|
ตอบกลับ ashii
อ่อ..คุณอชิเป็นข้าราชการเหรอคะ...ดีจัง..ย ...
ต้นฉบับโพสต์โดย whitevanilla เมื่อ 2010-6-9 15:12
ที่ได้ไปก็ลาไป 1 อาทิตย์หลังเคลียร์งานเสร็จ ไปหลั่นล๊า ลั่นล๊า ครับ ให้รางวัลกับชีวิตบ้าง ไปเพื่อศึกษาชีิวิตความเป็นอยู่ วัฒนธรรม สภาพภูมิประเทศ อากาศที่ไม่เหมือนบ้านเรา (พูดซะดูดี จริงๆ ไปเล่นสกีเป็นหลัก แหะๆ)
กิมจิ รสเด่นๆ ผักที่นำมาปรุงนั้นมีส่วนสำคัญอย่างมากครับที่จะทำให้รสชาติ ออกเปรี้ยว เค็ม เผ็ด หวานนิดๆ
ตอนชิไปเรียน จริงๆ อาจารย์เขามีน้ำปรุงสำเร็จรูปให้เราครับ แต่ด้วยความอยากรู้และความมุ่งมั่นมาก ว่าอยากทำเป็นจริงๆ อาจารย์เขาก็ใจดีครับ สละเวลาเพิ่ม ประกอบกับวันนั้นทางทัวร์มาที่โรงเรียนเป็นที่สุดท้าย และเพื่อนๆที่ไปด้วยกันไม่ขัดข้อง และท่านอื่นๆก็อยากทราบเช่นกัน ซึ่งอาจารย์บอกว่าดีใจที่คนต่างชาติชื่นชอบในวัฒนธรรมบ้านเขา ซึ่งจริง ๆ กิมจิจะเป็นการถนอมอาหารเพื่อนำมารับประทานในฤดูหนาวที่ไม่ค่อยมีผัก โดยสมัยก่อนจะใช้พวกเศษผัก มาปรุง (คนเกาหลีจะอดทนสูง และทำงานหนักมากๆ มีความเป็นชาตินิยม และเป็นสังคมชุมชนที่เข็มแข็ง) เขาถ่ายทอดเป็นภาษาอังกฤษนะครับ เนื่องจากภาษาเกาหลีของชิ ไม่กระดิกเลย อิอิ ใจความก็ประมาณนี้ครับ
แต่ปรากฎว่าเขาทำแล้วอร่อยจนเป็นที่เลื่องชื่อ
ถ้าผักที่นำมาปรุงยังสดใหม่ ไม่แก่จนเกินไป รสชาติจะหวานๆมากกว่า แต่ตอนเราดองแหละครับ ตัวกำหนดรสชาติที่แท้จริงก็คือ เวลาและภาชนะที่บรรจุ จะกำหนดรสชาติ
ซึ่งรสชาติที่คนเกาหลีนิยมจะเค็มๆ เผ็ดๆ เปรี้ยวนิดหน่อย อาจไม่ค่อยถูกปากคนไทยอย่างเราเท่าไหร่นัก (ค.ห. ส่วนตัวจากประสบการณ์ที่สังเกตนะครับ)
จริงๆ การปรุงอาหารไม่มีกฎอะไรตายตัวหรอกครับ เอาเป็นว่าชอบแบบไหน เอารสนั้นนำก่อนเลยได้ครับ
ถ้าถามว่าชิชอบทำอาหารไหม คำตอบคือเป็น 1 ในกิจกรรมที่สนใจครับ ชิจะพยายามเรียนรู้ทุกอย่างให้ได้มากที่สุด
รถยนต์ก็ชอบ กีฬา ดนตรี พวกนี้ก็จะมีความรู้มากเป็นพิเศษหน่อยครับ แต่เด่นสุดคือร้องเพลง เพราะสามารถทำเป็นอาชีพเลี้ยงตัวเองได้สมัยเรียน ป.ตรี (ยิ่งพูดยิ่งแก่ 555)
โห..ยาวจัง โม้เพลิน ไม่รู้ว่าอ่านแล้วจะได้รับประโยชน์หรือจะงงมากกว่าเดิมก็ไม่รู้ครับ อิอิ
|
คะแนน
-
1
ดูบันทึกคะแนน
-
|