คนเดียวกันนะครับ

frankywawah

มาต่อกันครับ

พืช (Plant Placenta)  ผมสงสัยมานานและได้ยินมานาน เพราะเคยเห็นเพื่อนคนนึง เป็นคนที่ศัลยกรรมมาเยอะมากในเว็บนี้ เป็นผู้ชาย ใช้อะไรทำไมผิวถึงขาว สิวหาย ออร่าออกเลย เขาก็บอกผมว่าใช้รกพืช ตอนนั้น รกพืช กล่องละ 30000 ผมก็ยังเรียนไม่จบ ไม่มีตัง สู้ราคาไม่ไหวครับ แล้วเคยสงสัยไหมครับ ว่า พืชที่เขาเอามาสกัดเป็นรกพืช เอามาจากพืชอะไร มากจากผักบุ้งหรือป่าว 555

ไว้ผมจะมาบอกนะครับ เขาสกัดมาจากอะไร บอกได้คำเดียว มันเหมือนนิยาย harry potter เลย 555

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย jutarporn เมื่อ 2012-5-7 09:17
เมโส ตัวนี้ "dermallis" ดีมั้ยค่ะ สอบถามด้วยค่ะ คือว่าจะไป ...

หลังไมค์นะครับ

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย kerooo เมื่อ 2012-5-10 14:46
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kerooo เมื่อ 2012-5-10 14:48

ฉีด mesoline มาอ ...

ถ้ายังต้องไปฉีดทุกสัปดาห์ หน้าก็ยังคงบวมแบบนั้นไปเรื่อยๆ แต่ถ้าหยุดฉีดแล้ว ก็รอสัก14-20วันครับ กว่ามันจะหายบวม ผมเคยเตือนเรื่อง mesoline ไม่รู้กี่ครั้งแล้ว พอหน้าคุณลด หน้าก็จะย้วย มันจะย่นๆอ่า  คุณฉีดมาครั้งละเท่าไรครับ แล้วคุณต้องฉีดกี่ครั้งถึงจะลง ลองคำนวนดูนะครับ ผมบอกแล้วว่า meso ต้องทำต่อเนื่อง 3-4สัปดาห์ คุณก็ลองคำนวนเงินที่คุณเสียไปนะครับ

จะทนหน้าบวม แสบ เป็นอาทิตย์ทำไมครับ ผมก็บอกอยู่ครับว่า celluphase มันไม่ได้ผสมphosphatidylcholine  ตัวนี้ work ที่สุดแล้วครับ เพราะผมก็ลองมาหมดแล้ว
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะครับ หายบวมไวๆนะครับ

frankywawah

มาต่อกันดีกว่า หลายคนคงรอมาหลายวัน 555

สรุป stem cell สกัดมาจากอะไร ใช่ผักบุ้งหรือป่าว แล้วมัน harry potter ยังไง มาดู



     ปัจจุบันงานวิจัย ได้ก้าวกระโดดจากรกแกะ รกคนไปยังรกพืชกันแล้ว เนื่องจากสารสกัดจากรกคน มีความเสี่ยงในการติดเชื้อ อีกทั้งมีปัญหาทางด้านจริยธรรม จึงเป็นที่ห้ามใช้จากกองเครื่องสำอางค์ในประเทศต่างๆ รวมทั้งประเทศไทย ส่วนรกแกะ ยังคงอนุมัติให้ใช้ได้ เพราะการควบคุมคุณภาพจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ยังปลอดภัย กระนั้นก็ดีปัจจุบันมีการเกรงว่า ฮอร์โมน Estrogen ที่ติดมาจากรกสัตว์อาจกระตุ้นให้เกิดฝ้า เมื่อใช้ต่อเนื่องการหันเหมายังรกพืช จึงมากขึ้นงานวิจัยใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆจากรกพืช และ Stem Cell จากพืช จึงปล่อยเข้าสู่ตลาดเป็นนวัตกรรมใหม่      

รกพืช คือส่วนของหน่ออ่อน ซึ่งมีเซลล์ต้นกำเนิด ( Stem Cell ) อยู่ มีความสามารถแยกตัวแล้วเจริญเติบโตเป็นเซลล์ใหม่  ดังนั้น คำว่ารกพืชและสเต็มเซลล์พืช (เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช) จึงมักจะใช้ปะปนกัน อันหมายถึงเซลล์ต้นกำเนิดนั่นเอง
     
อะไรคือเซลล์ต้นกำเนิด หรือ สเต็มเซลล์ ( Stem Cell ) เป็นที่มีคุณสมบัติพิเศษ โดยมีคุณสมบัติ ดังนี้
          1.มีความสามารถในการสร้างเซลล์ขึ้นมาใหม่
          2.สามารถเพิ่มหรือสร้างเซลล์ที่ผิดแยกแตกต่างออกไป
     
เซลล์ต้นกำเนิด ( Stem Cell ) ของคนมี 2 ชนิด ชนิดแรกมาจากตัวอ่อน ( Embryonic Stem Cell ) อีกชนิดมาจากผู้ใหญ่
( Adult Stem Cell ) ชนิดหลัง นักวิทยาศาสตร์เริ่มหันมาสนใจ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาด้านจริยธรรม
     
เซลล์ต้นกำเนิดจากพืช ( Plant Stem Cell ) พืชมีสเต็มเซลล์อาศัยอยู่ในส่วนของเนื้อเยื่อหน่ออ่อนหรือรากอ่อน ซึ่งจะเจริญเติบโตแบ่งเซลล์ไปเป็นส่วนของต้นไม้ทั้งต้น การนำเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของต้นไม้มาใช้แพร่พันธุ์ของเซลล์ต้นกำเนิดพืช อาจใช้แพร่พันธุ์ต้นไม้ทั้งต้น หรือเฉพาะเซลล์เนื้อเยื่อบางส่วนได้

และจากงานวิวัยพบว่า รกพืชที่เขาสกัดมาทำ stem cell เอามากจาก ต้นแอปเบิ้ล แต่ไม่ใช่ แอปเปิ้ลธรรมดานะครับ เป็น แอปเปิ้ล 200ปีที่ยังคงอยู่รอ  ผมฟังมาครั้งแรก ไม่อยากจะเชื่อ มันเป็นแอปเบิ้ลของharry pooter หรอ555 แต่มันมาจากแอปเปิ้ลพันธุ์คัดเลือกพิเศษ ชื่อ Uttwiler Spatlauber ที่ปลูกใน switzerland 200ปีมันไม่ตาย แล้วถ้าเอามาใส่ในตัวเอาเราละ เราอาจจะไม่อยู่ถึง200ปี แต่ผมเชื่อว่าผมแก่ช้ากว่าคนอื่น แน่นนอน  
หลายคนคิดว่าผมโม้ป่าว แปลกันเองนะครับ

Apple Stem Cells Offer Hope For Aging and Damaged Skin
. The plant stem cells in normally come from apples. These fruits have tissue stem cells that are inordinately long-lasting for a plant species. However, the generic apples used for human consumption are grown specifically for their sweet taste and their ease for mass cultivation. Fortunately, in recent years, scientists uncovered apples from Uttwiler Spatlauber trees. These trees were initially cultivated in the 18th century and their fruits were renowned for their ability to stay fresh long after they were fully grown. Luckily, there are a few trees still remaining from the 18th century in isolated areas of Switzerland due to the plant's longevity.

     

frankywawah

การนำเทคนิคการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อของต้นไม้มาใช้แพร่พันธุ์ของเซลล์ต้น กำเนิดพืช อาจใช้แพร่พันธุ์ต้นไม้ทั้งต้น หรือเฉพาะเซลล์เนื้อเยื่อบางส่วนได้ จากงานวิจัยพบว่า
1   สามารถทำให้เซลล์มนุษย์มีการแบ่งตัว และเติบโตได้ 80%
2   ทำให้เซลล์ทนทานต่อรังสี UV อายุของเซลล์ยาวขึ้น (ดูได้จากเซลล์ที่ผ่านการทดลองด้วยแสง UV นำไปเพาะเลี้ยงจะรอดแค่ 50% แต่ถ้าใช้สารสกัดช่วยให้รอดเกือบหมด)
3   มีประสิทธิภาพเปนสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถป้องกันการทำลายเซลล์ จาก Hydrogen Peroxide ในการทดลองได้  
4  ชะลอการแก่ของเซลล์จากต่อมบนเส้นผมได้ ดังนั้นจึงสามารถชะลอผมร่วง ทำให้อายุของเซลล์ผมยืนยาวขึ้น
5  ถ้านำสารสกัดทำเป็นครีม โดยทาวันละ 2 ครั้ง ตามรอยตีนกา พบว่าสามารถทำให้ร่องตื้นขึ้น 8% ภายใน 2 สัปดาห์ หรือ 15% ภายใน 4 สัปดาห์

เดี๋ยวผมจะมาบอกศัพท์คุณว่ามันทำอะไรได้  พอจบเรื่องนี้แล้ว กลับเข้าเรื่องการผ่าตัดกันบ้าง ผมจะมาเล่า ตอน ผมทำปากบางครับ 55

เจ็บไหม ปวดไหม บวมแค่ไหน กี่วันหาย ปากเป็นไตไหม ทำที่ไหน กี่บาท ตอนทำกินข้าวยังไง ดูแลยังไง เดี๋ยวบอกหมดจ้าาาาาาา

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย PrEttydiizThai เมื่อ 2012-5-13 05:26
ถ้าซื้อ Meso Celluphase มาใช้ที่บ้าน เราฉีดเอง ฉีดไม่เป็น ม ...

