ตู้ฮู้!!!!!!!จิดามาเล่าเรื่องทำตกแต่งปากที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์
รูปหลังทำตกแต่งปาก
สาเหตุของการตกแต่งปากสำหรับจิดาแล้ว จิดาทำเพราะปากเดิมไม่สวยเอามากๆ เหมือนคนที่ปากมีปัญหาเลยค่ะ
Before
ปากจิดาหมอบอกว่ามีความเบี้ยวไม่เท่ากันเวลาที่ทำค่อนข้างยาก เพราะตัดปากเป็นงานศิลป์มากต้องตัดให้พอดี ต้องเว้นช่วงให้เหมาะ ไม่งั้นจะเบี้ยวหนักกว่าเดิมและแก้ยากมาก
จิดาบ้านอยู่แถวนนทบุรีและได้ยินชื่อเสียงโรงพยาบาลเลอลักษณ์มานานพอสมควร ตัวเองไม่ได้หารีวิวดูมากมาย แต่เชื่อที่โรงพยาบาลเป็นโรงพยาบาลที่น่าเชื่อถือค่ะ พอโทเข้ามาปรึกษาก่อนก้ให้คำปรึกษาค่อนข้างดีเลยค่ะ จึงตัดสินใจโทรจองเลย และช่วงเดือนที่จิดาทำเป็นโปรโมชั่นราคาไม่แพงด้วยค่ะ เลยรีบจองคิวทำเลย จิดาไม่ได้มีหมอในดวงใจ ตอนนั้นพนักงานบอกว่ามีให้เลือก 3 คน ค่ะ เราเลือกคนที่ราคาเบาสุดๆเพราะคิดว่าก็คงเหมือนกัน ราคาหมอพรีเมี่ยมต่างกับราคาหมอธรรมดาเยอะมาก เราถามเขานะว่าหมอธรรมดาเนี่ยไม่เก่งหรอ เขาบอกเก่งค่ะ แต่คือที่นี่จะจัดหมอเป็นหมอพรีเมี่ยมคือจะถนัดเรื่องนั้นๆมากที่สุดก็ยกเป็นหมอพรีเมี่ยมไป และราคาก็อัพขึ้นส่วนหมอท่านอื่นราคาปกติ แต่ก็เป็นแพทย์เฉพาะทางหมดนะคะ เลยไม่ต้องกังวลเรื่องความสามารถหมอค่ะ
รูปหลังทำเสร็จเพิ่งออกมาจากห้องผ่าตัด
ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์มีเทคนิคพิเศษ “ เรื่องการวางยาสลบ”
บางคนสงสัยว่าทำศัลยกรรมเล็กๆถึงขั้นวางยาเลยหรอ แต่ที่โรงพยาบาลเลอลักษณ์มีมาตรฐานในการวางยาเพียงเล็กน้อยให้พอมึนเท่านั้น จากการสอบถามคนที่ทำออกมาก่อนที่จิดาจะเข้าไปทำ เขาบอกว่าตอนที่หมอทำนั้นจะรู้สึกตัวนะยาสลบฉีดที่แขนแบบอ่อนๆ ไม่ได้ฉีดเยอะยังไงก็ปลอดภัยค่ะ พอเจอกับตัวเองก็ใช่เลย เราจะรู้ว่าหมอพูดอะไรแว่วๆนะคะ
พอทำเสร็จก็เรียกให้ตื่นก็ตื่นค่ะ คือสติและหูได้ยินเสียงเรียกแน่นอนค่ะ
คุณหมอจะวาดปากและอธิบายเกี่ยวกับปากแค่ไม่นานก็ลงมือทำเลย พอทำเสร็จก็กลับบ้านได้เลยไม่ต้องนอนพักนาน และหมอก็ให้ทาวาสลีนหรือทำให้ปากไม่แห้ง หมอบอกว่าต้องคอยทาบ่อยๆนะคะไหมจะค่อยๆละลายหายไปเองค่ะ ถ้าเป็นแผลไม่ต้องกังวลทายาบ่อยๆ หมั่นม้วนปากฆ่าเชื้อด้วยนะคะ อยากให้ปากโดนอะไรกระทบระหว่าง 7 วันนี้ถือว่าปลอดภัยค่ะ
คุณหมอแนะนำดีน่ารักมากค่ะ จิดาชอบบริการที่นี่พอสมควร แต่ขอติเรื่องการนัดหมายเรื่องรอคิว แต่ตามจริงโรงพยาบาลคนเยอะมันต้องรอเป็นธรรมดาแหละ เมื่อกลับบบ้านมาก็ทำตามที่หมอสั่งทุกอย่าง
วันที่สองถือว่าดูดีกว่าวันที่ทำเสร็จวันแรกเยอะเลยนะคะ ช่วงที่ทำปากก็ไม่ได้ออกจากบ้านเลย อยู่บ้านหยอดน้ำข้าวต้มอย่างเดียว เพื่อนๆที่ทำปากห้ามกินของดองของเผ็ด ขนมอบกรอบ ให้กินเป็นโจ๊กข้าวต้มดีกว่าค่ะ
ส่วนตัวจิดาเน้นกินแต่นมกับโจ๊กค่ะ
11 วันเริ่มเข้าที่เข้าทางดีขึ้น แต่มีรอยปากแตกอยู่นิดหน่อย
เดี๋ยวก็หายค่ะ เพราะหลังๆไม่ค่อยได้ทาวาสลีนเท่าไรแล้วค่ะ
ทำปากการดูแลไม่ยากค่ะ ยากตอนที่ลุ้นค่ะ ลุ้นว่าทรงออกมาจะถูกใจเราไหม
ทำศัลยกรรมย่อมต้องมีความเสี่ยง
ต้องศึกษาการทำศัลยกรรมดีๆ หากเกิดความผิดพลาดก็ต้องแก้เจ็บตัวไปอีก ปากแก้ยากพอๆกับการแก้ตาค่ะ