถ้าเสริมมากไปหรือใหญ่เกินไปจะดูเทอะทะไม่เป็นธรรมชาติ

ขอบคุณ เครดิตความรู้จาก http://www.doom-doom.com/forum.php?mod=viewthread&tid=150&extra=page%3D1
150#
 เจ้าของ| โพสต์ 2013-1-26 12:05:20 | ดูโพสต์ทั้งหมด
96 วัน

   

แสดงความคิดเห็น

ขอบคุณค่ะ ค่อยๆ ศึกษารายละเอียดจ้า  โพสต์ 2013-3-20 10:51
สวยจัง ^__^ อยากทำบ้างจัง สะสมข้อมูล  โพสต์ 2013-3-20 00:34
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้