หลังไมค์นะครับ

frankywawah

มาต่อครับ วันนี้เอาให้มันจบๆสักเรื่อง

ผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ๆ มักจะรวมรกพืชหรือสเต็มเซลล์ กับสารสกัดอื่นๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องสำอางค์ให้ได้สูงสุด ผลิตภัณฑ์ที่นำรกพืชมาเพาะเนื้อเยื่อให้ได้สเต็มเซลล์ มาช่วยสร้างเซลล์ผิวเพิ่มเติมพร้อมทั้งใส่สารสกัดต่างๆ ที่ช่วยด้านผิวหน้า รวมเข้าด้วย ทำให้ผู้ใช้มีการปรับผิวทำให้หน้าใส ดูอ่อนเยาว์ทันที สารสกัดที่เพิ่มเติมเข้าไปจะช่วยให้ได้ผลประโยชน์สูงสุด ดังนี้
       


1.กระตุ้นการสร้าง Collagen
2.ซ่อมแซมเซลล์ผิว
3.ลดรอยย่น ทำให้ริ้วรอยตื้นขึ้น
4.ลดจุด ด่าง ดำ
5.ช่วยให้ผิวอุ้มน้ำ เพื่อความชุ่มชื่น ถึง 1,000 เท่าของน้ำหนัก
6.ทำให้ผิวเรียบตึงกระชับ ลดรอยลึก และร่องของผิว
7.ช่วยให้ผิวดูอ่อนเยาว์
8.ลดการสร้างเซลล์เม็ดสี ช่วยทำให้ใบหน้ากระจ่างขาวใส
9.ช่วยลดการอักเสบของสิว
10.ช่วยชำระล้างสารพิษที่ตกค้างในผิวและร่างกาย
11.ช่วยทำให้ผิวชุ่มชื่น ขาวใส มีน้ำมีนวล
12.ช่วยซ่อมเซลส์ผิวที่เสื่อมสภาพได้ทั้งร่างกาย กลับมีชีวิตชีวาและแข็งแรงขึ้น
13. ต้านอนุมูลอิสระ เพิ่มความอ่อนเยาว์ได้มากขึ้น
14.ซ่อมผิวที่เสื่อมโทรมจากการดื่มหนัก สูบบุหรี่จัด ได้รับสารพิษมาก ผิวคล้ำเสียมากให้กลับมาสุขภาพดีขึ้นได้
15.รักษาแผลผ่าตัดได้จนเรียบเนียน
16.ลดเลือนริ้วรอยจากอายุหรือจากการนอนดึกได้ดีเยี่ยม ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์มากขึ้น
17.ช่วยให้ผิวสว่างใสขึ้น ขาวใส เนียนเรียบ ผิวสุขภาพดี

stem cell จะต่างกับพวก gluta นะครับ เพราะอันนี้สกัดมาจาก เซลล์เนื้ออ่อนของพืช แล้วมันก็มีgluta ผสม อยู่ด้วยดูจากในรูปนะครับ

หน้าตาดี กับมี เสน่ห์ ต่างกันไหม บางคนหน้าตาเฉยๆแต่ทำไมดูเขามีอะไร มีเสน่ห์ แต่กับอีกคนดูดีแต่ไม่น่าสนใจ ไม่มีเสน่ห์
แล้วมีอะไรที่จะช่วยให้เรามีสเน่ห์ดึงดูดผู้คน เหมือนมีเวทมนต์ดึงดูดใจ ใครว่าเสน่ห์ไม่สำคัญ แล้วถ้าเรามีเสน่ห์+หน้าตาดี บอกคำเดียวครับ ชีวิตดีทุกเรื่อง  เดี๋ยวจะเอาอีกหนึ่งความลับมาบอกครับ แล้วจะมาต่อเรื่องปากให้ฟัง

วันนี้คนเข้ากระทู้ผมน่าจะถึง 30000 ยาวๆไป

frankywawah

พวกเราทำศัลยกรรมเพื่ออะไรครับ ส่วนใหญ่ก็เพราะ อยากดูดี เสริมความมั่นใจ บางคนก้ทำเพื่อหน้าที่การงาน เพื่อนผมหลายคนทำมาแล้ว ไปเป็นพริตตี้ บางคนก็เข้าวงการไปเลย ทำหน้ามาแล้ว หน้าที่การงานดีขึ้น หาเงินได้ง่ายขึ้น
แต่ส่วนใหญ่ ผมว่าทำเพราะ อยากดูดีให้มีคนรักคนหลง  ผมยอมรับนะ ผมทำเพื่อให้มีความมั่นใจเวลาไปจีบสาว อยากมีแฟน รักเราจริงสักคน ชีวิตผมคงขาดจุดนี้มาตลอด  แต่นอกจากเรื่องหน้าตาแล้ว  ผมคิดถึงเรื่อง เสน่ห์ มาตลอด พยายามค้นหามาตลอดทำยังไงให้เป็นคนมีเสน่ห์ ส่วนหนึ่ง เสน่ห์มาจาก หน้าตา+บุคคลิภาพ การพูดจา แต่ละคนมีเสน่ห์ไม่เหมือนกัน บางคนมีมาก บางคนไม่มีเลย
บางคนมีเสน่ห์แปปเดียว ดึงดูดได้แปปเดียว บางคนก็ดูไม่ดี แต่โคตรมีเสน่ห์  

เสน่ห์เพิ่มกันได้ แต่มันต้องมีตัวช่วย  ปล่อยให้อยากรู้กันต่อไป 555 เดี๋ยวมาบอกจ้าา จุ๊บๆคนอ่านที่น่ารัก 555

frankywawah

มาต่อกันครับ ขอเล่าย้อนกลับไปนิดนึง หลังจากที่ผมทำศัลยกรรม ชีวิตผมเปลี่ยนไปยังไง เดี๋ยวขอเล่านิดนึงนะครับ

หลังจากที่ทำ ตา กับ จมูก มาแล้ว หน้าตามันก็พอดีขึ้นบ้างในระดับนึง จากที่ไม่มีใครสนใจเลย ก็เริ่มมีมาบ้างแต่ก้ไม่เยอะ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมได้รับหลังจากที่ทำ ศัลยกรรม ตา กับ จมูก มาก็คือ ผมรู้สึกได้เลย ว่า ผมมีแรงดึงดูดเพศเดียวกันมากๆ 555 จริงๆนะครับ มีแต่ผู้ชายมาจีบผมเยอะมากๆ มีแต่ผู้ชายมาขอเบอร์ มีทุกวัยครับ ตั้งแต่วัยรุ่น ยัน รุ่นลุง แรกๆก็ขำๆไม่คิดอะไร  หลังๆเริ่มเยอะขึ้นๆๆๆๆๆ  จนผมเริ่มกังวล  แล้วตอนเรียนมหาลัย เพื่อนๆก็รู้ว่าผมไปทำหน้ามา ก็เริ่มนึกว่าผมเป็นเกเก้  คนส่วนใหญ่คิดว่าผมยังไงก็ดูเป็นเกเก้  ผมไม่ได้anti หรืออะไรนะครับ ส่วนใหญ่ผู้ชายที่มาจีบก็สุภาพ เรียบร้อย นิสัยดีครับ

จริงๆผมก็รู้สึกดีนะครับ ที่มีคนมาชอบ ถึงจะเป็นเพศเดียวกันก็ตาม ส่วนใหญ่ผมก็จะบอกเขาไปตรงๆว่าเราชอบผู้หญิงนะ ถึงพูดไปแล้วเขาจะหาว่าผมแอ๊บก็ตาม เราเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันได้ เวลาผมอกหัก ผมก็ชอบไปปรึษากับเพื่อนๆที่เป็นเกเก้ เขาก็ให้คำปรึษาดีแต่ชอบแซวว่า "ลองสักครั้งสิ แล้วจะรู้สวรรค์มีจริง" 555  หลังจากนั้นผมก็เริ่มสงสัยว่าในตัวผมมีอะไรดึงดูดเพศเดียวกัน บางคนเจอผมแค่แวบเดียวก็รู้สึกดีกับผม นอกจากหน้าตาแล้วมันมีอะไร เสน่ห์อะไรถึงได้ดึงดูดใจเพศเดียวกัน แล้วผมก็พยายามอยากจะรู้ว่าต้องทำไงถึงจะดึงดูดเพศตรงข้ามได้อย่างที่ผมดึดดูดเพศเดียวกันได้ 55

