|
|
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย Pinkmaya เมื่อ 2011-11-24 19:33
ต้นฉบับโพสต์โดย lailaby เมื่อ 2011-11-24 17:23 ![]()
พึ่งได้ mixing white glow กับ collagen forte มาค่ะ แต่ตอนไปฉีดครั้งแ ...
Mixing ปัจจุบันมันมี 2 สูตร
สูตรแรก Mixing white Energize
สูตรที่สอง Mixing White Glow
ส่วนที่เรียกว่า มิกซิ่งไวท์ มันก็คือทั้ง 2 ตัว แต่คนจะเข้าใจว่าเป็น มิกซิ่งไวท์ตัวเก่า
เพราะตัวที่ออกใหม่มาแทนตัวเก่า คือ Mixing White Glow หรือเรียกกันเองว่า มิกซิ่งไวท์โกลด์
ตัวใหม่ Mixing White Glow นั้นนอกจากกลูต้าไธโอนแล้วยังผสม N-acetylcysteine (NAC) หรือก็คือ ซิสเตอีน
NAC เป็นสารที่ให้ sulfhydryl group เพื่อให้ glutathione มีความสามารถเพียงพอในการกำจัด toxic metabolites
การให้ NAC ทางเส้นเลือดดำอย่างรวดเร็ว จะทำให้เกิดความดันโลหิตต่ำ และอาการหน้าแดง (flushing)
ด้วยสาเหตุนี้ที่ทำไมคนใช้ Mixing White แล้วรู้สึกปวด และวูบๆ ก็เพราะมาจาก NCA นี้เอง
อย่างไรก็ตาม NAC ก็คือ Cysteine มันมีฤทธิ์แอนติออกซิแดนท์ ต้านพิษ ล้างพิษ และสังเคราะห์กลูต้าไธโอน
เพราะกรดอะมิโนที่เป็นตัวตั้งต้นในการสร้างกลูต้าไธโอน คือ Cysteine นั่นเอง
ด้วยเหตุนี้กลูต้าที่ผสม Cysteine ลงไปจะมีสีเหลือง ไม่ขาวแบบผงกลูต้าเพียวแบบ Teofarma
อีกอย่างตัว Mixing White Glow นั้นผสม High Alpha-Lipoic Acid ลงไปอีกด้วย ทำให้ร่างกายผลิตกลูต้าได้มากขึ้น
แต่ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม ร่างกายทุกคน มันจะมีผลตอบสนองต่างกันไป แน่นอนมันจะไม่ผลิตกลูต้าออกมาเยอะเกินความต้องการของร่างกาย
และเมื่อมันได้รับเยอะเกินมันก็จะขับออก
ด้วยสาเหตุนี้เขาจึงสร้างตัว Mixing white Energize อีกสูตรขึ้นมาด้วยการผสมสาร M-Tranexamic Acid ลงไป
ซึ่งต่างจากตัว Glow แค่ส่วนนี้
แต่คนไทยส่วนมากก็จะแอนตี้สาร Tranexamic ตัวนี้ เพราะเข้าใจว่าเป็นยาห้ามเลือด ยาหยุดเลือด จาก อ.ย. ออกมาประกาศโครมๆ
แต่สรรพคุณของมัน คือ
กรด (m-Tranexamic Acid)
-- มีผลต่อการรักษารอยแผลเป็นจากสิว ลดริ้วรอย สร้างความยืดหยุนให้ผิว
-- เป็นอาหารของเซลล์ สร้างพลังงานให้เซลล์
-- ช่วยในการผลัดเซลล์ แก้ไขโครงสร้างของเนื้อเยื้อ และอวัยวะ
-- ป้องกันไม่ให้เซลล์เสื่อมสภาพเพราะถูกทำลายจากความเครียด
ผลการศึกษาของญี่ปุ่นพบว่า
1.) ลด และไม่สร้างเซลล์เม็ดสีน้ำตาล หรือน้ำตาลดำ ออกมาเลย
2.) ป้องกัน และรักษาโรคผิวหนังไหม้แดด เช่น กระแดด ผิวไหม้คล้ำจากรังสีอัลตราไวโอเลต และผิวเสียจากการใช้ยาในกลุ่มสเตียรอยด์ และยาเสพติด
3.) จำกัดจุดด่างดำเนื่องจากการสัมผัสแสงแดด
4.) ป้องกันการอักเสบของผิวหนังจากการถูกแสงแดด.
5.) รักษาอาการผิวหยาบจากการถูกรังสี UVA/UVB มลพิษ หรือปัจจัยภายนอกอื่นๆ
6.) บล็อกไม่ให้ผิวสร้างเมลานิน จากการถูกรังสีอัลตราไวโอเลต
7.) ป้องกันการสะสมของเมลานิน
8.) หยุดกระบวนการ melanocyte tyrosinase ทำให้แก้ปัญหาผิวอักเสบจากการถูกรังสีอัลตราไวโอเลต
-- การใช้กรดทรานซามิคในการผ่าตัด มีไว้เพื่อ บรรเทาอาการของแสงเลเซอร์ทุกชนิดอันเป็นกระบวนการอักเสบจากการถูกรังสีจากแสงเลเซอร์ (กระบวนการ Phototherapy)
-- กรดทรานซามิคยังมีผลว่าสามารถรักษา เกลื้อน จุดด่างดำ และผิวไหม้ได้ดีที่สุดอีกด้วย
-- รอยแผลเป็นจากสิว และรอยสีดำจากแผลเป็นสิว จะค่อยๆ ถูกฟอกจนหลุดลอกออกมาทีละนิดจนหมด
-- กรดทรานซามิคสามารถต่อต้านอนุมูลอิสระ และป้องกันอาการแพ้แสงแดดได้ด้วย
***ข้อพึงระวังในการใช้ กรดทรานซามิค
-- ไม่ควรใช้เกิน 250 - 500mg ต่อ ครั้ง (ขึ้นอยู่กับองค์ประกอบการเผาผลาญพลังงานของแต่ละคน)
-- กรดทรานซามิคจะได้ผลหากถูกฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำเท่านั้น [intravenously (IV)]
-- การใช้กรดทรานซามิค ห้ามใช้ร่วมกับ ยาปฏิชีวนะ ยาคุมกำเนิด และฮอร์โมนเอสโตรเจน (estrogen) เพราะกรดทรานซามิคจะถูกทำลายทันที
-- ห้ามใช้กับสตรีที่ให้นมบุตร และผู้ป่วยโรคหัวใจและหลอดเลือด นอกจากนี้ยังห้ามใช้กับผู้ที่มีประวัติแพ้วิตามินในการฉีดยาด้วย
ส่วนที่บอกว่าแท้ไม่แท้นั้น บอกได้เลยว่าเอาไปให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบผ่านทางห้องแลปเท่านั้นค่ะ ถึงจะทราบ หรือเอาไปให้คนที่เคยใช้อยู่ดูก็จะทราบค่ะว่าแท้ไม่แท้ |
|
ตาวิเศษ
โพสต์ 2011-11-24 19:32:50
