ดู: 327|ตอบกลับ: 1
สั่งพิมพ์ ก่อนหน้า ถัดไป

[ตัดลดโหนกแก้ม/กราม] รีวิว

[คัดลอกลิงก์]
ก่อนผ่าตัด

หลังจากตัดสินใจเดินทางมาผ่าตัดที่รพ.บาโนบากิ ประเทศเกาหลี วันนี้มีนัด consult กับคุณหมอครั้งสุดท้ายก่อนผ่า ซึ่งรอบนี้จะเป็นอะไรที่เห็นภาพชัดที่สุดแต่ก่อนจะได้คุยกับคุณหมอ เราต้องเตรียมตัวตรวจความพร้อมร่างกายให้ดีก่อนคับ นั่นคือการไปถ่ายรูปหน้าเราในทุกองศาหน้า (ตรงนี้บอกตามตรงเลยว่ารอดยากจริงๆ 55) แล้วก็เข้าเครื่อง Xray เพื่อดูโครงหน้าของเราทั้งหมด (สำหรับผ่าตัดโครงหน้า) จากนั้นก็เจาะเลือด ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจกับความดันเป็นขั้นตอนถัดไปปป




เอาล่ะถึงเวลาปรึกษาแล้วว หมอโอชังฮยอนก็แนะนำแบบรวดเร็วทันใจแบบไม่ต้องเปิดไพ่หรือขอวันเดือนปีเกิด ก็วินิจฉัยบอกปัญหาอย่างตรงจุดแบบที่เราเห็นด้วยทุกอย่างและเป็นปัญหามานาน คือหน้าบานเป็นดวงจันทร์ ฮ่าา หมอโอไม่รอช้า เนรมิตสิ่งต่างๆ เพื่อแก้ปัญหานี้ทันที (ซึ่งก็ไม่น้อยเลย สำหรับคนที่เพิ่งทำศัลยกรรมใหญ่ครั้งแรก) มีดังต่อไปนี้ ...





เหลาโหนกกรามเพื่อให้เล็กเข้ากับรูปหน้า เพราะถ้าดูจากรูปก่อนทำจะเห็นเลยว่าการมีโหนกแก้มของเราคือปัญหาใหญ่ที่ทำให้หน้าป้านมาก ตัดกราม เราเป็นคนมีกรามนี่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้หน้าเราโดยรวมออกมาแล้วไม่ได้สัดส่วนคางก็สำคัญ แต่เป็นสิ่งไม่ได้คาดคิดมาก่อนเหมือนกันว่าจะเป็นปัญหาว่าการที่เรามีคางยาวไม่สมส่วนกับหน้า หมอโอก็จะตัดให้สั้น เข้ากับรูปหน้าอีก 2 จุดที่ได้อธิบายไปข้างบน ฟังทั้งหมดนี้แล้วเหมือนจะหมด ยังงง หมอโอของแถมแบบที่สุดพิเศษคือการเอากระดูกที่ตัดออกไปแล้วมาเติมที่ร่องแก้มให้และที่บอกว่ามันพิเศษเพราะหมอบอกว่าถ้าเราทำแบบนี้จะทำให้ไม่ต้องฉีดโบท็อกซ์อีกเลยยย สุดๆๆ และมันเป็นครั้งเดียวเท่านั้นที่จำทำได้สำหรับคนที่ผ่าตัดโครงหน้าโดยเฉพาะ เพราะเขาจะเอากระดูกที่ตัดไปในส่วนอื่นมาใส่ให้ที่ร่องแก้มเรานั่นเอง



ถ้าถามว่าของเราจบหรือยังก็บอกเลยว่ายังง.. เพราะยังเหลือหมออีกท่านที่เราต้องไปปรึกษา คือหมอลียูจองที่จะมาดูแลจมูกของเรานั่นเอง พอเข้าไปถึงห้องคุณหมอก็ถามถึง REF ของจมูกที่เราอยากให้เป็นและอธิบายให้เราฟังอย่างง่ายเลยว่า จมูกของเรา ตอนนี้มันสั้น จึงต้องเอาซิลิโคนมาเติมตรงกลางจมูกและเอากระดูกซี่โครงหรือหลังหูมาต่อที่ปลาย เพื่อให้ได้รูป แต่หมอยูก็บอกเอาไว้ก่อนแล้วว่าโครงสร้างจมูกเราไม่เหมือนกับ REF ที่ให้มา ถ้าจะให้ธรรมชาติ (ตามบรีฟแรก) หมอยูก็จะทำให้ได้เพียงใกล้เคียงเท่านั้น ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่เราต้องการ




จบแล้ว สำหรับวันปรึกษาอันเหน็ดเหนื่อย เพราะมีทั้งความ กังวล ตื่นเต้น และไม่รู้ว่าตัวเองตัดสินใจถูกไหมกับการทำครั้งนี้ แต่ในเมื่อโอกาสมาแล้ว และเคยสัญญากับตัวเองว่าจะพยายามรับทุกโอกาสที่เข้ามาให้ได้ ก็ต้องขอบคุณโรงพยาบาลบาโนบากิด้วยนะค้าบบ


2#
 เจ้าของ| โพสต์ 2024-4-5 14:12:23 | ดูเฉพาะโพสต์สมาชิกนี้
วันผ่าตัด

ทางโรงบาลก็จะนัดเรามีเช็ครอบสุดท้าย เพราะตารางผ่าเราคือ 10 โมง และจะต้องตรงเวลากันมากๆ  เพราะหากเราเลทจะยิ่งทำให้เคสต่อไปเลื่อนไป ซึ่งไม่ดีเลย ฉะนั้นเราควรห้ามสายเด็ดขาดด