ถ้าเป็นสมัยก่อนเขาก็คงเล่นของกัน เคยเห็นไหมครับ ผู้ชายที่ค้อง "ขุนแผน" ไว้ที่เอว เคยเห็นเพื่อนแขวนอยู่ แฟนมันก็ดูดีสวยทุกคนนะ 555 หรือไม่ก็ "ขุนแผนเหล็ก" ยุคนี้ก็คงเป็นรถสปอตร์ แต่ผมบ้านไม่รวย คงไม่มีแบบคนอื่นเขา  เสน่ห์คือสิ่งที่มองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง นอกจากดูลักษณ์ภายนอก เสื้อ ผ้า หน้า ผม option ต่างๆแล้ว เคยได้ยินประโยคนี้ไหมครับ " คนเราถ้าจะรักกันชอบ มันต้องมีเคมีตรงกัน "  เคมี ตัวนี้คืออะไร มันทำอะไรได้ มันทำให้คนเราชอบกันได้จริงหรอ มันพิเศษยังไง




วันนี้จะมาเสนอ เคมี ตัวนี้หละครับ ที่ทำให้เรามีเสน่ห์ ดึงดูด เหมือนมีเวทมนต์สะกดใจ 555

frankywawah

เพื่อนๆเคยสงสัยกันรึเปล่าว่า ก่อนที่เราจะรักใครสักคน มันจะต้องมีเหตุผลอะไรประกอบบ้าง บางคนบอกว่า ก็เขาน่ารัก นิสัยดี สวย หล่อ และอะไรอีกมากมาย หลายคนอาจเชื่อในพรหมลิขิต ที่เบื้องบนดลบันดาลให้คนทั้งสองมาพบกัน แต่พอคิดอีกทีมันก็เป็นเรื่องที่ยากต่อการพิสูจน์ จริงๆมันมาจาก กลิ่น ครับ กลิ่นที่มันไม่มีกลิ่น งง ยังไง
      
       เคยสงสัยในความรู้สึกของตัวเองหรือไม่ว่า ทำไมเราถึงได้เกิดความรู้สึกรักใครบางคนขึ้นมาได้ ทั้งๆ ที่เขาไม่ได้หล่อ รวย หรือเป็นคนดีอะไร แล้วอะไรกันล่ะที่ทำให้เราหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ หรือเขินอายเพราะทำอะไรเปิ่นๆ ออกไป ผมเชื่อว่าหลายคนเคยได้ยิน สารเคมีตัวนึงที่ชื่อ Pheromone (ฟีโรโมน) สารฟีโรโมน เป็นสารที่มนุษย์ไม่สามารถรับรู้ได้ด้วยกลิ่นเหมือนอย่างมดหรือผึ้ง แต่เราสามารถรับรู้ได้ทางสมอง สังเกตได้โดย เมื่อไหร่ก็ตามที่เราไปเจอคนที่ตรงสเปก หรืออยู่ดีๆ ก็เกิดความรู้สึกปลื้ม ชอบ ประทับใจขึ้นมาโดยไม่มีเหตุผล ความรู้สึกนี้แหละที่เรียกว่าสารฟีโรโมนในร่างกายเรากำลังทำงาน ที่สำคัญอีกข้อคือถ้าผู้หญิงคนไหนที่ติดพ่อมาก หรือรักพ่อมากๆ หากเธอได้ไปพบเจอชายที่มีกลิ่นหรือนิสัยคล้ายพ่อเมื่อไหร่ ผู้หญิงคนนั้นมักจะตกหลุมรักเขาไปโดยไม่รู้ตัว

แล้วมันต่างกับ hormone ฮอร์โมนยังไง
ฟีโรโมน เหมือน ฮอร์โมน แต่ฮอร์โมน มีผลกับตนเอง
ฟีโรโมน มีผลกับผู้อื่น เช่นกลิ่นต่างๆ

เนื้อหาเชิงวิชาการมันมีเยอะมากๆ ถ้าเพื่อนๆอยากรู้ก็ลองหามาอ่านนะครับ หลายคงอาจจะไม่เชื่อ  รส สี กลิ่นไม่มี มันจะดึงดูดได้ยังไง
ผมยอมรับครับ เมื่อก่อนผมเห็นมันเป็นของกิ๊กก็อก พูดง่ายๆมันไร้สาระ พูดตรงๆครับ ผมคิดว่ามันโม้ หลอกขายของแน่นๆ มันจะเห็นผลหรอ แต่เรื่องมันมีอยู่ว่า ในอดีต ผมดันไปชอบผู้หยิงอยู่คนนึง ตอนนั้นผมก็ยังศัลยกรรมไม่ full option ขนาดนี้นะครับ ผมชอบมากเธอ ชอบมากๆ ผมไม่รวย ไม่มีรถขับ ไม่มีอะไรเลย ตอนนั้นหน้าตาก็ยัง งั้งๆ ธรรมดา แต่ผมเป็นคนแปลกอย่างนึง ผมเป็นคนชอบฉีดน้ำหอมมาก ฉีดทุกวัน อยู่บ้านก็ฉีด ผมเป็นคนไม่มีกลิ่นตัวนะครับ แต่เป็นคนชอบน้ำหอมมาก โดยเฉพาะน้ำหอมของผู้หญิง เอารูปน้ำหอมที่ผมใช้ไปดูก่อนแล้วกันครับ ในรูปมีอยู่ 5 ขวด ไว้จะมาบอกนะครับว่าของอะไรบ้าง

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย มะยม เมื่อ 2012-5-15 20:37
เจ้าตัว  Stem Cell  มีข้อจำกัดสำหรับผุ้ป่วยที่มีโรคประจำ ...

stem cell สกัดมาจาก เซลล์ต้อนอ่อนของพืช จริงๆเข้าเอาไว้รักษาโรคต่างๆ แต่ประยุกต์มาใช้ในเรื่องความงาม ผมข้างเคียงแทบจะไม่มี เพราะปราศจาก ฮอร์โมน Estrogen ที่มีอยู่ในคนและสัตว์
พวก รกเด็ก รกสัตว์ รกแกะ โอกาศเสี่ยงแพ้เยอะกว่าครับ รกพืช แน่นนอนครับ

frankywawah

เพื่อนๆคนไหนมีปัญหาอะไร ถ้าอยากปรึษาผม ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามแต่ ขอความกรุณาช่วยหลังไมค์มานะครับ เพราะแต่ละคนปัญหาไม่เหมือนกัน จะให้ตอบเหมือนกันก็คงไม่ได้ และขอขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆหลายๆคน ที่ยอมโทรมาหาผมจากต่างประเทศ ถ้าผมพอมีความรู้อะไรที่ผมช่วยได้ ผมยินดีครับ   

มาต่อเรื่อง pheromone กันต่อครับ ต้องขอบอกก่อนนะครับว่าผมไม่ได้เป็นหน้าม้าให้กับร้านขาย pheromone ร้านไหนนะครับ เรื่องทั้งหมดมาจากประสบการณ์ชีวิตผมล้วนๆ จึงอยากจะนำมาเล่าสู่กันฟัง เชื่อไม่เชื่อ เพื่อนๆตัดสินกันเองนะครับ



เนื่องจากผมเป็นคนชอบน้ำหอมมากๆ โดยเฉพาะน้ำหอมผู้หญิง แรกๆผมซื้อแต่พวกน้ำหอมผู้หญิงมาใช้ ที่ติดใจมากก็คือ britney spears fantasy ขวดแดงๆ กลมๆ ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยใช้ ที่ชอบเพราะผมเคยเดินผ่านผู้หญิงคนนึง พอเดินสวนกัน มันได้กลิ่นทันที หันทันที มันทำให้ผมรู้สึกว่า ผู้หญิงคนนี้มีอะไรบางอย่าง ทั้งๆที่ผมก็ไม่ได้ชอบเขา ไม่เคยคุยกับเขา เรื่อง กลิ่น สำหรับผมมันเป็นเรื่องสำคัญ ไม่แพ้กับหน้าตานะครับ กลิ่นบ่งบอกถึง รสนิยม เสน่ห์ กลิ่นช่วยดูดความสนใจได้เยอะมาก พอผมได้กลิ่น ผมรู้สึกว่ามันหอมติดใจ อยากได้กลิ่นอีก ตอนแรกผมไม่รู้หรอกครับว่าน้ำหอมกลิ่นอะไร ก็เลยลองไปเดินตามห้าง พูดง่ายๆว่า ดมหลายๆยี่ห้อจนเจอ เลยซื้อมาใช้เอง ดมเองคนเดียว 555 เหมือนโรคจิตนะครับแต่มันสอนให้ผมรู้ว่า เรื่อง กลิ่น นี่มันไม่ธรรมดาเลยทีเดียว เดี๋ยวมาต่อครับ

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย oneway_hellboy เมื่อ 2012-5-18 15:52
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย oneway_hellboy เมื่อ 2012-5-18 16:18

คือ มีค ...

