วันผ่าตัด
ทางโรงบาลก็จะนัดเรามีเช็ครอบสุดท้าย เพราะตารางผ่าเราคือ 10 โมง และจะต้องตรงเวลากันมากๆ เพราะหากเราเลทจะยิ่งทำให้เคสต่อไปเลื่อนไป ซึ่งไม่ดีเลย ฉะนั้นเราควรห้ามสายเด็ดขาดด
เอาล่ะ ฮือออ เป็นวันที่ตื่นเต้นและอึนๆ กับตัวเองเหมือนกัน ที่เดินทางมาถึงจุดนี้ได้ มันแบบไปต่อได้ยังเดียว ถอยหลังไม่ได้แล้ว จังหวะที่พี่ล่าม เดินมาบอกว่าถึงเวลาขึ้นไปห้องผ่าตัดแล้วคือแทบไม่อยากจะเชื่อ แต่เอาเถอะะ คิดแค่ว่าเรากำลังทำในสิ่งที่ไม่เสียหายและผลของมันหลังทำก็จะดีมาก ๆ ด้วย จังหวะนั้นคืออยากกรี๊ดดดด สักที แต่กลัวคนหาว่าบ้า 555
พอเข้าไปถึงก็บ้วนปากรอบสุดท้าย และก็โดนเรียกตัว ไปที่ห้องผ่าตัด ก็เจอพี่ๆพยาบาลเรียงรายมากมาย จนเราเข้าไปถึงบนเตียง พี่ๆ พยาบาลก็จะเช็คเราอีกครั้ง เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพต่างๆ พร้อมล็อคมือและเท้าเราไว้ (เพราะร่างกายเราอาจจะขยับหรือกระตุกได้ ในช่วงที่เขาผ่าตัด) จังหวะนั้นเองหมอวิสัญญีก็จะเข้ามาเพื่อวางยาสลบเรา ตอนนั้นโคตรของโคตรตื่นเต้นนๆๆ ไม่คิดไม่ฝัน ว่ามันกำลังจะเกิดขึ้น แล้วสักพักควันยาสลบก็ค่อยๆ ลอยเข้ามา พยาบาลก็นับถอยหลัง จนกระทั่งเราเหมือนหลับไปโดยไม่รู้ตัว ภาพตัด ไม่รู้ด้วยซ้ำว่า เขาเอาเครื่องปล่อยยาสลบมาที่หน้าเราเมื่อไหร่ เปิดประสบการณ์มากๆ
รู้ตัวอีกที เราก็ถูกปลุกให้ตื่นซะแล้ว จังหวะนั้นเองที่เราเพิ่งคิดได้ว่าทุกอย่างผ่านไปแล้ว เขาผ่าตัดเสร็จแล้ว อย่างแรกคือหันไปดูนาฬิกาาา 18:30 แล้วว ผ่านไปตั้ง แปดชั่วโมง ไวเหมือนโกหก จังหวะที่ตื่นมาได้แต่บอกกับตัวเองว่าต้องดึงสติตัวเองเอาไว้ให้ได้แต่มึนและเมายาสลบอยู่ ไม่รวมความเจ็บและปวดจากการผ่าตัด แต่เอาวะพยายามหายใจเพื่อเอายาสลบภายในร่างกายออกไป แล้วพี่ล่ามก็บอกจะยังไม่สามารถกินน้ำได้สี่ชั่วโมง ตอนแรกก็คิดว่าเอาวะเราทนไหวแหละ แต่ระหว่างรอกว่าจะดื่มน้ำได้เนี่ยแหละ ที่สุดแห่งการรอแล้ว คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก ไหนจะสายเดรนอีก นี่มันโหดไปไหม อะไรที่คิดว่าจะได้เจอก่อนทำ ตอนนี้ได้เจอกับตัวเองแล้ว ประสบการณ์ชีวิตครั้งนี้ไม่มีลืมเด็ดขาดด
ความโชคดีนึงคือการมีเพื่อนไปด้วย ก็เป็นสิ่งที่ช่วยได้เยอะเหมือนกันในแง่ได้มีเพื่อนคุยระหว่างรอตั้งสี่ชั่วโมง มันอาจจะไม่ได้ไวขึ้นแต่มันดีกว่ารอโดยไม่มีใครสี่ชั่วโมงแน่ๆ แต่คนทำศัลย์ที่เกาหลีนี่เก่งกันจริงนะ เพราะเหล่าคนที่ได้รับการผ่าตัดวันนี้ ทุกคนล้วนรุกขึ้นมาเดินไปรอบ ๆ โดยมิได้นัดหมายด้วยกัน คงเป็นเพราะการเดินมีผลทำให้ฟื้นตัวไวด้วยนั่นเอง
แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึงสี่ทุ่มพอดีเป๊ะ จังหวะนั้นคือรีบบอกให้เพื่อนไปหยิบน้ำเทใส่แก้วมาทันทีแล้วดื่มจนครึ่งขวด
จากนั้นก็ไล่เพื่อนกลับไปเพราะคืนนี้เราต้องนอนพักฟื้น 1 คืน แต่พอได้กินน้ำเราก็ดีขึ้นมากจริงๆ แต่ความโหดต่อมาคือความไม่เคยชินกับการหายใจที่ลำบาก ต้องนอนหน้าตรงเท่านั้นน นี่แหละที่ทำให้เรานอนยากมากๆ สำหรับคืนแรก
แล้วจะกลับมาอัพเดทให้เพื่อนๆ ได้อ่านต่อนะครับ |