เอาล่ะ ฮือออ เป็นวันที่ตื่นเต้นและอึนๆ กับตัวเองเหมือนกัน ที่เดินทางมาถึงจุดนี้ได้ มันแบบไปต่อได้ยังเดียว  ถอยหลังไม่ได้แล้ว จังหวะที่พี่ล่าม เดินมาบอกว่าถึงเวลาขึ้นไปห้องผ่าตัดแล้วคือแทบไม่อยากจะเชื่อ แต่เอาเถอะะ คิดแค่ว่าเรากำลังทำในสิ่งที่ไม่เสียหายและผลของมันหลังทำก็จะดีมาก ๆ ด้วย จังหวะนั้นคืออยากกรี๊ดดดด  สักที แต่กลัวคนหาว่าบ้า 555



พอเข้าไปถึงก็บ้วนปากรอบสุดท้าย และก็โดนเรียกตัว ไปที่ห้องผ่าตัด ก็เจอพี่ๆพยาบาลเรียงรายมากมาย จนเราเข้าไปถึงบนเตียง พี่ๆ พยาบาลก็จะเช็คเราอีกครั้ง เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพต่างๆ พร้อมล็อคมือและเท้าเราไว้ (เพราะร่างกายเราอาจจะขยับหรือกระตุกได้ ในช่วงที่เขาผ่าตัด) จังหวะนั้นเองหมอวิสัญญีก็จะเข้ามาเพื่อวางยาสลบเรา  ตอนนั้นโคตรของโคตรตื่นเต้นนๆๆ ไม่คิดไม่ฝัน ว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น  แล้วสักพักควันยาสลบก็ค่อยๆ ลอยเข้ามา พยาบาลก็นับถอยหลัง  จนกระทั่งเราเหมือนหลับไปโดยไม่รู้ตัว ภาพตัด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขาเอาเครื่องปล่อยยาสลบมาที่หน้าเราเมื่อไหร่ เปิดประสบการณ์มากๆ



รู้ตัวอีกที เราก็ถูกปลุกให้ตื่นซะแล้ว จังหวะนั้นเองที่เราเพิ่งคิดได้ว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว เขาผ่าตัดเสร็จแล้ว อย่างแรกคือหันไปดูนาฬิกาาา  18:30 แล้วว  ผ่านไปตั้ง แปดชั่วโมง ไวเหมือนโกหก จังหวะที่ตื่นมาได้แต่บอกกับตัวเองว่าต้องดึงสติตัวเองเอาไว้ให้ได้แต่มึนและเมายาสลบอยู่ ไม่รวมความเจ็บและปวดจากการผ่าตัด แต่เอาวะพยายามหายใจเพื่อเอายาสลบภายในร่างกายออกไป แล้วพี่ล่ามก็บอกจะยังไม่สามารถกินน้ำได้สี่ชั่วโมง ตอนแรกก็คิดว่าเอาวะเราทนไหวแหละ แต่ระหว่างรอกว่าจะดื่มน้ำได้เนี่ยแหละ ที่สุดแห่งการรอแล้ว คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก ไหนจะสายเดรนอีก นี่มันโหดไปไหม อะไรที่คิดว่าจะได้เจอก่อนทำ ตอนนี้ได้เจอกับตัวเองแล้ว ประสบการณ์ชีวิตครั้งนี้ไม่มีลืมเด็ดขาดด




ความโชคดีนึงคือการมีเพื่อนไปด้วย ก็เป็นสิ่งที่ช่วยได้เยอะเหมือนกันในแง่ได้มีเพื่อนคุยระหว่างรอตั้งสี่ชั่วโมง มันอาจจะไม่ได้ไวขึ้นแต่มันดีกว่ารอโดยไม่มีใครสี่ชั่วโมงแน่ๆ แต่คนทำศัลย์ที่เกาหลีนี่เก่งกันจริงนะ เพราะเหล่าคนที่ได้รับการผ่าตัดวันนี้ ทุกคนล้วนรุกขึ้นมาเดินไปรอบ ๆ โดยมิได้นัดหมายด้วยกัน คงเป็นเพราะการเดินมีผลทำให้ฟื้นตัวไวด้วยนั่นเอง

แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงสี่ทุ่มพอดีเป๊ะ จังหวะนั้นคือรีบบอกให้เพื่อนไปหยิบน้ำเทใส่แก้วมาทันทีแล้วดื่มจนครึ่งขวด

จากนั้นก็ไล่เพื่อนกลับไปเพราะคืนนี้เราต้องนอนพักฟื้น 1 คืน แต่พอได้กินน้ำเราก็ดีขึ้นมากจริงๆ แต่ความโหดต่อมาคือความไม่เคยชินกับการหายใจที่ลำบาก ต้องนอนหน้าตรงเท่านั้นน นี่แหละที่ทำให้เรานอนยากมากๆ สำหรับคืนแรก

แล้วจะกลับมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้อ่านต่อนะครับ
ขออภัย! คุณไม่ได้รับสิทธิ์ในการดำเนินการในส่วนนี้ กรุณาเลือกอย่างใดอย่างหนึ่ง ลงชื่อเข้าใช้ | ลงทะเบียน

รายละเอียดเครดิต

ติดต่อผู้ดูแลเว็บไซต์ได้ที่ webdungdong@gmail.com|บริษัท ดั้งโด่งดอทคอม จำกัด|ติดต่อลงโฆษณา| ดั้งโด่งดอทคอม@2020

Copyright © 2001-2013 Comsenz Inc.   All Rights Reserved. Powered by Discuz! X3.2 R20140618, Rev.27, Thzaa City 1 Style

ตอบกระทู้ ขึ้นไปด้านบน ไปที่หน้ารายการกระทู้