ถ้าดูจากในรูป น้ำหอม5ขวด เป็นน้ำหอมผู้ชาย3ขวดนะครับ แล้วที่ผมชอบน้ำหอมผู้หญิงมันผิดหรอครับ ถ้าผมชอบกลิ่นน้ำหิมผู้หญิงจะให้ไปหาที่ไหนครับ แล้วผมจะไปหาที่ไหนได้ละ นอกจากซื้อมาใช้เอง ถ้าคุณกลับไปดูที่รูปแล้วคุณคงรู้นะครับว่าขวดไหนน้ำหอมผู้ชาย เวลาผมไปจีบผู้หญิงผมก็ใช้น้ำหอมผู้หญิง เพราะผมไม่แคร์ครับ ทุกวันนี้มีแฟนแล้วก็ยังฉีดน้ำหอมผู้หญิงอยู่ ผมชอบน้ำหอมผู้หญิง มันก็ปกตินะครับ ผมใช้น้ำหอมผู้หญิงก็ไม่เคยมีใครรังเกียจผมนิครับ ผมไม่มีรสนิยมหรอครับ ใช้น้ำหอมผู้หญิง ผู้หญิงใช้น้ำหอมผู้ชายก็มีเยอะแยะไป น้ำหอมที่คุณแนะนำผม ผมลองหมดแล้วครับ ผมอาจจะเป็นคนไม่มีรสนิยมในสายตาของคุณ แต่ในสายตาคนอื่นผมไม่คิดแบบนั้นแน่นนอน

frankywawah

ทั้งแต่ทำหน้ามา ก็เพิ่งเคยโดนหาว่าหน้าผมบานก็วันนี้หละ ผมพูดอะไรไม่ออกเลย

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย postcard เมื่อ 2012-5-19 22:42
อะรัยทำให้คุณคิดจะเปรียนแปลงตัวเองขนาดนี้คราฟฟ ...

ขอบคุณครับที่ถาม ผมลืมเลยผมก็ไม่เคยบอก สิ่งที่ผมทำให้ผมเปลี่ยนแปลงได้ขนาดนี้ ขอตอบเลยครับว่า "ความรัก" ผมเป็นคนนึงที่เมื่อก่อนไม่ค่อยประสบความสำเร็จในเรื่องความรักเลย ไม่มีความมั่นใจเลย ผมอยากเปลี่ยนตัวเองตอนเรียนมหาลัยครับ ยาวหน่อยนะ แต่ผมจะเล่าให้ฟัง

ผมเคยมีแฟนคนแรก คบกันมา3ปี เรียนมัธยมด้วยกัน แล้วก็เข้ามาเรียนที่เอแบคด้วยกัน คณะเดียวกัน แล้ววันนึง เราก็เลิกกัน เพราะเขาไปเจอคนที่ รวยกว่า ดูดีกว่า มันเป็นเรื่องปกติคนเราเจออะไรที่ดีกว่าก็ต้องไป แต่ทำไมต้องหยามกันขนาดนี้ ทิ้งผมแบบไร้เยื่อใย บอกเลิกผมตรงกับวันครบรอบวันที่แม่ผมตายไปได้1ปี ตั้งแต่แม่ผมตายไป ชีวิตผมก็เหลือผู้หญิงคนเดียวที่ผมรักก็คือเขา วันที่เขาบอกเลิกผม ผมคิดถึงแม่มาก อยากตายๆไปแล้วไปอยู่กับแม่ พ่อผมไม่ได้อยู่กับผม ผมอยู่กับป้าที่บ้าน วันนั้นป้านอนแล้ว ผมเพิ่งวางโทรศัพท์หลังจากที่เขาบอกว่ามีคนอื่น ทั้งๆที่ผมขอร้อง อ้อนวอน บอกเขาว่าวันนี้เป็นวันครบรอบวันที่แม่ผมตาย ผมไม่มีใคร อย่าทิ้งผมไป ผมอยู่ไม่ได้

แต่เขาก็ไม่ได้สนใจอะไร บอกผมแค่ว่า "เสียใจด้วยนะ" ทั้งๆที่ตอนที่แม่ผมตาย เขาร้องไห้ เขาบอกว่า สงสารผม แล้วเขาจะไม่ทิ้งผมไป
หลังจากวางสายผมเดินเข้าไปในครัว หยิบมีด มันเป็นอารมณ์ที่สูญเสียหนักมากๆ แม่ก็ตายไปแล้ว แฟนที่คบกันมาก็ทิ้ง เงินก็ไม่มี จนๆ หน้าตาก็ไม่หล่อ ผอมๆ ชีวิตมีอะไรดี ตอนนั้นมันคิดถึงแม่มากครับ พ่อแม่ผมไปทำงานที่เมืองนอก พ่อไปตั้งแต่ผม3ขวบ แม่ตามไปตอนผม 5 ขวบ แม่เสียตอนผมอายุ18  13ปีผมไม่เจอแม่ แล้วแม่ผมก็ตายผมไปตลอดกาล ผมอยู่กับป้ามาตั้งแต่เด็กๆ ตอนประถมอยู่โรงเรียนประจำ ลึกๆผมเหมือนพวกขาดความรัก ทุกวันพ่อ วันแม่ ไม่ต้องพูด เวลาเห็นครอบครัวกินข้าวด้วยกัน โคตรอ้างว้าง

ผมไม่สามารถอธิบายความรู้สึกที่โดนหยามออกมาเป็นคำพูดได้ ทุกวันแฟนใหม่จะขับรถมารับแฟนเก่าผม มีอยู่วันนึงเขาขับมารับแฟนเก่าผมแล้วขับรถมาเฉี่ยวหลังผม ผมก็เลยโทรไปถามว่าต้องทำกันถึงขนาดนี้เลยหรอ เหมือนโดนหยามแต่ทำอะไรไม่ได้ แต่เขาได้ทิ้งปมไว้ให้ผม เขาบอกผมว่า "ผมเป็นแค่จุดดำๆในชีวิตเขา"  ไอคำนี้หละ แค่คำเดียว 3ปีคบกันมาผมเป็นแค่จุดดำๆในชีวิตเขา มันเป็นคำที่โคตรดูถูกผม  

พอวางสายเดินเข้าครัว หยิบมีด ร้องไห้คิดถึงแม่ อยากไปอยู่กับแม่ อยากหายไปจากโลกใบนี้  แต่ก็นึกถึงป้าครับ ป้าแก่แล้ว ถ้าผมตายขึ้นมา ตื่นเช้ามาแกคงมาเห็นศพ แกคงเสียใจ ป้าอยู้บ้านคนเดียวด้วย ตอนนั้นเหมือนตายทั้งเป็น สูญเสียคนที่รักไปถึง2คน คนนึงจากเป็น อีกคนนึงจากตาย แต่ผมยังพอคิดได้ เพราะ เงินที่ผมเอาไปสมัครเรียนมหาลัยเป็นเงินก้อนสุดท้ายที่แม่หามาได้ น้ำตาร่วงครับตอนพ่อบอก พ่อแม่ผมไม่ได้รวย แต่อยากให้ผมเรียนสูงๆ ตอนนั้นก็ยังพอคิดได้บ้าง ว่าอย่างน้อยก็สงสารพ่อแม่ พ่อก็ลำบากหาเงินคนเดียว

ชีวิตผม ผมว่ามันก็น้ำเน่าพอสมควร เชื่อไม่เชื่อสุดแล้วแต่ครับ ผมกล้าเล่า เพราะอยากจะเป็นกำลังใจให้คนอื่นๆ ดูผมเป็นตัวอย่างนะ แม่ตาย แฟนทิ้ง บ้านจน รถไม่มีขับ หลังจากเลิกกับแฟนคนแรกไป ไม่กล้าจีบใครเลยครับ เดี๋ยวมาต่อเล่านะครับ  
ขอไปทำใจกับอตีดแปปนึง ผมมันคนมีปมด้อยครับ

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย Rosminteiei เมื่อ 2012-5-19 23:18
ถ้่าหน้าพี่แฟร้งบานหน้าหนูก็จานข้าวหมาแล้วคะ ...

ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ อย่าพูดเหมือนน้องต้อยต่ำนะครับ  พี่กับน้องเท่าเทียมกันนะครับ มีอะไรปรึษาพี่ได้ครับ อย่าดูถูกหน้าตัวแบบนี้อีกนะครับ พี่อ่านแล้วรู้สึกไม่ดีเลย

frankywawah

พักเรื่องชีวิตน้ำเน่าไว้แปปนะครับ  เนื่องจากมีคนถามเรื่องสิวกันมามากๆ วันนี้ผมจะเอาพวกยาทาที่เวลาสิวอักเศบขึ้นมาให้ดูนะครับ มันเป็นแค่ยารักษาสิวในเบื้องต้นนะครับ ทำให้สิวยุบได้ แต่พอสิวยุบ ก็ต้องรักษารอย ดำ แดง หลุมสิว กันต่อไป ของพวกนี้หาได้ ตาม boots และ watson ถ้าบางคนใช้ยาแล้วไม่หาย อันนี้ก็สุดแล้วแต่นะครับ บางคนเป็นสิวมาก บางคนเป็นสิวน้อย บางคนเป็นสิวดื้อยา คนแต่ละคนไม่เหมือนกัน ดูจากรูปมี4ตัวนะครับ



เริ่มจาก ซ้ายล่าง เป็นตัวทาก่อนล้างหน้า ชื่อ brevoxyl 0.4เปอเซน ทาก่อนล้างหน้าสัก10นาทีแล้วล้างออก มันจะช่วยให้สิวแห้งเร็วครับ
อย่าทานานกว่านี้นะครับ หน้าจะแดงเอาครับ ทาเช้าเย็นก่อน ล้างหน้านะครับ

พอล้างหน้าเสร็จก็ตัวขวาล่างนะครับ hiruscar post acne เอาไว้ทาบริเวณที่สิวแห้งนะครับ มันจะช่วยเรื่องรอยดำ แดงได้นิดนึง ไม่มาก

ขวาบน differin 0.1เปอเซน ทาตรงบริเวณที่เป็นสิว ช่วยได้ระดับนึงครับ

ซ้ายบน ก็เอาไว้แต้มสิว มันจะทำให้สิวแห้ง ทาไปสักพักจะรู้สุกร้อนๆวูบๆนิดนึง ก็ใช้ได้ครับ ช่วยได้ระดับนึง

พวกนี้เป็นแค่ยารักษาสิวเบื้องต้นนะครับ จะเอาไปเทียบกับ stem cell หรือ เลเซอร์ คงไม่ได้ แต่ก็พอบรรเทาพวกสิวอักเสบได้ครับ บางคนก็ดีขึ้นเยอะ บางคนก็ไม่ดีขึ้นเลย ขึ้นอยู่ปัญหาความรุนแรงของสิว ของแต่ละบุคคลนะครับ บางคนอาจต้องกินยาช่วยด้วย

เดี๋ยวมาต่อตัวเช็ดหน้าสำหรับคนที่แต่งหน้านะครับ

frankywawah

ขอบคุณสำหรับกำลังใจจากเพื่อนๆทุกคนนะครับ คือผมอยากจะบอกว่า คิดต่างได้ครับ ไม่ผิด คิดต่างก็โพสได้โพสได้ไม่ผิด เพราะนี่เป็นเว็บบอดร์สาธารณะ แต่นี่เป็นกระทู้ของผม จะพิมพ์อะไรก็ให้เกีรติผมบ้างครับ ผมไม่ได้บอกว่าผมถูกเสมอ แต่ผมก็เอาชีวิตผมมาเล่า เรื่องจริง ประสบการณ์จริง ผมแค่หวังว่าคนที่อ่านกระทุ้ผมจะมีแรงบรรดาลใจในการดูแลตัวเอง รักตัวเอง แล้วเมื่อวันนึงเราเปลี่ยนตัวเองได้สำเร็จ เราก็ควรจะแบ่งปันความรู้ให้ผู้อื่น ไม่ใช่มาหาข้อติหรือข้อเสียของคนๆนั้น

เพื่อนผมหลายๆคนเขาก็ออกมาเปิดเผยตัวเองกันหมดแล้ว ขอยกตัวอย่างนะครับ แย้ คงรู้จักกันดี แย้เป็นคนจิตใจดีและกล้านะครับ เขาทำอะไรมาก็ยอมบอกหมด ตั๊มเซจุง ก็รู้จักกัน เขาก็เป็นไอดอลผม เขาก็ออกมาเปิดตัวนะครับ สังเกตุดูครับ คนที่ประสบความสำเร็จในการทำศัลยกรรม เขาก็ออกมาเปิดเผยตัวกันทั้งนั้น ผมเชื่อว่าไม่ใช่เพราะพวกเราอยากดัง แต่แค่อยากเป็นแรงบัลดานใจให้กับทุกๆคน ฝากถึงทุกคนนะครับ ทุกอย่างบนโลกใบนี้เปลี่ยนแปลงได้ ตัวคุณเองก็เหมือนกัน อย่าท้อ อย่าคิดว่าตัวเราไม่มีวันดูดี ทุกคนดูดีขึ้นได้ถ้ารู้จักวิธี

มาต่อกันครับ หลายคนที่เป็นสิว ส่วนใหญ่ผมว่า มาจากการแต่งหน้า การใช้เครื่องสำอาง แต่ละคนก็มีที่ล้างเครื่องสำอางแตกต่างกันไป แต่ผมใช้ตัวนี้ครับ



มันแตกต่างจากตัวอื่นคือ มันไม่ใช่oil ซื้อได้ตาม wotson นะครับหลายคนอาจเคยเห็นมาบ้าง ตัวนี้เหมาะกับคนผิวทั่วไปนะครับ มันเหมือนน้ำป่าว เช็คตาได้ สำหรับผมตัวนี้ถือว่าดีนะครับ เช็คแล้วสะอาดดี มันจะมีอีกตัวสำหรับคนผิวมัน ขวดสีฟ้าๆ  ใครที่หน้ามันแล้วไม่ค่อยใช้ toner เช็ดก็หัดใช้บ้างก็ดีนะครับ โดยเฉพาะผู้ชาย ดูแลตัวเองบ้าง หัดสำอางบ้างแต่พอควรก็ดีครับ

เพื่อนผมผู้ชาย ชีวิตนี้รู้จักแต่โฟมล้างหน้า ไม่เคยทาบำรุงและกันแดด แล้วชอบมาบ่นว่าจีบสาวไม่ติด 555 ผู้หญิงถ้ามีแฟนก็หัดสอนให้เขาดูแลตัวเองบ้างนะครับ เดี๋ยวแก่ตัวไปจะไม่หล่อเอา  ที่ผมเริ่มมาดูแลตัวเองเพราะผมจีบสาวไม่ติดนี่หละ 555  ไว้ผมจะเอาครีมบำรุงและครีมกันแดดสำหรับผู้ชายมาให้ดุนะครับ จะได้หน้าไม่ค่อยมันกันสักที  

เดี๋ยวจะต่อเรื่อง ปากบาง ครับ ไม่ได้เขียนสักที จริงๆ pheromone ผมยังเขียนไม่จบนะครับ มาดราม่ากันเรื่องน้ำหอมซะก่อน 5555

ใครถามอะไรมาจะพยายามตอบให้หมดนะครับ บางครั้งผมอาจจะไม่สะดวกพิมพ์  ถ้าตอบช้าต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย

frankywawah

ขอนิดนึงครับ ตั้งแต่ผมรีวิว stem cell กับ meso กระแสมันเริ่มมา ผมขอบอกไว้ก่อนนะครับ ว่าผมไม่เกี่ยวกับพวก ที่ตั้งชื่อ กระทู้ รีววิว stem cell หรือ meso ใดๆทั้งสิ้นนะครับ เพราะเขาอาจจะมาอ่านกระทู้ผม แล้วอาจจะใช้คำพูดหรืออะไรก็ตามที่คล้ายผม คนที่ฝากผมซื้อยา ตอนนี้ก็ยังอยู่ในระหว่างการรักษา ยังไม่มีใครออกมาออกตัว ฉะนั้น stem cell หรือ meso ของคนอื่นๆ จึงไม่เกี่ยวกับผมนะครับ

ทุกอย่างต้องใช้เวลาในการรักษา เข็มเดียวหาย เข็มเดียวขาว ทีเดียวหน้าเล็ก สำหรับผม ไม่มีนะครับ meso ขั้นต่ำ คือ 3-4 สัปดาห์  
ขึ้นอยู่กับไขมันบริเวณใบหน้าของแต่ละคน กว่าผมหน้าจะเรียว ยังเป็นเดือนๆเลย ปุ๊บปั๊ปจะเปลี่ยนเลย เป็นไปได้ไง
ถ้าลงเร็วเว่อก็สารที่เคยบอกนะครับ   เตือนแล้วนะ  รู้กันอยู่ว่าในนี้หน้าม้าเยอะ ต้องมีสติ รู้ไหมจ๊ะ

