|
ผมเป็นอีกคนที่ไปฉีดสารไบโอด้วยความที่รู้เท่าไม่ถึงการซึ่งฉีดมาเมื่อ 4 ปี สาเหตุเพราะเคยประสพอุบัติเหตุจมูกหักกระดูกก็เลยไม่สมดุลกัน จนในที่สุดเจ้าสารไบโอก็เริ่มทำพิษซึ่งเป็นที่รู้กันว่าเมื่อเวลาผ่านไป2-3ปี จมูกที่ฉีดสารไปโอจะเริ่มล่นและเริ่มไหลลงมาปลายจมูกและก็จะเห็นว่าผิวเนื้อจมูกจะเริ่มเป็นตะปุ่มตะปั่มไม่เรียบ จนในที่สุดก็ตัดสินใจว่าจะต้องไปเอามันออกก่อนที่มันจะแย่ไปกว่านี้ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ใช้เวลาอยู่ประมาณ 2 เดือนกว่าหาที่ว่าที่ไหนน่าจะเอาออกและเสริมได้ด้วยเลย จนในที่สุดก็มาเจอ คลีนิกแถวพหลโยธิน ซ.73
ที่ตัดสินใจทำที่นี่เพราะรู้สึกว่าหมอทำจมูกผู้ชายสวยโดยที่ก็ไม่ได้คำนึงถึงว่าเราเคยฉีดสารไบโอมาก่อนแล้วหมอจะเอาออกได้มากแค่ไหน หลังจากนั่นอีก 2 อาทิตย์ก็ได้เวลาขึ้นเขียง วันนั้นไปถึงก็ไม่ค่อยได้คุยอะไรกับหมอมากเท่าไร จำได้ว่าตั้งแต่มาปรึกษา ผมเองก็เตรียมแบบจมูกมาพอสมควร แต่หมอก็ไม่เคยถามผมเลยหรือขอดูแบบที่ผมเตรียมมาเลยซักครั้ง
วันผ่าตัดก็ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง หลังจากที่หมอฉีดยาให้ผมหลับไป ตืนขึ้นมาหมอก็เอากระจกมาให้ผมดูตอนยังมึนๆแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรกับผมเท่าไร แล้วพยาบาลก็พาผมออกไปนั่งรอข้างนอกเพื่อให้หายเมาเพราะฤิทธ์ยา มีจังหวะนึงที่ผมเองเหลือบไปเห็นหมอเดินมา เลยถามแกว่าเอาไบโอออกไปได้แค่ไหนครับ จำได้เต็มหูเลยว่าแกบอกว่า 90กว่า%แล้วก็รีบเดินเข้าห้องไป ก็รู้สึกว่าโล่งใจที่เอาออกได้เยอะมาก ก็คิดกะตัวเองว่าดีจังที่นี่ หมอใช้เวลาไม่นานก็เอาออกได้ 90กว่า% แล้วราคาก็ไม่แพงรวมค่าซิลิโคน 12,000(เลือกแบบแพงสุด)กับค่าขูดไบโออีก 10,000 ตอนนั่งรถกลับก็ห้องก็รู้สึกว่าทำไมมันดูเบี้ยวๆไม่ตรง ที่บอกได้แบบนั้นเพราะรอยมาร์คที่หมอทำไว้ก่อนผ่า มันโค้งดูรู้เลยว่าเสิรมเบี้ยว(รอยปากกาที่หมอขีดเส้นไว้....ถึงตอนนี้อยากจะถามแกมากว่า จะขีดทำไมวะ ขีดเป็นพิธีหรอ) แต่ก็ไม่คิดอะไรมากสงสัยมันคงบวมเพราะเราเพิ่งผ่าตัดเสร็จ ช่วงพักฟื้นก็ดูแลตัวเองถือว่าดีมากๆอะไรที่คนในเวปแนะนำในการดูแลรักษาหรือน้ำมะพร้าวที่ว่ากินแล้วลดบวมก็ซื้อมาเยอะมากจนคนขายคงงง
|
|