เมื่อฉันเสียใจกับศัลยกรรม

bubble

ทำใจดีๆไว้นะ  ถ้ารู้สึกเจ็บจริงๆ  ก็หาหมอให้หมอเอาออกให้ก่อนเถอะ  
ดีกว่าปล่อยทิ้งไว้มันอันตราย
เราก็เสียใจเหมือนกันที่พลาดไปทำbioมายิ่งคิดยิ่งเสียใจแต่มันย้อนเวลาไม่ได้
ขนาดไปแก้มาแล้วรอบนึงก็ยังกังวลอยู่  เราเข้าใจความรู้สึกนะ  มากๆเลย
วันๆนึงก็ไม่เป็นอันทำอะไรคิดแต่จะหาทางแก้ไขอยู่ตลอด  บางทีก็ทำใจได้
บางทีก็กลับมาคิดว่าจะทำไงดีอยากไปแก้อยากเอามันออกไป
คนที่ทำbioมาไม่ใครรู้จริงๆว่ามันเป็นวิธีการที่อันตราย  เพราะข่าวแล้วก็ข้อมูลที่เราได้รับรู้ก็มีแต่
ความอันตรายของซิลิโคนเหลว  ไม่มีข้อมูลของbioซักนิด  หมอก็ไม่ใช่หมอถื่อนเปิดคลินิคอย่างถูกต้อง
ตามกฎหมาย  ราคาค่าทำbioไม่ใช่ถูกๆสมัยที่เราทำจมูก3ปีที่แล้ว16000บาท  ใครที่พูดว่า "ไม่รู้เหรอว่า
bioเป็นซิลิโคนปั่น  อะไรที่ฉีดๆเค้าไม่ให้ทำกันมันอันตราย  ไม่รู้หรือไง " อยากบอกไว้เลยว่า "ไม่รู้"
เพราะแต่ก่อนมันไม่มีข้อมูลว่าbioมันเป็นอันตรายมีแต่บอกว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ปลอดภัยไม่มีผลข้างเคียง
เรื่องผลอันตรายของbioก็เพิ่งจะเป็นข่าวหลังจากที่มีคนฟ้องร้องหมอที่ทำbio  นั่นก็หลังจากที่เราได้ทำไปแล้ว
อ้าว  เราก็ทำไปแล้ว  ได้แต่คิดว่าไม่นะเราคงไม่เป็นอะไร  แต่เวลาผ่านไป คนที่ทำbioมาก็ได้รับผลกระทบจากการ
ใช้วิธีการนี้  แล้วก็ต้องไปแก้ไข พยายามหาทางเอามันออกไป  แต่ก็นั่นแหละมันเอาออกได้ไม่หมด  เราก็เกิดความกลัว
รีบไปเอาออกโดยที่ยังศึกษาข้อมูลไม่ดีพอ  ก็พลาดไปแก้ที่คลินิคนึง  ที่พอทำเสร็จแล้วเค้าก็ไม่ได้ใส่ใจติดตามอะไร
อีกเลย ทั้งที่ใครๆก็รู้ว่าเคสแก้แบบนี้มีผลเสียตามมาภายหลังการแก้ไขค่อนข้างสูง คิดดูแล้วกันว่าตอนที่ขึ้นเขียงแก้นะ
หมอทิ้งรอยมีดไว้บนดั้งเรา  เป็นรอยมีดบาดยาวประมาณ1นิ้ว  ดีที่มันไม่ลึก   เวลาแก้bioที่หมอใช้กะเราประมาณ1ชม
ไม่เกินนี้รวมเวลาที่รอให้ยาชามันทำงานด้วยนะ  เร็วมาก  พอครบกำหนดตัดไหม พนักงานเป็นคนตัดให้  มาช่วยกันตัด2คน
คนแรกคัดไปก็บอกพี่มองไม่เห็นก็เลยไปบอกให้อีกคนมาตัดให้  ตัดเสร็จก็ให้กลับบ้านเลย  ทั้งที่ดั้งเราเขียวช้ำมากๆๆๆ
พนักงานมาถามเราอีกนะว่าจมูกไปกระแทกอะไรมา  เราก็บอกเราดูแลอย่างดี  ไม่มีกระแทก  ช่วงพักฟื้นก็นั่งนอน  เค้า
ก็งงๆว่าทำไมมันช้ำขนาดนี้  เราก็พอรูมาบ้างว่าเคสแก้bioมันช้ำเยอะ  ก็ได้แต่ทำใจ  แล้วก็เลยขอพบหมอก่อนกลับ
ไม่งั๊นไม่สบายใจแน่อะ  ช้ำขนาดนี้ตัดไหมเสร็จให้กลับบ้านเลย  จะดูอาการซักนิดก็ไม่มี   ก็หลังจากที่เจอหน้าหมอ
หมอก็บอก  สวยมากเลยลูกทรงสวยดีเดี๋ยวก็ยุบบวม  แค่นั้นคุยกันประมาณ3-4นาทีเอง  แล้วก็ไม่มีการนัดดูอาการอีกเลย
ตอนนี้ก็4เดือนแล้วจมูกก็เบี้ยว บางวันก็ดูบวมๆโตๆ  ทรงที่ได้จากที่แก้bioมาก็คือจมูกสั้น ใหญ่กว่าเดิม  กลุ้มหนักเข้าไปอีก
เขียนมาซะยาว     เฮ้อ  ขอระบายด้วยคนนะ
ไม่รู้ว่าตัวเองไปปรึกษาหมอคมมาแล้วหมอว่าไงนะแต่เท่าที่เราศึกษาจากคนที่ผ่านมือหมอคมมาหมอเค้าดูแลดีนะ  เคสแก้เยอะด้วย ถ้าคุณมน เอาออกแล้วรอเวลาเสริมใหม่ได้มั้ย
ถ้าเผื่อว่าขูดแล้วพักไปก่อนแล้วรอเวลาเสริมใหม่ได้  ส่วนตัวเราคิดว่าก็น่าจะเป็นวธีการที่ดีกว่าทิ้งไว้แล้วมันอักเสบงี๊  เราได้แต่ภาวนาว่าซักวันนึง   วิวัฒนาการทางการแพทย์จะสามารถช่วยคนที่พลาดไปทำbioมาอย่างพวกเราได้
เป็นกำลังใจให้นะ  อย่าท้อที่จะเข้าไปปรึกษาคุณหมอ