จึงเรียนมาเพื่อทราบ

frankywawah

สวัดดีครับเพื่อนๆ กลับมาต่อกันนะครับ วันนี้จะมาต่อเรื่อง ปากบางครับ

จริงๆส่วนตัวจริงๆไม่เคยคิดจะรีวิวอะไรนะครับ อยู่ในเว็บตั้งแต่ปี2009 ดูอย่างเดียวไม่เคยโพส แต่ไหนๆก็ไหนๆและ ตอนทำปากจริงๆตอนมันบวมๆผมก็ถ่ายรูปเก็บไว้นะครับ แต่ก็ลบไปเกือบหมด เหลือแค่4รูป  มาเข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

หลังจากที่ผมทำ จมูก กับตา เสร็จ ผมก็หยุดทำศัลยกกรมไปประมาณปีครี่ง เหตุเพราะผมเรียนหนัก ตอนนั้นปี4 ประกอบกับผมเล่นละครเวทีของคณะทุกปี 2ปีซ้อน ไม่ได้เล่นเป็นต้นไม้นะครับ เล่นเป็นพนะเอก 55 ขอโม้นิดนึง ตอนนั้นผมเลยไม่ได้คิดจะทำเพิ่ม เพราะส่วนตัวก็พอใจแล้ว ไม่ได้หล่ออะไรมากมาย แต่ก็ไม่แย่ พอใจแล้วครับ ช่วงเรียนไม่ได้เข้ามาที่เว็บนี้เลยครับ เพราะผมคิดว่าผมก็ทำมาแล้วโอเคในระดับนึง ตอนนั้น ทำแค่จมูก กับตาครับ คนยังทักตั้งเยอะว่าเราเปลี่ยนไป

เหตุที่ผมไม่อยากเข้าเว็บนี้ตอนนั้นเพราะ คนเราต้องรู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองมีครับ เข้ามาทีไรก็ดูคนนั้น คนนี้ ดูแล้วอยากทำบ้าง อยากแก้บ้าง ตาอยากเหมือนคนนี้ จมูกอยากโด่งเพิ่มเหมือนคนนั้น ไม่จบสักที เคยตัดใจไม่เข้ามาเลยครับ 5-6เดือน เข้าเว็บที หยุดทำศัลยกรรมมาปีครึ่ง  แต่จุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงนี้หละ วันนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้เข้ามาดู ปกติก็เห็นมีแต่ รีวิว ตา จมูก คาง แต่วันนั้นมีคนมารีวิวปากบางให้ดู

โอ้แม่เจ้า!!!! มันมีการทำศัยลกรรมปากด้วยหรอ เพราะตอนนั้นผมไม่เคยได้ยินการทำปากมาก่อน มันเลยดู amazing มากในสายตาผม กระทู้นั้นเป็นปากของผู้หญิงนะครับ เป็นยุคแรกๆที่มีคนมากรีวิวปากในเว็บนี้ ผมดูแล้วประทับใจมากครับ แต่ติดตรงแผลที่ปากนี่หละครับ
ทำไมมันช่างสยดสยองอะไรเช่นนี้ ทำตายังเย็บไม่น่ากลัวเท่าทำปากเลย แต่แปลกแทนที่จะกลัวไม่กล้าทำ ป่าวเลย กลับอยากทำมาก ทั้งๆที่ตัดสินใจจะไม่ทำอะไรแล้ว  ผมจะบอกแบบนี้ครับ  ใครก็ตามที่ทำศัลยกรรมเกิน2ครั้งขึ้นไป มันจะทำต่อไปเรื่อยๆ  มันเหมือนถ่านไฟเก่ายังร้อนครับ หยุดยาก เพราะทำมาแล้วทุกคนทักว่าดูดีขึ้น หล่อขึ้น สวยขึ้น ทีนี้ก็จะอยากทำต่อ อยากดูดีขึ้นไปอีก

หลายคนคงเข้าใจผมนะครับ เพราะถ้าผมไปเล่าให้คนอื่นฟังเขาคงหาว่าผมเคยติดศัลยกรรม แต่เพราะที่นี่คือเว็บศัลยกรรม ผมเชื่อว่าเพื่อนๆหลายคนคงเข้าใจความรู้สึกนี้ดี เอาน่า แค่ปากเอง เบาๆ ปากบางๆเก๋ๆ ไม่ค่อยมีใครทำ  ทำแค่ ตา จมูก ปาก 3อย่างก็คงพอและ แต่อยากจะบอกว่าตอนแรกผมกะหยุดตั้งแต่ทำตาแล้วครับ จมูกไม่คิดจะทำด้วยซ้ำ 555

แหมเล่ากำลังมันส์เลย เดี๋ยวเอารูปปากก่อนทำไปดูนะครับ จริงๆปากบนผมไม่หนานะ แต่มันไม่เป็นทรง ไม่เป็นกระจับ ไม่มีติ่งๆตรงกลางปากครับ

frankywawah

มาต่อครับ ยาวนิดนึงแต่อ่านเถอะครับ เป็นความรู้ล้วนๆ


หลังจากสนใจทำปากบางก็ลองสึกษาข้อมูลดู ปรากฎว่าเป็นฝีมือของ หมอภูศิษย์ ตรงข้ามพาต้าปิ่นเกล้า ตอนนั้นคลินิคนี้ยังไม่ดังมากเลยครับ ปกติจะทำอะไรก็ศึกษานานนิดนึง แต่รอบนี้ดูรูปในเว็บ2วันโทรไปจองเลย 555  ตอนนั้นค่าทำยังแค่ 8000 อยู่เลย เสียดายเมื่อก่อนหมอมีโปรทำปาก 6000 เองไปไม่ทันครับ วันก่อนหลานโทรไปถามรู้สึกว่าขึ้นเป็น12000แล้ว หุหุ จองก่อน3เดือน
แบบนี้หละครับ ฝีมือหมอดี ราคาก็เลยขึ้นตาม ก่อนผมจะทำผมก็ปรึษาเพื่อนๆพี่ๆหลายๆคน มีแต่คนด่า ว่าไปทำทำไม ปากบางอยู่แล้ว น่ากลัวจะตาย เย็บแล้วจะเหมือนเดิมไหม

ส่วนตัวนะครับ เวลาก่อนจะทำอะไรผมก็จะถามคนอื่นทุกครั้ง ทุกคนห้ามผมทำทุกครั้ง ไม่มีใครสนับสนุนการทำศัลยกรรมของผมเลย แต่ผมมันดื้อ เพราะผมเชื่อว่า ผมของลองเสี่ยงดูดีกว่า  ถ้าทำออกมาแล้วไม่ดี ก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของตัวเอง แต่ผมคิดเสมอว่า high risk high return ถ้าคิดว่าทำศัลยกรรมแล้วกลัวดูไม่ดี อย่าทำเลยครับ ถ้าไม่กล้าก็เหมือนเดิม ถ้าไม่ทำก็เหมือนเดิม ถ้าลองทำดูเผื่ออะไรในชีวิตจะดีขึ้นบ้าง แต่ต้องยอมรับครับ ว่าผมโคตรโชคดีมาก ทำมาไม่มีพลาด ไม่มีแก้ ต้องเชื่อใจหมอ

ผมจะบอกเคล็ดลับในการทำศัลยกรรมของผมให้นะครับ

1.ผมเชื่อใจหมอทุกคนที่ผมไปทำมาก

ผมไม่เคยเอารูปดาราไปให้หมอดู แล้วบอกว่าเอาแบบนี้แบบนั้น ไม่เคยเลย เพราะอะไรรู้ไหมครับ เพราะแต่ละคนเกิดมาสัดส่วนทุกอย่างบนใบหน้าไม่เท่ากัน โดยเฉพาะหัวกระโหลก ยกตัวอย่าง จมูก บางคนจมูกสั้น เนื้อจมูกน้อย อยากได้โด่งๆ สั่งหมอให้เอาโด่งๆ ผมเห็นจมูกทะลุมาหลายคนและ เพราะไปสั่งหมอ บางครั้งหมอก็อยากทำให้ตามใจลูกค้ามากที่สุด เราก็ต้องดู โครงสร้างหน้าของเราแต่เดิมด้วย ถ้าจมูกเนื้อน้อย ก็ต้องทำใจว่าอาจจะโด่งมากๆไม่ได้ ถ้าจมูกสั้น จะทำให้ดูยาวๆมากก็ไม่ได้

