|
แก้ไขล่าสุดโดย boi เมื่อ 2010-9-22 16:37
บ้านมาลงทะเบียนให้มีบ่นว่า แดดร้อนมาก สิ่งนั้นทำให้ boi ประทับใจนาย A ช่วงเรียนมีซื้อขนมมาฝาก ชวนไปเที่ยว ชวน
ไปกินข้าวคือ Takecare boi ตลอด มี ครั้งหนึ่งที่นาย A ชวน boi ไปที่บ้านบอกว่าวันนี้เป็นวันเกิดพี่ชาย พ่อกับแม่น้องสาวอยู่
ที่บ้านด้วยอยากให้ไปร่วมสนุกด้วยกัน แต่ boi ปฏิเสธว่าไม่ไป หลังจากครั้งนั้นนาย A ก็ชวนไปเที่ยวที่บ้าน ถึง 3 ครั้ง แต่ boi ปฏิเสธ
ตลอดเลย คือวางฟอร์มไม่รู้ว่า นาย A คิดยังไงกันแน่ คือกลัวไม่อยากไว้ใจมากลูกผู้หญิงก็ต้องระวังตัวไว้ก่อนถึงจะเรียน Summer ด้วยกัน
แต่ก็มีบางวันที่นาย A ไม่มาเรียนเพราะนาย A ไปเรียนกวดวิชาเพื่อสอบทหารด้วย boi ก็เลยต้องดูแลห่วงใยนาย A มากเป็นพิเศษ
ทั้งงานที่ส่งอาจารย์ การบ้าน ทุกอย่างเลย ต้องคอยส่ง Massage เตือนเรื่องเรียนตลอด วันมาเรียนนาย A ก็มาพูดให้ฟังว่า พอได้รับข้อความที่ boi ส่งให้
ที่บอกไม่อยากให้นอนดึก นาย A บอกว่าเมื่อคืนหลังจากได้รับข้อความแล้วเข้านอนเลยเดี๋ยวตื่นสายมาเรียนไม่ทัน ช่วงเรียนเราสองคนคุยเล่นหยอกล้อกันตลอดเลย
จนมีเพื่อนคนอื่นถามว่า เป็นแฟนกันหรือเปล่า boi ก็ไม่ตอบ แต่นาย A ตอบว่าเราสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก boi เป็นเพื่อนผู้หญิงที่เขาสนิทด้วยที่สุด
ในช่วงเวลาที่เรียน Summer นั้น boi ก็เริ่มชอบ นาย A แล้วล่ะ คำตอบของนาย A ทำให้ boi แอบเสียใจนะเพราะเวลาที่เรียนด้วยกันทำกิจกรรมร่วมกันอาการที่
คุยหยอกล้อกันมันทำให้ boi ไม่แน่ใจว่า นาย A คิดกับ boi แค่เพื่อนจริงนะเหรอ หมดช่วง Summer ก็เปิดเรียนภาคปกติ boi ลองไปปรึกษาเพื่อนสนิทของ boi
เพื่อนก็บอกว่ามี 2 อย่าง คือ ไม่แน่ว่านาย A อาจชอบ boi ไม่ก็คิดว่า boi เป็นเพื่อนจริงๆ เพื่อนให้เหตุผลว่า นาย Aเป็นคนที่มีน้ำใจ กับเพื่อนถึงไหนถึงกันได้ฟัง
อย่างนั้นแล้วเลยทำให้ boi ไม่คิดอะไรมากน่าจะเป็นอย่างหลังมากกว่าเพราะ นาย A เคยบอกจะไม่เอาเพื่อนในห้องมาเป็นแฟน หลังจากนั้นมาความสนิทของ boi
กับ นาย A ก็ทำให้มีเพื่อนในห้องเรียนแซว ทั้งเพื่อนสนิทของนาย A และคนอื่นๆ ด้วย นาย A ก็ไม่ปฏิเสธเลยแต่ก็ไม่ได้ยอมรับ คือเฉย ๆ เลยทำให้มีเพื่อนคนหนึ่งคิดว่าเรา 2
คน เป็นกิ๊กกัน มีเพื่อนคนหนึ่งแซวนาย Aว่าไม่ไปกินข้าวกับกิ๊กเหรอ ซึ่งกิ๊กที่เพื่อนคนนั้นหมายถึงคือ boi เอง นาย A ก็เดินมาถามว่า จะไปกินข้าวแล้วเหรอ
หิวมากมั้ยงั้นก็ไปก่อนก็ได้นะเดี๋ยวตามไป คืองงคะเหมือนนาย A ยอมรับเลยว่าเราเป็นมากกว่าเพื่อนกัน แต่ boi ก็ยังเฉยอยู่ไม่แสดงอาการอะไร วางฟอร์มอีก
ิมีครั้งหนึ่ง boi ชวนเพื่อนสนิทไปทำบุญ แต่ไม่รู้จะไปที่ไหน เลยโทรถาม นาย A นาย A เลยอาสาจะพาไปทำบุญแถวบ้านนาย A เรานั่ง Taxi ไม่พูดกันสักคำ
เวลาคุย boi ก็จะคุยกับเพื่อนสนิทของ boi นาย A ก็ไม่คุยกับ boi นะคุยกับเพื่อนสนิทของ boi แทน ตอนกลับเรา 3 คน นั่งรถสองแถวกลับ ด้านหลังรถมีที่นั่งว่าง 2
ที่ ด้านหน้าคนขับ 1 ที่ ด้วยความที่ boi อาย ไม่กล้านั่งกับนาย A boi ก็เลยให้เพื่อนไปนั่งแทน แต่ เพื่อนสนิทของ boi อ้วน นั่งไม่ได้ boi เลยต้องไปนั่งด้านหลัง
ส่วนเพื่อนสนิทไปนั่งด้านหน้า boi กับนาย A ก็เลยต้องนั่งด้วยกัน นาย A ถาม boi กินข้าวมาหรือยัง หิวมั้ย อยากจะกินอะไร เดี๋ยวพาไปกินข้าว วัดเป็นไง สวยมั้ย
คือพูดไม่หยุด งงมากกับอาการนี้ ระหว่างกินข้าวนาย A ก็มีหยอก boi บ้างทำเอาเขินไปเลย ตอนกลับจากทำบุญ boi กับเพื่อนยืนรอรถ นาย A ก็ยืนรอเป็นเพื่อน
วันนั้น boi เก็บอาการแอบชอบไว้ไม่อยู่เลยแสดงให้นาย A รู้นิดหนึ่งว่า boi ชอบนะรู้สึกดีด้วยโดยการยืนรอรถเวลารถมา boi ก็ไม่ขึ้นเพื่อนก้ถามไม่ขึ้นเหรอรถมาแล้วนะ
boi ก็ไม่ขึ้น ประมาณ4 คันที่ผ่านมา boi ก็ไม่ขึ้น จนนาย A ถาม รออะไรทำไมไม่ขึ้นรถกลับ boi เลยตอบว่า จะรอขึ้นรถสีแดง นาย A บอกว่า รถสีแดง สายนี้ไม่มีหรอก |
|