ยกตัวอย่าง หมอคมกริช มีแต่คนบอกว่าหมอทำธรรมชาติเกินไป ไม่โด่งเลย ผมไม่ได้เป็นหน้าม้าให้หมอนะ แต่ให้ดูจมูกผม แต่เดิมผมเป็นคนมีปลายจมูก แต่สันไม่ค่อยมี ก่อนทำผมบอกผมแค่ว่า เอาโด่งที่สุดเท่าที่จะโด่งได้ หล่อๆ เอาเกาหลีๆนะหมอ ผมพูดแค่นี้จริงๆนะ คือเราต้องเชื่อใจหมอครับ สรุปมีแต่คนถามว่าไปทำที่ไหนมา จมูกสวยจัง ส่วนนึงก็มาจากทุนเดิม คือเราพอจะมีจมูกบ้าง เลยทำออกมาดูดี

2.ทำศัลยกรรมเหมือนจับฉลาก

เรื่องนี้ต้องยอมรับจริงๆว่า ทำสัลยกรรมต้องใช้ ดวง มาก สมมุติถามผมว่า ทำจมูกกับหมอไหนดี ผมตอบไม่ได้หรอกครับ เพราะหมอเก่งๆมีเยอะมากๆๆๆๆๆ แต่ผมจะทำอะไร ผมจะศึกษาก่อน ว่าหมอคนไหนเก่งอะไร อย่าง ตาก็หมอกมล จมูกก็หมอคมกริช  ปากก็หมอภูศิษย์ผมจะเลือกแต่หมอที่มีอายุ เพราะผมเชื่อว่า หมอมีอายุมักมีประสบการณ์มาก แต่ก็ไม่ใช่ว่าหมอหนุ่มๆจะไม่เก่งนะครับ เชื่อไหมครับ ผมไม่รู้จักหมอใหม่ๆที่เพื่อนๆทั้งกระทู้รีวิวสักคน เพราะผมหยุดผ่าตัดแล้ว แล้วหลายๆคนก็คงไม่รู้จักหมอที่มีอายุหลายๆท่าน ก็ลองเลือกดูครับ
ทำศัลยกรรมกเหมือนจับฉลาก ดีก็ดีไป ไม่ดีก็แก้ใหม่เสียตังเพิ่ม

frankywawah

อันนี้สำคัญอยากให้อ่านกันนะครับ

3.จะฉีดก่อน หรือใส่ซิลิโคนดี เอาสักทาง

หลายๆคนมีปัญหากันมากไม่รู้จะทำอะไรก่อนดี ถ้าคิดว่า ลองฉีดfillerก่อน แล้วใส่ซิลิโคนทีหลังก็ได้ บอกได้คำเดียวครับ
"ชีวิตกำลังจะชิบหาย ถ้าคิดแบบนี้" ผมไม่ได้เก่งมาจากไหนถึงกล้าพูดแบบนี้ แต่เป็นประสบการณ์ชีวิตล้วนๆของคนรอบตัวผมที่เคยคิดแบบนี้มาก่อน เพราะอะไรรู้ไหนครับ

อะไรก็ตามที่คุณฉีดไป ถ้าอยากใส่ซิลิโคน คุณต้องขุดออกก่อน แล้วพื้นที่ ที่โดนขุดไปมันจะเหมือนเนื้อเดิมที่ ไม่เคยทำอะไรมาได้ยังไงครับ แล้วเวลาขุดออก แน่นใจหรอว่าขุดออกหมดเกลี้ยง แน่นใจหรอว่า เนื้อเยื่อ เยื่อบุ เยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ ไม่โดนขุดออกไปด้วย ไม่ได้ผิดที่หมอนะครับ ถ้าต้องขุดอะไรนอกจากสารที่คุณฉีดไป ต้องโทษตัวเองครับ พลาดเอง ผมเห็นหลายๆคน รีวิวฉีดfiller ก่อนแล้วบอกว่าจะไปใส่ซิลิโคน บอกตรงๆ สยองแทนครับ เพราะเวลาใส่ซิลิโคนเข้าไปหลังจากขุดอะไรก็ตามที่ขุดฉีดไปมันจะบวม

ขนาดเป็นพวก hyaluronic acid สลายเองได้ ยังสลายไม่หมด100เปอเซนเลยครับ ถ้าคิดว่าฉันฉีดสลายก่อนก็ได้ ฉันรวย ฉันไม่แคร์ ก็จงกลับไปอ่านที่ผมเคยเขียนไว้นะครับ ไม่เชื่อไม่เป็นไรครับ ลองดูก็ได้ หน้าใครหน้ามัน หน้าพังก็หน้าคุณเอง 555 แนะนำนะครับ

ถ้าเป็นไปได้ อยากแนะนำให้ทำซิลิโคนครับ ไม่ว่าจะเป็น จมูก หรือ คาง ซิลิโคนดีกว่าครับ อยู่ถาวร ไม่สลาย
ถ้าใส่ซิลิโคนแล้วอยากฉีดfillerตรงบริเวณนั้น ก็ทำได้ แต่จะไม่แนะนำให้ไปแก้นะครับ เพราะเวลาแก้มันจะแบบนี้ครับ  เอาซิลิโคนออกก่อน แล้วขุดfillerออกอีกที แล้วต้องพักฟื้นสัก3เดือน แล้วค่อยไปเอาซิลิโคนใหม่ใส่  ถ้าทำทีเดียวพร้อมกัน มันมีโอกาศติดเชื้อสูงมากครับ และบวมจากการขุด fillerออก ราคาทำก็สูงไปอีกเท่าตัว แล้วจะฉีดfillerก่อนใส่ซิลิโคนทำเพื่อ?????

ถ้าจะฉีดก็ฉีดไปเลย ไม่ต้องใส่ซิลิโคนแล้ว ข้อดีของการฉีด filler คือ ไม่ต้องผ่าตัด สวยหล่อเร็ว ส่วนตัวผมคิดว่ามันสวยกว่าการใส่ซิลิโคนนะ แต่ผมว่าใส่ซิลิโคนจะดีกว่าแน่นนอน แต่มันก็มีข้อเสีย คือต้องเติมเรื่อยๆ  อย่าคิดนะว่ามันถูกกว่าผ่าตัด ยกตัวอย่างตัวผม ผมต้องfiller ทุกปีที่ปลายจมูก ให้มันเป็นหยดน้ำ ผมแก้จมูกไม่ได้ เพราะใส่fillerไปแล้ว ผมต้องเติมมทุกปี อย่างต่ำ ก็10000 บาทต่อปีสำหรับ filler 1cc ที่ใช้เติมปลายและสันจมูกนิดหน่อย 10ปีเท่าไรครับ 100000บาท  แพงกว่ากันเยอะ

ลองคิดดูแล้วถ้าเป็นคางละ ก็ต้องเติมทุกปี และถ้าเป็นจมูกกับคางละ ปีนึงต่ำๆก็20000 10ปี ก็200000 เอาตังไปใส่ซิลิโคนเถอะพี่น้อง แล้วยังต้องไปเสี่ยงกับการโดนพวก คลอลาเจนเหลว ซิลิโคนเหลว 108อย่างที่ฉีดไปแล้วสลายไม่ได้ ห้อย ย้วยเป็นก้อน ถามจริงๆครับ เวลาฉีดfiller เคยรู้บ้างป่าวว่าเขาใช้ของอะไร แบบไหน ถ้าทำที่คลินิคมีใช้ของดีดีนะครับ ราคาfiller จะตกอยู่ ccละ 10000 ขึ้นไป ถ้าไม่ถึงเขาก็อาจจะฉีดให้แค่ 0.5 cc แล้วคิดคุณ 6000-7000 ถ้าต่ำกว่านั้นผมก็ไม่รู้แล้วครับ

พวก hyaluronic acid ที่เป็น filler แบบฉีด อยู่จริงๆก็แค่ 6-8 เดือน ก็เริ่มฝ่อตัวลงไม่แน่นเหมือนตอนฉีดมาแรกๆ อยู่ถึงปีมันค้างอยู่ในผิวหนังอยู่แล้วครับ แต่มันจะฝ่อ จริงๆจะสวยแค่ 4-5 เดือน เดือนที่ 6 7 ก็ต้องไปเติมแล้วครับ  ผมว่าต้องมีบ้างละที่เคยฉีดมาแล้วคนขายบอกว่าอยู่นานถึง1-2ปี แต่จริงๆ 4เดือนก็หายไปและ แนะนำฉีดfiller มาใหม่ให้ทานน้ำเยอะๆนะครับ เพราะน้ำมันทำให้ hya ฟู สวย เขาถึงบอกไงครับ ว่าดื่มน้ำเยอะๆ ผิวจะดี

เบื่อไหมครับ ผมย้ำแต่เรื่องเดิมๆเรื่องนี้ เผื่อบางคนไม่ได้อ่านแรกๆที่ผมเขียน หวังดีกับทุกคนนะครับ

frankywawah

กลับมาเรื่องปากบางต่อ

ก็ไปทำปางบางกับหมอภูศิษญ์ครับ หมอใจดีมาก พูดจากดี จับเวลาในการทำทั้งหมด ทั้งแต่ ฉีด ยาชา กรีด เย็บต่างๆ ใช้เวลาไปทั้งหมด
35 นาที สุดยอด เร็วมากๆ ขอบคุณหมอภูศิษย์นะครับ ถ้าใครถามผมเรื่องทำปาก ผมยกให้หมอภู แน่นนอน มาดูรูปตอนทำใหม่ๆกัน
อยากดูดีต้องยอมรับสภาพนี้ให้ได้ครับ ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง ใจต้องกล้า ความอดทนต้องสูง รับรองคุ้มแน่นนอน
high rish high return



ทำเสร็จก็ใส่หน้ากากครับ หยุดได้2สองก็ไปเรียนหนังสือต่อ ตอนทำตาหยุด2วัน ก็ใส่แว่นดำไปเรียนหนังสือ ไปpresent ใส่แว่นดำยืนหน้าห้องเก๋ๆ ผมทำศัลยกรรมครั้งแรกตอนทำตา ผมก็อายเพื่อนๆนะ ไม่กล้าบอก ผมปิดเทอมไปทำจมูก เปิดเทอมมาเพื่อนทุกคนบอกว่าหน้าเปลี่ยนไปเลย ทีนี้ก็ต้องยอมรับครับ หลังจากนั้นก็ไม่เคยอายแล้วครับ สมัยผมเรียนถ้าใครทำศัลยกรรมมา แล้วเพื่อนถาม ถ้าไม่ยอมรับ จะโดนนินทาตลอดครับ 555

ทำปากเสร็จ ใส่หน้ากากไปดูหนัง paragon ต่อครับ 555 ผมเจ็บปากอยู่หลายวันครับ กลับบ้านไป โดนป้าด่า บ้านแทบแตก ป้าไม่ชอบให้ทำศัลยกรรมครับ คนแก่โนะ ป้าผมไม่สนใจเลย ผมหาข้าวกินเอง ก่อนทำปากผมไปซื้อโจ๊กกระป๋องมาตุนไว้เยอะมาก แล้วก็ซื้อแฮมมา เวลากินโจ๊กก็ฉีกแฮมเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วใส่ในโจ๊กเข้าไมโคเวฟ กลัวร่างกายไม่ได้รับสารอาหารเลยต้องใส่แฮมไปครับ ผมใช้ช้อนตักโจ๊กแล้วกิน เพราะปากล่างผมไม่ได้ทำ  ขอนับถือคนที่ทำปาก บน ล่าง พร้อมกัน ผมจิตนาการออกเลยว่ามันโหดร้ายขนาดไหน

วันแรกไม่เท่าไร วันที่สอ2  นี่บวมมากและเจ็บมากครับ มันเจ็บแบบ แปลบๆอะ ผมก็ใช้น้ำเกือลเช็คแผลเหมือนทุกคน ทีเด็ดนี่เลย เวลาใส่หน้าแล้วเลือดยังออกซิบๆ สักพักเลือดจะแห้ง แล้วตอนถอดหน้ากากออก เลือดแห้งติดกับหน้ากาก ทีนี้หละ นรกชัดๆ ผมค่อยๆดึง เจ็บมากอะ กลัวแผลที่เย็บมันฉีกออกด้วย ผมเชื่อว่าต้องมีคนโดนแบบผมบ้างหละ 555

วันที่3 โคตรบวม จิตตกที่สุด บวมมากๆ อุบาทสุด ปากเหมือนเป็ดเลย ต้องไปเรียนหนังสือด้วย สุดๆ
วันที่4  ก็ยังบวมอยู่ แต่ก็ดีขึ้นนิดนึง ยังทรงๆอยู่ กินโจ๊กมา4วัน 12กระป๋อง โคตรเบื่อ ผมเครียดด้วยกลัวปากไม่สวย
วันที่5  หิวข้าวแล้วก็เบื่อโจ๊กมากๆ ผมทนไม่ไหวแล้วอะ เลิกเรียนผมไปกินส้มตำเลย ผมไม่ไหวจริงๆ อยากกินอาหารที่มีรสชาติบ้าง
ก็ยังบวมระดับนึง เจ็บนิดๆ กินส้มตำไปก็อร่อยไปเจ็บไปนิด 55


วันที่6   เริ่มดีขึ้นเยอะแล้วครับ รูปปากเริ่มชัดขึ้น ผมค่อนข้างมั่นใจว่าปากผมจะสวยก็วันนี้หละ

frankywawah

ปากปีกนก เป็นกระจับ แบบนี้หละที่ผมชอบ 6วัน ยังไม่ได้ตัดไหม หนวดก็ไม่ได้โกน 55 ตอนนั้นเห็นปากแบบนี้ก็เลิกเครียดแล้วครับ แต่รู้สึกข้างๆ สองข้้างมันเป็นไตๆ จะหายไหมนี่ - - "



บางคนก็แปลกโนะ บอกว่าปากผมสวย ไปทำที่ไหนมา พอบอกไป ปรากฎไปทำอีกที่นึง ไม่สวยเลย ไม่เป็นทรง ไม่เป็นกระจับ แล้วก็มาบอกอยากแก้ ปากกว่าจะหายดีก็ใช้เเวลานานอยู่ แล้วใช่ว่าจะแก้กันได้บ่อยๆ ง่ายๆ ไม่เข้าใจทำบอกแล้วไม่เชื่อ ชอบพิศดารไปทำที่แปลกๆ ที่ๆไม่เคยมีใครพูดถึง แล้วมานั่งเสียใจทีหลัง ก็สุดแล้วแต่ใครอยากทำที่ไหน คิดให้ดีๆก่อนไปทำกันนะจ๊ะ

frankywawah

ต้นฉบับโพสต์โดย Pnkberry เมื่อ 2012-5-26 21:36
เราว่ามันไม่ใช่น้ำหอมอย่างเดียวหรอกค่ะ ที่แสดงออก ...

ขอโทษนะครับ ผมโกหกอะไรหรอครับ ผมถามจริงๆนะครับ เรื่องที่คุณไม่มีเวลาไปฉีดยาเป็นความผิดของผมหรอครับ คำพูดของคุณที่บอกว่า " ตอนนี้ลาลำบากแล้ว ชั้นจะโทษใคร หา!! " เลยมาโทษผมใช่ไหมครับ เป็นคำพูดที่บ่งบอกเลย ว่าคุณตั้งใจจะมาใส่ร้ายผม ถามจริงๆเถอะ ตัวคุณเองเคยให้อะไรกับคนอื่นไหม คุณไม่มีเวลาไปฉีดยาไม่ใช่ความผิดผมนะครับ ส่วนเรื่องยาถามจริงๆนะ เคยฉีด ยาทั้ง2ตัวหรือยัง เคยฉีดยาแล้วหน้าบวมไหม ที่ออกมาบอกเพราะอยากให้คนรู้ว่า ตัวที่ฉีดแล้วไม่แสบ ไม่บวม มีอยู่จริง ส่วนเรื่องหลอกขายยา ผมเลิกพูดเรื่องเมโส ไปเป็นนานแล้ว ถ้าจะหลอกขาย ผมคงต้องพูดเรื่องเมโสบ่อย เลิกพูดไปนานแล้วนะ ทีคนอื่นหลอกขายยา หลอกขายbotox ทั้งกระทู้กันเห็นๆ ไม่ไปว่าละครับ หรือเป็นพวกเดียวกัน ได้รับผมกระทบเรื่องรายได้ จากการโพสของผมหรอครับ คนเข้ามาอ่านเข้าดูรู้ คุณไม่เคยทำอะไรเลย ไม่เคยให้ความรู้คนอื่นเลย บอกว่าผมทำตัวเป็นกูรู ผมก็เอาชีวิตผมมาเล่า แล้วเคยมีใครกล้าออกมาเล่าแบบนี้ไหม ปล่อยให้คนอื่นฉีดอะไรมั่วๆซั่วๆเข้าหน้าแบบนี้หรอ ผมไม่ใช่คนใจดำ ผมรู้อะไรผมก็เล่าให้ฟัง เชื่อไม่เชื่อก็แล้วแต่ครับ

ถ้าคุณไม่ชอบผม เกลียดผม มั่นไส้ อิจฉา หรืออะไรก็แล้วแต่ อย่ามาอ่านกระทู้ของผม อย่าใส่ร้ายผม
Lady gaga คนรักก็มี คนเกลียดก็เยอะ แต่เขาก็ให้ความบันเทิงกับทุกคน
ก่อนที่จะมาว่าผม ตัวคุณเคยให้อะไรคนอื่นไหมครับ